นานาโกะไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเรื่องพี่ชายของจิโร่เสียชีวิตในโอลรัส ฮิลล์ เธอรู้สึกอายเล็กน้อย ดังนั้นจึงรีบพูดว่า "ขอโทษนะคะคุณโคบายาชิ ที่ฉันบังเอิญพูดเรื่องที่ทำให้คุณนึกถึงความทรงจำที่เจ็บปวด"จิโร่รีบโบกมือก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า "ไม่เป็นไรครับ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเรื่องที่น่าหดหู่ใจมาก แต่คุณอิโตะก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสำหรับผมเลย การได้เล่าเรื่องโศกเศร้าและเรื่องคับข้องใจให้คุณฟัง ก็ช่วยคลายความโศกเศร้าเสียใจให้ผมได้เหมือนกัน...”อันที่จริงจิโร่ไม่ได้รู้สึกเศร้าโศกอะไรเลย เมื่อนึกถึงอิจิโร่พี่ชายของเขา ในทางตรงกันข้ามเขากลับมีความสุขมากด้วยซ้ำความคิดของลูกชายคนโตที่สืบทอดธุรกิจของครอบครัวนั้น ได้ฝังแน่นอยู่ในจิตใจของชาวญี่ปุ่นมาโดยตลอดไม่ว่าตระกูลนั้นจะใหญ่หรือมีอำนาจสักเพียงใด ลูกชายคนโตก็จะสืบทอดธุรกิจของครอบครัวในที่สุด ถึงแม้ว่าความสามารถของลูกชายคนโตจะไม่ดีเท่าลูกชายคนรองหรือลูกชายคนอื่น ๆ แต่เขาก็ต้องลงเอยด้วยการเป็นหัวหน้าครอบครัว ส่วนน้อง ๆ ที่มีความสามารถก็จะกลายเป็นผู้ช่วยของเขาแทนเดิมทีนั้นชะตากรรมของจิโร่ก็คือการเป็นผู้ช่วยให้กับอิจิโร่พี่ชายของเขา เพื่อสืบทอดบริษัทโ
จิโร่ไม่ยอมแพ้ เขายังคงถามต่อไปว่า "ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณไม่ลองคิดในตอนนี้เลยล่ะ? ผู้ชายแบบไหนที่จะเข้าเกณฑ์และมาตรฐานของคุณได้?”นานาโกะคิดอย่างรอบคอบก่อนจะพูดว่า "ก่อนอื่นเลยเขาก็ต้องเป็นคนที่เก่งกว่าฉันค่ะ!”"เก่งกว่าคุณในแง่ไหนครับ? อาชีพ? การศึกษา? หรือความสำเร็จ?”นานาโกะตอบอย่างจริงจังว่า "เขาจะต้องเก่งและแข็งแรงกว่าฉันในแง่ของทักษะการต่อสู้ป้องกันตัว! ฉันไม่อยากได้ผู้ชายที่ไม่สามารถเอาชนะฉันได้ในอนาคต"จิโร่กระแอมกระไออย่างอึดอัดใจในขณะที่คิดกับตัวเองว่า 'ถึงแม้ว่านานาโกะจะดูเป็นคนเงียบ ๆ แต่จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนที่ค่อนข้างชอบการแข่งขันสินะ'คงไม่เป็นไรหรอกถ้าเธอจะคลั่งไคล้ศิลปะการต่อสู้ และต้องการแสวงหาการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยตัวเธอเอง แต่ในเรื่องของความรักนั้น ทำไมถึงต้องมองหาผู้ชายที่แข็งแรงกว่า และมีความสามารถมากกว่าเธอด้วยล่ะ?เพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขามีร่างกายที่อ่อนแอและขาดความแข็งแกร่งอย่างที่เธอต้องการ นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาหมดโอกาสตั้งแต่เริ่มต้นแล้วอย่างนั้นหรือ?ในขณะที่เขาคิดได้ดังนี้ จิโร่ก็รีบถามขึ้นว่า "คุณอิโตะไม่คิดว่าเกณฑ์การเลือกผู้ชายของคุณจะไม่ยาก
ออโรร่ายิ้มอาย ๆ ก่อนจะพูดอย่างเชื่อฟังว่า "หนูเข้าใจแล้วค่ะพ่อ หนูจะคอยดูแลปรมาจารย์เวดแล้วดื่มกับเขานิดหน่อย"ชาร์ลียิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า "ออโรร่า ผมต้องช่วยคุณดูดซึมพลังของยาวิเศษหลังทานอาหารเสร็จแล้ว ดังนั้นคุณไม่ควรดื่มเหล้าในตอนนี้นะครับ ถ้าคุณอยากดื่มกับผมจริง ๆ ก็รอให้ได้ตำแหน่งชนะเลิศก่อน แล้วเราค่อยมาดื่มด้วยกัน"ออโรร่ากัดริมฝีปากล่างด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจอย่างมากแล้วพูดว่า "พูดตามตรงนะคะปรมาจารย์เวด ถ้าฉันต้องลงแข่งกับอิโตะ นานาโกะ ฉันมีความมั่นใจเพียง 20% เท่านั้นที่จะเอาชนะเธอได้ เพราะท้ายที่สุดแล้วนานาโกะมีความแข็งแกร่งและทรงพลังมาก เธอไม่มีคู่แข่งในคนที่อยู่รุ่นราวคราวเดียวกับเธอเลย"ชาร์ลียิ้มก่อนจะถามว่า "อิโตะ นานาโกะเป็นคนที่น่าทึ่งขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”ออโรร่าบอกว่า "อิโตะ นานาโกะเริ่มฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่เธออายุห้าขวบ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังได้อาจารย์ระดับสุดยอดของญี่ปุ่นคอยฝึกฝนให้เธอด้วย เธอได้ฝึกฝนทักษะการต่อสู้หลากหลายประเภท รวมทั้งซ่านโฉ่ว ศิลปะการป้องกันตัว คาราเต้ และแม้แต่ศิลปะการป้องกันตัวแบบผสมผสานที่เรียกว่าเจี๋ยฉวนเต้า เธอเป็นคู่ต่อสู้ที่มีคว
ชาร์ลีพยักหน้าในขณะที่พูดว่า "ครับ คุณกินยานั้นได้แล้ว ผมจะช่วยนำทางให้คุณดูดซึมได้เร็ว ๆ !”ยาวิเศษเป็นยาที่ดีมากสำหรับการเยียวยาอาการบาดเจ็บทางร่างกายและอาการบาดเจ็บภายใน เนื่องจากมีพลังบำบัดจากธรรมชาติห่อหุ้มอยู่ ประสิทธิภาพของยาเม็ดนี้จะเกิดการระเหิดออกมาอย่างมีคุณภาพคนในช่วงวัยกลางคนและคนชราจะมีสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมมาก และอวัยวะต่าง ๆ ก็เกิดการเสื่อมถอยจนถึงระดับหนึ่งเช่นกัน ดังนั้นทันทีที่พวกเขาทานยาวิเศษนี้เข้าไป ประสิทธิภาพของยาก็จะออกฤทธิ์โดยตรงกับผู้ป่วยเหล่านี้ เพื่อซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายโดยไม่จำเป็นต้องนำทางให้พวกเขาเลยแต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากร่างกายของคนอายุน้อยยังแข็งแรงดี และเนื่องจากอวัยวะต่าง ๆ ของเธอก็ทำงานได้เป็นอย่างดี ประสิทธิภาพของยาวิเศษอันทรงพลังนี้จะไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ถ้าหากเธอทานยานี้เข้าไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้าถ้าเปรียบร่างกายของมนุษย์เป็นฟองน้ำ ร่างกายของคนวัยกลางคนและคนชราก็เป็นฟองน้ำที่สูญเสียน้ำไปเยอะมากจนถึงระดับที่กำลังจะแห้งเหือดซึ่งถ้าคุณให้น้ำพวกเขาอย่างเพียงพอในเวลานี้ พวกเขาก็จะสามารถทดแทนน้ำที่สูญเสียไปได้อย่างรวดเร็ว และสามารถ
ในขณะที่ชาร์ลีกำลังนำทางการดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกายของออโรร่านั้น ชาร์ลีก็จงใจวางฝ่ามือไปบนเรือนร่างของออโรร่าเพื่อใช้พลังฝ่ามือกระตุ้นร่างกายของออโรร่าอย่างเงียบ ๆ ราวกับสายฝนในฤดูใบไม้ผลิผลที่ได้รับจากพลังฝ่ามือนั้นช่างทรงพลังเสียยิ่งกว่าผลที่ได้รับจากยาวิเศษที่เขาปรุงขึ้นมาก่อนหน้านี้เสียอีก นี่ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาความฟิตทางร่างกายให้ออโรร่าได้อย่างมากเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ เส้นลมปราณ กระดูก และอวัยวะภายในต่าง ๆ ของเธอด้วยถึงแม้ว่าออโรร่าจะฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวมาหลายปี แต่เธอก็ยังเป็นคนธรรมดาอยู่ดี ซึ่งพลังฝ่ามือนั้นทรงพลังยิ่งกว่ายาวิเศษเสียอีกในตอนนี้ร่างกายของออโรร่ามีความแข็งแกร่งชนิดที่ไม่มีอะไรมาเทียบเทียมได้เมื่อชาร์ลีบอกออโรร่าว่าทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ออโรร่าก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ หลังจากนั้นเธอรีบลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปที่กระสอบทรายเพื่อออกหมัดชกไปหลายชุดแต่ด้วยความที่ออโรร่าไม่รู้ว่าชาร์ลีได้พัฒนาความแข็งแกร่งและความฟิตให้กับร่างกายของเธอขนาดไหน เธอจึงใช้พละกำลังที่มีทั้งหมดในการต่อยกระสอบทรายอย่างต่อเนื่องทันทีที่เธอต่อยเข้
ออโรร่ารีบพูดว่า "ปรมาจารย์เวดคะ คุณต้องมาชมการแข่งขันในรอบต่อไปของฉันในวันมะรืนนี้นะคะ!”“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมจะไปที่นั่นอย่างแน่นอน!”***ในขณะนี้ที่ 'ยอร์คเบล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป' ค่ายบันเทิงใหญ่สุดในประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของอีสต์คลิฟฟ์ ควินน์… ศิลปินหญิงชั้นนำของยอร์คเบลกำลังถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารแฟชั่นอยู่ในสตูดิโอของยอร์คเบล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ปอยู่ในเวลานี้นี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่เธอจะได้ขึ้นปกนิตยสารแฟชั่น ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอควินน์กำลังถ่ายแบบอยู่ในสตูดิโอโดยสวมชุดสีขาวดำของ CHANEL ที่สั่งตัดเป็นพิเศษสำหรับเธอโดยเฉพาะ เธอดูมีเสน่ห์แต่แฝงความเย็นชาเอาไว้เล็กน้อย เธอดูเป็นสาวแกร่งที่มองเห็นได้แต่ไกล แต่ไม่ใช่คนที่ใครจะมาล้อเล่นได้เมื่อช่างภาพถ่ายภาพเธออย่างต่อเนื่องไปหลายภาพ ในที่สุดควินน์ก็ทำงานของเธอเสร็จ ในเวลานี้ผู้ช่วยของเธอที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ก้าวเท้าออกไปทันที แล้วยื่นถ้วยน้ำอุ่นให้เธอพร้อมกับซองยาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิควินน์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอดูเหมือนจะได้รับความเจ็บปวดอยู่นิดหน่อย ซึ่งหลังจากทานยาแก้โรคกระเพาะพร้อมกั
หลังจากที่เธอเสร็จงานถ่ายแบบแล้ว ควินน์ก็บอกเยสันว่า "คุณเยนเดลล์คะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย"เยสันรีบถามด้วยความเป็นห่วง "อาการปวดท้องยังไม่หายดีใช่ไหมครับคุณควินน์?"ควินน์ส่ายหัวก่อนจะพูดว่า "ฉันไปถ่ายภาพยนตร์ที่อเมริกามาเมื่อไม่นานมานี้ ฉันไม่คุ้นเคยกับอาหารและเครื่องดื่มที่นั่น แล้วการถ่ายทำก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง ฉันคิดว่าน่าจะเริ่มมีอาการปวดท้องในช่วงเวลานั้น ฉันก็เลยวางแผนจะพักฟื้นที่บ้านในช่วงเวลานี้ค่ะ คุณไม่ต้องจัดตารางงานหรือกิจกรรมให้ฉันในเดือนหน้านี้นะคะ"เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่เยสันไม่กล้าขัดคำสั่งเธอ เขาจึงรีบพูดว่า "ไม่ต้องเป็นห่วงครับคุณควินน์ คุณพักอยู่บ้านได้ทั้งเดือนเลยครับ วันหลังผมจะไปขอโทษคุณพ่อของคุณที่บ้าน ตอนที่คุณไปถ่ายภาพยนตร์ที่อเมริกานั้น ผมน่าจะหาพ่อครัวไปดูแลเรื่องอาหารการกินให้คุณสักสองสามคน ทั้งหมดนี้เป็นเพราะผมไม่ได้เอาใจใส่ในเรื่องนี้เองครับ"ควินน์โบกมือเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า "เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณเลยค่ะ ไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องนี้เลย ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ"เยสันถามอย่างจริงจังว่า "คุณต้องการให้ผมจัดเตรี
นี่ทำให้ควินน์รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากเธอรู้ว่ายาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิซึ่งได้ผลดี ขายดี และมีชื่อเสียงนั้น แท้จริงแล้วได้รับการพัฒนาขึ้นจากสูตรปรุงยาของชาวออสเกียนโบราณ พวกเขาแค่ลอกเลียนความสำเร็จทางการแพทย์ของบรรพบุรุษชาวออสเกียนเท่านั้นเองแต่เธอต้องยอมรับว่ายาแก้โรคกระเพาะโคบายาชินั้น มีประสิทธิภาพมากกว่ายาอื่น ๆ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของชาวออสเกียนในประเภทเดียวกันซึ่งผลิตโดยบริษัทยาหลาย ๆ แห่งภายในประเทศดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่ายาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยาจะมีประสิทธิภาพเทียบเท่ายาแก้โรคกระเพาะโคบายาชิหรือไม่แต่อย่างไรก็ตาม เธอชอบชื่อ 'ยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยา' มากดังนั้นควินน์จึงถามผู้จัดการศิลปินของเธอว่า "พวกเขาให้ตัวอย่างยากับเราบ้างไหม?”“ให้ค่ะ" ผู้จัดการของเธอรีบหยิบซองยาแก้โรคกระเพาะของนักปรุงยาออกมาจากซองจดหมายที่อยู่ในมือแล้วยื่นให้กับควินน์ควินน์ตกตะลึงแล้วโพล่งออกมาว่า "อะไรกันเนี่ย? พวกเขาให้ซองยาเล็ก ๆ แค่นี้เองเหรอ?”“ใช่ค่ะ...” ผู้จัดการศิลปินของควินน์ตอบอย่างลำบากใจ "แล้วมีกระดาษโน้ตใบเล็ก ๆ อยู่ในซองด้วยค่ะ"“ในกระดาษโน้ตเขียนว่าอะไรคะ?”ผู้จัดการตอบว่า "ม
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล