บนถนนที่ทอดยาวสิบกิโลเมตรไปบนเนินเขา รถสปอร์ตสองคันขับจี้ท้ายกันไปมีรถอยู่สองคันนี้เท่านั้นที่อยู่บนถนนซึ่งทอดยาวขึ้นไปบนภูเขาการขับรถที่ผ่านภูมิประเทศที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะดวงตาจะมองเห็นแต่สีขาวโพลนการมองเห็นแต่สีขาวโพลนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เอมิเลียโน่ ฟลอเรสรู้สึกเวียนหัว จากนั้นเขาก็พูดน้ำเสียงหงุดหงิดว่า "ไอ้พวกงี่เง่าตระกูลเวดนั่นชาติชั่วจริง ๆ ในเมื่อสองพ่อลูกคู่นั้นทำให้มันโกรธ ก็ฆ่าพวกนั้นทิ้งซะสิ! จะมีประโยชน์อะไรในการส่งคนมาที่นี่ ในสถานที่ที่เหมือนนรกแบบนี้? โชคร้ายจริง ๆ ที่ฉันต้องมาลำบากอยู่ที่นี่!”คนขับรถพูดด้วยท่าทีสิ้นหวัง "ก่อนที่ผมจะมาที่นี่ ผมได้ตรวจสอบคนที่ชื่อเวดแล้ว เขาเป็นที่รู้จักในฐานะปีศาจ ไม่เพียงแต่ชอบส่งคนมาที่นี่เพื่อขุดหาสมุนไพรเท่านั้นนะ เขายังชอบส่งคนมาที่เหมืองเพื่อขุดหาถ่านหินอีกด้วย ผมได้ยินมาว่าครั้งหนึ่งเขาเคยให้เจ้านายของบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง เข้าไปทำหน้าที่เป็นคนแบกปูนในไซต์ก่อสร้าง“แล้วไง?” เอมีเลยโน่ขึ้นเสียง "พวกนายลืมไปแล้วหรือว่าสมาชิกในแก๊งตายยังไง? ผู้คนหลายสิบคนถูกยัดเข้าไปในรถ แล้วเอาไปถ่วงลงในแม่น้ำ
เลียม วีเวอร์หนาวสั่นพร้อมกับพยามจะสูดน้ำมูกเข้าไป และเพื่อเป็นการปิดบังตำแหน่งที่รวมกลุ่มกันอยู่ตรงนั้น เฮลิคอปเตอร์ที่พาพวกเขาทั้งสี่ขึ้นไปบนยอดเขากอลมินจึงต้องจากไป ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็อาจใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นที่กำบัง เพื่อสร้างความอบอุ่นให้ร่างกายได้หลังจากรออยู่ไม่กี่นาที ชาร์ลี เวดก็มองเห็นแสงไฟส่องสว่างบนถนนสู่ยอดเขาที่มีลมแรง แสงสว่างนั้นมาจากรถยนต์สองคันซึ่งกำลังขับขึ้นไปบนเขาไอแซคก็มองเห็นลำแสงจากรถยนต์เหมือนกัน จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรนว่า "นายน้อยครับ นั่นน่าจะเป็นไอ้พวกนั้น!”ชาร์ลีพยักหน้าแล้วตอบด้วยรอยยิ้ม "รอมาตั้งนานจนเกือบหลับไปแล้วนะ"อัลเบิร์ตชักปืนออกมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับกัดฟันกรอด "ให้ตายสิ! วันนี้ฉันจะได้เห็นความเจ๋งของไอ้พวกแปดผู้ยิ่งใหญ่ซะที!”ชาร์ลีตอบอย่างไม่สนใจว่า "อัลเบิร์ตเก็บปืนซะ ไม่มีประโยชน์จะใช้กับพวกนั้นหรอก"อัลเบิร์ตยืนตัวตรงและเริ่มจะเข้าใจในทันทีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในอดีตเขาเคยเห็นปรากฏการณ์อันเหลือเชื่ออย่างนี้มาก่อน ซึ่งก็รวมถึงการที่ชาร์ลีเป็นผู้บงการสายฟ้าด้วย ฉะนั้นด้วยการฝึกวิชาที่มากพอ จึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่ลูกกระสุนจะทำอะไรคนบา
ไม่แปลกใจเลยที่คนขับรถคนนั้นจะตกใจกลัว เพราะตลอดทางไม่เห็นใครเลยสักคน แต่มาถึงตอนนี้ในช่วงกลางดึก กลับมีคนมายืนอยู่กลางถนน นี่ช่างเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวจริง ๆเอมิเลียโน่ตะลึงงัน เขาจ้องเขม็งไปที่คนบนถนน ที่ค่อย ๆ เดินเข้าหาพวกเขาแล้วเอมิเลียโน่ก็เปล่งคำพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว "มัน… มันเป็นคนจริง ๆ!”คนที่ยืนอยู่ข้างนอกนั้นดูยังเด็กมาก เขาฉีกยิ้มบนใบหน้า และสวมเสื้อทูนิคแบบสบาย ๆ ที่ปลิวไปตามลม แขนทั้งสองไขว้ไปทางด้านหลังในท่าทีที่ดูสบาย รูปร่างหน้าตาของเขาดูไม่เข้ากับบรรยากาศที่ดูเย็นยะเยือกเช่นนี้เลยคนผู้นี้เป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากชาร์ลี เวดในขณะเดียวกัน ไอแซคและอีกสองคนก็ยืนอยู่ห่างจากชาร์ลีประมาณสิบเมตร โดยซ่อนตัวอยู่ในความมืดมิดชาร์ลีบอกพวกเขาไว้ก่อนแล้วว่า ให้เฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ และอย่าเปิดเผยตัวเมื่อคนขับเห็นหน้าชาร์ลี เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกว่า "พี่ชาย คนแปลก ๆ ที่ยืนอยู่กลางถนนดูน่าสงสัยนะ มันอาจกำลังมาก่อกวนเราก็ได้ ให้ผมเหยียบคันเร่งพุ่งเข้าไปหามันเลยดีไหม?”เอมิเลียโน่ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ แล้วตัดสินใจว่า "ไอ้นี่มันช่างอวดดี มายืนรอแปดผู้ยิ่งใหญ่ตรงนี้ ฉันไม
เมื่อพูดจบ เขาก็ขยับขาอย่างรวดเร็วราวกับสายลม ทันใดนั้น ก็เข้าไปประชิดตัวชาร์ลี แล้วชูกำปั้น… ที่มีขนาดใหญ่กว่าถ้วยข้าวขึ้นตรงหน้าเขา!ด้วยการฝึกฝนอย่างเข้มข้นมาเป็นเวลาหลายปี รวมทั้งการบ่มเพาะจิตใจมาตลอดชีวิต เขาใช้เลือดเนื้อและหยาดเหงื่อในการปูทางไปสู่สุดยอดกำปั้น แม้เพียงหมัดเดียวเขาก็สามารถทลายหินที่มีความหนาสองสามเมตรได้ แค่มนุษย์ธรรมดา ๆ คงใช้พลังหมัดแบบนี้ไม่ได้ และคงไม่มีชีวิตยืนยาวพอจะมาเล่าเรื่องราวเหล่านี้ด้วยแต่สำหรับชาร์ลีแล้ว เขาได้มองเห็นผ่านแนวการต่อสู้ของชายวัยกลางคนเพียงแค่แวบเดียวมันไม่มีอะไรเลยนอกจากการออกหมัดชก ถึงแม้กำปั้นของเขาจะแข็งปึ้ก แต่ก็ยังปล่อยหมัดออกไปอย่างไม่ระวัง เมื่อเทียบกับชาร์ลีแล้ว เขาไม่มีน้ำยาอะไรเลย นอกจากเป็นตุ๊กแกที่เกาะอยู่บนต้นไม้ฮาเดส หลี่รู้สึกงุนงงกับความไร้สาระของตัวเองที่ไปหยามน้ำหน้าเขามากขนาดนั้น! เขาอุตส่าห์วิ่งถลาเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าชาร์ลีและพร้อมจะซัดหมัดใส่เขาแล้ว แต่ดูเหมือนชาร์ลีจะไม่กลัวและไม่สะทกสะท้านอะไรเลย!นี่ยิ่งกว่าการประเมินคู่ต่อสู้ต่ำเกินไปเสียอีกด้วยความที่ชาร์ลีดูหยิ่งยโสมาก ฮาเดสเลยต้องการแสดงให้เห็นว่า ก
เอมิเลียโน่ตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อราวกับถูกฟ้าผ่า! เมื่อเห็นฮาเดสพ่ายแพ้ในทันทีถึงแม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งกว่าฮาเดสเล็กน้อยในแง่ของศิลปะการต่อสู้ แต่พลังกำปั้นของเขายังด้อยกว่ากำปั้นเหล็กของฮาเดสอยู่มากอย่างไรก็ตาม ฮาเดสได้ใช้เวลาหลายสิบปีในการเสริมสร้างและพัฒนาความแข็งแกร่งนี้ให้กับกำปั้นเหล็กของเขาเพียงอย่างเดียว จนถึงจุดที่ไม่มีคู่ต่อสู้คนไหนบนโลกนี้ที่มีพลังหมัดทัดเทียมกับเขาได้ แล้วใครจะไปคาดคิดล่ะว่า ชายหนุ่มในวัยยี่สิบกว่า ๆ จะบดขยี้กำปั้นและแขนของเขาให้แหลกละเอียดได้ด้วยการชกเพียงแค่หมัดเดียว…มันเป็นพลังทำลายล้างที่รุนแรงมาก ชนิดที่พวกเขาไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน!เอมิเลียโน่รู้สึกเสียใจมาก!ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มที่ชื่อ'ชาร์ลี'คนนี้จะไม่ใช่คนธรรมดาๆ ซะแล้ว!วันนี้พวกเขาทั้งแปดจะต้องพบกับการต่อสู้ที่ดุเดือด!ในขณะเดียวกัน ไอแซคและคนอื่น ๆ ก็พลันตกใจไม่แพ้กัน!ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ชาร์ลีจะทรงพลังขนาดนี้! มันอยู่เหนือจินตนาการจริง ๆ !ศัตรูที่ชาร์ลีเผชิญหน้าอยู่นั้นเป็นบุคคลที่น่านับถือ และเป็นที่เข้าใจได้แม้ว่าชาร์ลีจะต่อสู้กับเขานับสิบรอบ ก่อนที่จะเอาชนะเขาได้ แต่ชาร์ลี
ชาร์ลีพบกับคู่ต่อสู้ที่มีพลังพิเศษมามากมาย แต่ไม่ว่าพวกเขาจะเก่งกล้าสักเพียงใด ก็ไม่มีใครขึ้นมาเทียบพลังเรียกสายฟ้าฟาดของเขาได้ฉะนั้นไอ้พี่น้องนักฆ่าพวกนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าเหล่าอันธพาลชั้นต่ำที่ก่อแต่อาชญากรรมและไม่มีค่าควรจะกล่าวถึงเลยแต่อย่างไรก็ตาม เหล่าแปดผู้ยิ่งใหญ่นี้ก็เป็นผู้ท้าชิงที่น่าสนใจถ้าฮาเดสชกกำปั้นเหล็กใส่แจ็ค เยลแมน หัวของเขาก็คงระเบิดด้วยพลังชกเพียงหมัดเดียวพี่น้องนักฆ่าพวกนั้นอาจไม่ได้ต่อกรกับเขาเลยด้วยซ้ำ เมื่อเขาใช้หมัดสังหารโค่นพวกนั้นให้ต้องพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่าในสายตาของชาร์ลีแล้ว แม้แต่กำปั้นเหล็กของฮาเดส หลี่ก็ยังถูกมองว่าเป็นอะไรที่ไม่ได้เรื่องความตื่นเต้นและการคิดวางกลอุบายทำให้เขาตัวร้อนจัด ในขณะที่เจ็ดนักฆ่านั้นตัดสินใจผนึกกำลัง แล้วบุกมาที่เขาพร้อมกัน!เอมิเลียโน่ออกนำ!ส่วนพี่น้องทั้งเจ็ดของเขาตามมาข้างหลังอย่างใกล้ชิด ยืนเรียงตามลำดับในท่าที่ดูเตรียมพร้อมจะสังหารชาร์ลีเอมิเลียโน่ยืนอยู่ตรงหน้าชาร์ลี เขารวบรวมพลังทั้งหมดจากแกนกลางไปที่ฝ่ามือก่อนที่จะกระโดด แล้วดันฝ่ามือเข้าหาชาร์ลี!เทคนิคการใช้พลังฝ่ามือเป็นทักษะที่แข็งแกร่งที่สุ
เอมิเลียโนไม่รู้ว่าเขากำลังต่อสู้อยู่กับใคร!ทีแรกชาร์ลียืนนิ่งราวกับภูเขา จากนั้นเขาก็ยกฝ่ามือขึ้นเพื่อตอบโต้การโจมตีที่รุนแรงนั้น เอมิเลียโน่คิดว่าเด็กนั่นคงประเมินเขาต่ำเกินไป จึงไม่พยายามออกแรงรับการโจมตีจากเขา แล้วในที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้จากการออกอาวุธเพียงครั้งเดียวแต่เมื่อปะทะมือกับชาร์ลี เอมิเลียโน่ก็ตระหนักได้ว่าแทนที่จะบังคับให้ชาร์ลีต้องถอยออกไปนิดนึง พลังงานจำนวนมหาศาลก็กระดอนกลับจากฝ่ามือของชาร์ลี ทำให้แขนขวาของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทันที ราวกับโดนลูกตุ้มยักษ์พุ่งเข้าใส่แบบจัง ๆ !เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องพบชะตากรรมเดียวกับฮาเดส!แขนขวาของเขากลายเป็นกองขยะขนาดใหญ่ แต่เขาไม่สามารถใส่ใจกับอาการบาดเจ็บสาหัสนั้นได้ เนื่องจากพลังงานมหาศาลนั้นทำให้เกิดแรงกระแทกขนาดมหึมาราวกับระเบิดนิวเคลียร์ที่ส่งเขาให้กระเด็นออกไปสองสามเมตร!เอมิเลียโน่โดนพลังขับเคลื่อนอันทรงพลังผลักให้ลอยละลิ่วออกไป ในขณะที่พยายามใช้ขายันกับหิมะเพื่อหยุดตัวเองเอาไว้แต่พลังที่ปล่อยออกมาจากฝ่ามือของชาร์ลีนั้นทรงพลังมาก ขาของเขาไม่สามารถต้านเอาไว้ได้เลย จึงโดนซัดให้กลิ้งออกไปข้างหลัง!พี่น้องอีกหกคนที่เหลือจ้อง
กลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ต่างประหลาดใจและงุนงงมาก เมื่อชาร์ลีสามารถเอาชนะพวกเขาทั้งเจ็ดได้ด้วยพลังฝ่ามือเดียว!เขามีพลังอันเหลือเชื่อชนิดไหนกันแน่ ถึงได้สามารถส่งพลังอันน่ากลัวแบบนั้น?แม้แต่ปรมาจารย์ที่มีวิธีแก่กล้าที่สุดในโลก ยังไม่อาจครอบครองพลังในระดับนี้ได้เลย!กลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่คนธรรมดา ๆ เวลาที่พวกเขาผนึกกำลังร่วมกันนั้น พวกเขาจะมีพละกำลังอันเยี่ยมยอดมากแต่ถึงกระนั้น พละกำลังทั้งหมดของกลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ ก็ไม่สามารถรับมือกับพลังชกและพลังฝ่ามือของชาร์ลีได้เลยเอมิเลียโน่ลุกขึ้นอย่างอ่อนแรง แล้วพูดโพล่งออกมา "ท่านเป็นใครกัน? ท่านมาจากไหน? ใครเป็นเจ้านายของท่าน?”ชาร์ลียิ้มเยาะ "ฉันไม่ได้มีสังกัดหรือเป็นของใคร ฉันเป็นนายของตัวเอง ทำไมแกถึงไม่เชื่อล่ะ?เอมิเลียโน่กลืนน้ำลายด้วยความตกใจ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลว่า "ฉันเชื่อ! เชื่ออย่างไม่มีอะไรเคลือบแคลงในพลังของท่าน! ปรมาจารย์เวด ท่านเป็นปรมาจารย์ตัวจริงในโลกใบนี้ แต่ในฐานะเพื่อนร่วมสนามการต่อสู้ ท่านต้องตระหนักว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่กว่าจะได้มาในสิ่งที่เรามีอยู่ในวันนี้ ฉันหวังว่าท่านจะให้อภัยพวกเรา อันเนื่องม
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล