ตระกูลเว็บบ์ทึกทักเอาเองว่า ตอนนั้นกลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่คงกำลังจะได้ตัวพ่อลูกสองคนจากตระกูลวีเวอร์แล้ว จึงไม่กล้ารบกวนพวกเขาจนเกินไปคุณท่านเว็บบ์ดูเวลาเมื่อผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง กลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่นั้นเก่งกาจและมีความสามารถมาก ฉะนั้นเวลาหนึ่งชั่วโมงจึงน่าจะเพียงพอให้พวกเขาได้ฆ่าใครต่อใคร และช่วยสองพ่อลูกตระกูลวีเวอร์ออกมาได้ เขาจึงร้องสั่งออกไปว่า "โดนัลด์ โทรสอบถามข่าวคราวล่าสุดกับฟลอเรสหน่อยสิ"“ได้ครับ!” โดนัลด์พยักหน้ารับคำสั่งทันที และหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเอมิเลียโน่ โทรศัพท์ดังอยู่พักหนึ่งแต่ไม่มีใครรับสายโดนัลด์พูดขึ้นด้วยความสงสัย "คุณพ่อครับ ไม่มีใครรับสาย บางทีพวกเขาอาจจะกำลังปฏบัติภารกิจอยู่ก็ได้!”คุณท่านเว็บบ์พยักหน้า "คงใช่ เรารออีกสักครู่ก็แล้วกัน"สิบนาทีต่อมา คุณท่านเว็บบ์ก็พูดขึ้นอีกครั้ง "โดนัลด์ โทรหาฟลอเรสอีกทีสิ!”โดนัลด์ทำตามที่คุณท่านเว็บบ์บอก แต่ไม่มีใครรับสายคุณท่านเว็บบ์ขมวดคิ้วอย่างสงสัย "มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว พวกเขาไม่น่าใช้เวลานานขนาดนี้ในการปฏิบัติภารกิจ พวกนั้นเป็นเพียงผู้อารักขากระจอก ๆ จึงไม่น่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับฟลอเรสและกลุ่มแปดผู้
ตอนที่ชาร์ลีขึ้นเครื่องบินที่ภูเขากอลมินเพื่อกลับมาที่โอลรัส ฮิลล์นั้น ครอบครัวเว็บบ์ต่างก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายกลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ต่างเร่งรุดไปที่ภูเขากอลมินเพียงชั่วข้ามคืน เพื่อปฏิบัติภารกิจเพียงอย่างเดียว นั้นก็คือช่วยสองพ่อลูกตระกูลวีเวอร์ แต่ขาดการติดต่อทันทีที่ไปถึงที่นั่นโดนัลด์โทรหาพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแบตเตอรี่ใกล้จะหมด แต่เขาก็ยังติดต่อพวกกลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ไม่ได้เลยทันใดนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น… มีสายเรียกเข้า!เป็นสายจากชายที่หนีออกมาจากภูเขากอลมินเมื่อคืนนี้เขายังคงซ่อนตัวอยู่ในเมืองที่ภูเขากอลมิน โดยวางแผนว่า จะรอจนกว่ากลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ทำภารกิจเสร็จสิ้น แล้วจึงจะกลับมาที่ซัดเบอรี่พร้อมกัน แต่สิ่งที่เขารออยู่กับกลายเป็นข่าวร้ายอันน่ากลัวแทน!เมื่อสักครู่นี้ สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของภูเขากอลมินได้รายงานข่าวด่วนว่า มีเหตุการณ์หิมะถล่มเกิดขึ้นที่ภูเขากอลมิน ทำให้หิมะหลายหมื่นตันไหลลงมาจากภูเขากอลมิน แล้วฝังกลบถนน...รวมทั้งรถยนต์สองคันและคนอีกแปดคน… จนกองเป็นภูเขาเลากาเมื่อหน่วยกู้ภัยในท้องถิ่นออกไปค้นหาผู้รอดชีวิต พวกเขากู้ร้างชายพิการแปดคนขึ้นมาจากหิมะไ
แคลร์ยังไม่สามารถติดต่อชาร์ลีทางโทรศัพท์ได้ เมื่อเธอลองโทรดูอีกครั้งตอนสิบโมงเช้า และนั่นทำให้เธอเริ่มรู้สึกเป็นกังวลอย่างมากความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวของเธอก็คือ… งานดูฮวงจุ้ยของชาร์ลี เขามีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับบุคคลสำคัญ ๆ มากมายในช่วงนี้อันเนื่องมาจากงานดูฮวงจุ้ยของเขานั่นเอง สิ่งที่เขาได้เป็นค่าตอบแทน ก็มีตั้งแต่เงินสดจำนวนมาก ของกำนัลต่าง ๆ และแม้แต่วิลล่าในธอมป์สัน เฟิร์ส นั่นยิ่งทำให้เธอรู้สึกเป็นกังวลยิ่งกว่าเดิมนับตั้งแต่เธอเรียนรู้งานดูฮวงจุ้ยของเขา เธอก็กลัวมาตลอดว่าสักวันหนึ่ง ความไม่ซื่อสัตย์ของชาร์ลีจะถูกเปิดโปง เช่นเดียวกับแผนหลอกลวงของปอนซี่ที่พังทลายลงมา และนั่นจะทำให้ชื่อเสียงของเขาต้องเสียหายเมื่อวันนั้นมาถึง บุคคลสำคัญเหล่านั้นจะต้องไม่ไว้ชีวิตของเขาอย่างแน่นอนในขณะที่แคลร์กำลังวิตกกังวลอยู่นั้น ชาร์ลีก็โทรมาแคลร์พูดอย่างกระวนกระวายทันทีที่รับสาย "ชาร์ลี คุณไปอยู่ไหนมา?”ชาร์ลีเพิ่งลงจากเครื่องบินและกำลังจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ต่อ เขาพูดขึ้นว่า "ที่รัก ผมมาช่วยเพื่อนตรวจดูฮวงจุ้ยที่บ้านของเขาเมื่อเช้านี้ ฮวงจุ้ยบ้านของเขาค่อนข้างแปลก และคลื่นความถี่จากโทรศั
ชาร์ลีมองเอเลนเดินโซเซเข้าไปในสนาม พร้อมกับไม้ค้ำเดินและกระเป๋าสะพายขนาดใหญ่ห้อยอยู่ที่หลัง ซึ่งมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า มีข้าวของอยู่ในนั้นมากมาย ทำให้กระเป๋าใบนั้นดูเทอะทะกว่าปกติ เขารู้ได้ในทันทีว่าแม่ยายของเขาต้องมีเจตนาทำเรื่องไม่ดีบางอย่างอยู่แน่ ๆแคลร์ถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ "ไปไหนมาคะคุณแม่? หนูหาแม่ไม่เจอตลอดทั้งเช้านี้เลย"เอเลนตอบพร้อมกับหัวเราะร่วน "อ๋อ ฉันไปตลาดค้าส่งมาเมื่อเช้านี้ แล้วก็ซื้ออะไรบางอย่างมาน่ะ!”แคลร์ส่งเสียงดุ "คุณแม่คะ ขาของแม่ต้องใช้เวลาในการเยียวยา แม่ควรพักอยู่ที่บ้าน ทำไมถึงได้เดินไปไหนมาไหนแบบนี้ล่ะคะ?“โอ๊ย...ไม่เป็นอะไรหรอก" เอเลนโบกมืออย่างไม่มีอะไร แล้วพูดว่า "ลูกคงคิดล่ะสิว่า แม่จะไปไหนมาไหนไม่ได้ด้วยไม้ค้ำเดินคู่นี้? ตอนนี้แม่ชินแล้วล่ะ แถมขาของแม่ก็หายเจ็บแล้วด้วย แม่แค่เหนื่อยกับไม้ค้ำนิดหน่อยเอง นอกนั้นก็สบายดี"แคลร์ถามขึ้นอีกครั้ง "แล้วแม่ซื้ออะไรมาคะ? แม่ต้องเหนื่อยกับการแบกกระเป๋าใบเทอะทะอย่างนั้นแน่ ๆ เอามาให้หนูช่วยถือเถอะค่ะ!”เอเลนหัวเราะคิกคัก แล้วพูดว่า "ฉันไม่เป็นไรหรอก มีแต่หมวกอยู่ในนั้น มันไม่ได้หนักมากมายอะไรเลย"“หมวกเห
ฮันนาห์ไม่ได้เกี่ยงงอนอะไรในข้อตกลงนี้ เพราะเธอก็ไม่ค่อยพอใจกับความเหี้ยมโหดของคริสโตเฟอร์นัก แต่ในใจลึก ๆ แล้ว เธอก็รู้สึกผิดนิดหน่อยอยู่เหมือนกันอย่างไรก็ตาม การที่เธอนอกใจเขา… นั่นคือความจริง แต่ไม่ว่าเธอจะทำด้วยเหตุผลใด เขาก็จะต้องกระวนกระวายใจอย่างมากที่เห็นเธอ เพราะเธอยังไม่ได้เอาเด็กในท้องออกตอนนี้คริสโตเฟอร์เพิ่งตื่นนอนเขาได้รับผลข้างเคียงบางอย่างหลังจากออกจากโรงพยาบาล ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คืออาการอ่อนแรงและเซื่องซึมเขานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อันเนื่องมาจากอาการคันบริเวณหว่างขาในขณะนอนหลับ ซึ่งทำให้เขาต้องตื่นขึ้นมาเกาอาการคันนั้นก็แปลกมาก โดยในตอนแรกก็จะรู้สึกคันเล็กน้อย แต่เมื่อเขารู้สึกทนไม่ไหวแล้วลงมือเกาในบริเวณนั้น อาการคันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อเกาแรงขึ้นอีกนิด ความคันก็ยิ่งทวีคูณขึ้น!เขาก็เลยยิ่งเกาอย่างเมามัน จนไปถึงจุดที่ผิวหนังเกือบกลายเป็นแผลเขาอดเกาไม่ได้จริง ๆ จนทำให้เกิดความสงสัยว่า เขาเป็นอะไรกันแน่เขาเป็นคนที่รักษาสุขอนามัยเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ฉะนั้นจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาทำให้รู้สึกคันได้ถึงขนาดนี้!เขาคิดฟุ้งซ่านจนรู้สึกวุ่นวายสับสนไปหมด และกร
คุณท่านวิลสันค่อนข้างงุนงง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมลูกชายของเธอต้องรีบร้อนไปหาเอเลน ทั้ง ๆ ที่เพิ่งตื่นนอนแท้ ๆ เธอจึงรีบถามขึ้นว่า "คริสโตเฟอร์ แกมีธุระอะไรกับนังเอเลนนั่นกัน?”คริสโตเฟอร์ส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว "นังสารเลวเอเลนแขวนหมวกสีเขียวไว้ตรงระเบียงห้องมันเป็นสิบ ๆ ใบ! มันจงใจทำชัด ๆ คุณแม่ไม่คิดว่างั้นหรือครับ?!”คุณท่านวิลสันอ้าปากค้างด้วยความตกใจ แล้วโพล่งออกมาว่า "อะไรนะ? แกพูดจริงเหรอ?”คริสโตเฟอร์กัดฟันกรอดด้วยความกลัดกลุ้ม "ตามผมมาแล้วคุณแม่จะเห็นเอง"คนทั้งสองเดินออกจากประตูไปทันทีแน่นอนว่า… ทันทีที่คุณท่านวิลสันออกไปข้างนอก เธอมองเห็นหมวกสีเขียวจำนวนยี่สิบใบแกว่งไกวตามแรงลมอยู่บนระเบียงห้องของเอเลน"เธอฟิวส์ขาดทันทีที่เห็นหมวกพวกนั้น แล้วตะโกนดังลั่น "เอเลน! นังสารเลว มันต้องดูคลิปในโรงพยาบาลนั้น แล้วจงใจล้อเลียนพวกเรา!”คริสโตเฟอร์พยักหน้าอย่างขุ่นเคือง แล้วพูดว่า "ใช่ครับคุณแม่ ผมถึงปล่อยมันไว้ไม่ได้! นังนี่มันเป็นพวกชอบกลั่นแกล้งคนอื่นจริง ๆ !”คุณท่านวิลสันกับคริสโตเฟอร์รีบย่ำเท้าไปที่ประตูรั้วของชาร์ลีด้วยความกลัดกลุ้มใจ คุณท่านวิลสันกระแทกประตูแล้วตะโ
อย่างไรก็ตาม ฮันนาห์ได้รับการสนับสนุนจากโดนัลด์ คริสโตเฟอร์ไม่กล้าขัดคำสั่งโดนัลด์ เขาจึงไม่สามารถหย่าขาดกับเธอได้ แม้ว่าเธอจะนอกใจเขาก็ตามนี่อาจเป็นเรื่องสุดเศร้าของผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่สามารถหย่าร้างกับภรรยาได้ หลังจากที่จับได้ว่าเธอแอบสวมเขาให้กับเขา พูดตามตรงก็คือ… ความหายนะได้ถล่มใส่เขาแบบจัง ๆ !คำพูดของเอเลนคือคำสบประมาทที่ทำให้เขาต้องเจ็บปวดใจอย่างมากในตอนนี้ และเขารู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเป็นพัน ๆ ครั้ง!คำพูดของเอเลนก็ทำให้คุณท่านวิลสันกลัดกลุ้มใจอย่างมากเหมือนกัน หญิงชราเป็นผู้ที่เย่อหยิ่งและถือตัวมาตลอดชีวิต ดังนั้นเธอจึงรับไม่ได้ที่ชื่อเสียงของตระกูลวิลสันกำลังเสื่อมเสียหรือถูกทำลายถึงแม้ว่าเรื่องอื้อฉาวจะปะทุขึ้นในวงสังคมของพวกเขา เมื่อเวนดี้และเคนเนธมีเรื่องกัน คุณท่านวิลสันก็ช่วยอะไรไม่ได้ เนื่องจากเธอเป็นเสียงส่วนน้อย นอกจากนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่เด็กสาวจะคบหากับผู้ชายรวย ๆ ดังนั้นเรื่องตลกหรือเรื่องซุบซิบนินทาจึงไม่น่าจะเกิดขึ้นนานนักหรอกแต่เรื่องฮันนาห์เป็นอะไรที่ต่างออกไป ปัญหาของเธอได้สร้างความเสื่อมเสียให้กับตระกูลวิลสันแบบเต็ม ๆที่เลวร้ายที่สุดก็คือ ม
การล้อเลียนของเอเลนทำให้คริสโตเฟอร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขากระโดดและด่าทออย่างเดือดดาล "นังเอเลน นังชั่ว แกอยากตายนักใช่ไหม?”เอเลนหัวเราะอย่างมีความสุข แล้วพูดว่า "โธ่เอ๋ย… คริส อย่าโกรธไปเลย ฉันใช้เงินไปตั้งหลายร้อยดอลลาร์เพื่อซื้อหมวกพวกนี้นะ แล้วฉันก็อยากมอบให้แกทั้งหมดนี่เลย"จากนั้นเอเลนก็หยิบตุ๊กตานินจาเต่าออกมาจากที่ไหนสักที่ แล้วพูดเสียงดังฟังชัดว่า "ดูนี่สิคริส… แกว่าตุ๊กตาตัวนี้หน้าตาเหมือนแกมากใช่ไหมล่ะ? ไม่เพียงแต่หัวมีสีเขียวเท่านั้นนะ แต่ยังอดทนเก่งอีกต่างหาก ก็ด้วยความที่เป็นนินจานั่นแหละ! โอ้… พระเจ้า นี่เป็นภาพเหมือนที่ดีที่สุดของแกเลยนะ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”คริสโตเฟอร์เดือดดาลมาก ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มอย่างรุนเแรง รวมถึงเสียงของเขาในขณะตะโกนด้วยว่า "นังสารเลว ทำไมไม่ตาย ๆ ไปซะ? คนไร้ศีลธรรมอย่างแกสมควรตกนรก!”เอเลนหัวเราะแล้วบอกว่า "โอ้… คริส ฉันมอบหมวกพวกนี้ให้แกด้วยใจเมตตา แต่แกยังมาแช่งให้ฉันตกนรกอีก นี่คือวิธีที่แกตอบแทนความดีให้ฉันเหรอ? แต่ด้วยความที่ฉันเป็นผู้ใหญ่กว่า ก็ขอยกโทษให้แล้วกันนะ แล้วก็ขอมอบหมวกพวกนั้นให้แกด้วย ฉันซื้อมาตั้งยี่สิบกว่าใบ แกเลือกใส่แบบไม่ซ
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล