พ่อลูกจากตระกูลวีเวอร์ต่างก็นั่งฝันถึงการไปพลิกชีวิตกลับไป ทันใดนั้นก็มีลมหนาวกรรโชกมาจากบนยอดเขากอลมิน ทำให้เขาทั้งคู่ต่างก็ตัวสั่นเพราะความหนาวจอร์แดนถอนหายใจพร้อมกล่าว “ตรงนี้ลมแรงมากจริง ๆ ลมกรรโชกทำให้พ่อหนาวจนสั่นไปทั้งตัวแล้ว เราไปกันดีกว่า”“ได้ครับ” เจฟฟรีย์ก็รู้สึกได้ถึงความหนาวจนเสียดแทงกระดูก เขารีบหดคอลงขณะที่ลุกขึ้นปัดหิมะออกจากก้น จากนั้นก็เอื้อมมือมาช่วยพ่อของตนให้ลุกขึ้นความจริงช่วงเวลาที่พ่อลูกทั้งสองได้อยู่ด้วยกันบนเขากอลมินนั้น ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็พัฒนาไปอย่างมากในอดีต แม้ว่าจอร์แดนจะรักลูกชายคนโตมากกว่าคนอื่น แต่เขาก็เป็นคนเห็นแก่ตัวและเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะปฏิบัติตัวดีกับคนอื่นดังนั้นเขาก็ปฏิบัติกับเจฟฟรีย์ไม่ต่างกันแม้ว่ามันจะดีกว่าที่เขาปฏิบัติต่อเลียมก็ตามส่วนเจฟฟรีย์ก็เคยเป็นแค่ทายาทคนรวยที่ชีวิตนี้ไม่มีความสามารถอะไร ทุก ๆ วันก็คิดได้แต่เรื่องหาทางเล่นสนุกกับพวกผู้หญิง และก็ไม่ได้สนิทสนมอะไรกับพ่อมากนักสาเหตุก็เพราะ ว่าเจฟฟรีย์มักได้ยินแม่บ่นให้ฟังเรื่องพ่อของเขาเสมอ ว่าพ่อไม่สนใจครอบครัวแล้วก็เที่ยวเลี้ยงผู้หญิงไว้นอกบ้านไปทั่ว เขาได้ยิน
จอร์แดนพยักหน้า เขาอดไม่ได้ที่จะถอนใจ “คงจะดีถ้าเรามีเหล้าสักหน่อย พ่อจะเอาโสมไปแช่เหล้าแล้วก็กินเหล้าตอนที่เราหนาว ๆ กลับมาจากบนเขา คงไม่มีอะไรดีไปกว่านั้นแล้ว”เจฟฟรีย์ตอบ “แม่ม่ายลีแอนน์ เหมือนจะรู้วิธีหมักเหล้านะ ผมจะไปคุยกับเธอแล้วก็ลองถามเรื่องนี้ดูถ้ามีโอกาสสักวัน บางทีเธออาจจะมีเหล้าแอบซุกไว้ที่บ้านบ้างก็ได้”พ่อลูกต่างก็เดินคุยกันไป ขณะที่เดินฝ่าลมหนาว ค่อนชั่วโมงต่อมาพวกเขาก็มาถึงทางเข้าหมู่บ้านทั้งสองไม่ได้ไปบ้านที่ต้องส่งโสมทันที แต่ว่ามุ่งไปที่บ้านนายพรานแลงก์ในหมู่บ้านท่ามกลางความมืดแม้ว่าคนที่อาศัยอยู่ที่หมูบ้านตีนเขากอลมันจะจนมาก แต่ก็ไม่ได้ขาดของจำเป็นอะไรในอดีตคนจากหมู่บ้านมักจะขึ้นเขาไปล่าสัตว์เสมอแต่ว่าตอนนี้พวกคนหนุ่มสาวก็จากหมู่บ้านไปแล้วก็ไม่มีคนที่เหลือเข้าไปล่าสัตว์มากเท่าไรนักนายพรานแลงก์จึงเป็นนายพรานอาชีพคนเดียวที่ยังเหลืออยู่ในหมู่บ้านนี้ถ้ามีใครในหมู่บ้านอยากกินเนื้อ พวกเขาก็ต้องเอาเงินหรืออะไรอย่างอื่นมาเสนอเพื่อแลกกับเนื้อเจฟฟรีย์นั้นอยากกินเนื้อสัตว์มานานแล้ว เพราะว่าพวกเขาจนมากและเป็นเรื่องยากที่จะหาอาหารให้พอกิน ดังนั้นจึงไม่มีอะไรพิเศ
คราวก่อนที่มีคนมาช่วยทั้งสองพ่อลูก คนเหล่านั้นถูกจัดการไปหมดก่อนที่จะเข้าถึงบ้านของพวกวีเวอร์ด้วยซ้ำดังนั้นพ่อลูกตระกูลวีเวอร์จึงไม่เคยรู้เรื่องนี้เลยตอนนี้อยู่ ๆ ตระกูลเว็บบ์จากซัดเบอรี่ก็มาช่วยพวกเขาทั้งสองตื่นเต้นมากและรีบตามกลุ่มคนพวกนี้ไปที่รถเพื่อที่จะได้กลับไปที่โอลรัสฮิลล์ตอนที่มุ่งไปที่ทางเข้าหมู่บ้าน จอร์แดนอดไม่ได้ที่จะถามชายชุดดำที่อยู่ข้าง ๆ “พี่ชาย เราไม่เคยรู้จักหรือมีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลเว็บบ์จากซัดเบอรี่ ทำไมพวกเขาถึงช่วยเราล่ะ?”ชายคนนั้นตอบเรียบ ๆ “เหมือนว่าประธานของเราจะมีศัตรูคนเดียวกันกับพวกคุณ”“ศัตรูคนเดียวกันเหรอ?” จอร์แดนร้องถาม “ใครกัน?”ชายคนนั้นกัดฟันกรอด “ชาร์ลี เวด!”จอร์แดนและเจฟฟรีย์ตัวสั่นเทากลายเป็นว่าไอ้เลวชาร์ลีนั่นไปเหยียบเท้าพวกตระกูลเว็บบ์จากซัดเบอรี่เข้าตระกูลนี้มีอำนาจและอยู่ตำแหน่งสูงสุดในเขตภาคใต้เชียวนะ!เพราะตอนนี้ชาร์ลีไปกวนใจพวกเขา อีกไม่นานวันตายของชาร์ลีคงได้มาถึงแน่แม้พวกเขาทั้งสองจะรู้สึกขอบคุณที่ชาร์ลีไปเหยียบเท้าพวกเว็บบ์ เพราะว่าทำให้ตระกูลเว็บบ์ถึงขนาดส่งคนมาช่วยเขาทั้งคู่จากสถานที่โหดร้ายแห่งนี้พ่อลูกทั้
ตระกูลเว็บบ์สูญเสียคนไปทั้งหมดสิบห้านาย ในขณะที่ดอน อัลเบิร์ตกับเลียม ก็สูญเสียคนของเขาไปสี่คนเช่นกัน!โชคดีที่ชาร์ลีได้เตือนดอน อัลเบิร์ตกับเลียมไปเมื่อสองสามวันก่อน ให้เตรียมการป้องกันเอาไว้ให้ดี นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ดอน อัลเบิร์ตกับเลียม ส่งคนไปที่ภูเขากอลมินมากขึ้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็อาจไม่สามารถรับมือกับฝ่ายตรงข้าม ที่อาจมีหลายสิบคนขึ้นไปก็ได้พ่อลูกจากตระกูลวีเวอร์ ที่ดูหวาดกลัวอย่างมาก ถูกจับได้ในทุ่งหิมะซึ่งคนที่จับเขาเอาไว้ได้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นลูกน้องของดอน อัลเบิร์ตนั่นเอง เขาคือดีแคลน ซาเบอร์ ผู้ควบคุมกำลังพลบนภูเขากอลมินดีแคลนแสดงความร้ายกาจออกมา ด้วยการจ้องขมึงทึงไปที่สองพ่อลูกคู่นั้น ที่ดูหวาดกลัวจนตัวสั่น แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา "พวกแกสองคนคิดว่าจะหนีไปได้จริง ๆ งั้นเหรอ?"พอได้ยินดังนั้น จอร์แดนก็ปล่อยโฮออกมาดังลั่น "เราไม่ได้ตั้งใจจะหนีเลยครับคุณดีแคลน พวกนั้นต่างหากที่จับเราเข้าไปอยู่ในรถนั่น แล้วขับพาพวกเราหนีมา"ดีแคลนตะคอกด้วยเสียงเย็นชา "หยุดพล่ามซะทีเถอะ แล้วไม่ต้องมาเสแสร้ง! ฉันรู้ดีว่าพวกแกกำลังคิดอะไรอยู่ จะบอกอะไรให้นะ ตราบใดที่ 'ดีแคลน' คนนี้ ยังมีชีว
ในอดีตคุณท่านเว็บบ์ก็เป็นวีรชนผู้เก่งกล้า ที่หาตัวจับยากอยู่เหมือนกันใคร ๆ ก็รู้จักเขา และทุกคนก็รู้ด้วยว่าเขาเป็นใคร เวลาที่มีใครเอ่ยชื่อเขาในภาคใต้ในสมัยที่เขายังหนุ่ม ๆ อยู่นั้น เขาเป็นคนที่เฉลียวฉลาดมาก และเริ่มต้นสร้างทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมาการที่ไม่มีอะไรเลย เขาสามารถก่อร่างสร้างตระกูลเว็บบ์ขึ้นมาจนกลายเป็นตระกูลดังและทรงอิทธิพลในแถบภาคใต้ ซึ่งนั่นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขามีความเชี่ยวชาญและมีความสามารถเป็นอย่างมากแต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่สามารถต่อสู้กับวันเวลาและวัยที่สูงขึ้นได้ หลังจากที่ปลดเกษียณและส่งต่อธุรกิจครอบครัวให้กับทายาทรุ่นที่สอง อันเนื่องมาจากความเจ็บไข้ได้ป่วย ตระกูลเว็บบ์ก็เริ่มดวงตกจริง ๆ แล้ว ไม่มีใครคาดฝันหรอกว่า ตระกูลเว็บบ์ทั้งตระกูลนั้นจะต้องผจญกับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อย่างรวดเร็วในช่วงเวลานี้ซึ่งนั่นทำให้คุณท่านเว็บบ์ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างต่อเนื่องเรื่องทั้งหมดเริ่มต้นขึ้น เมื่อหลานชายคนที่สองของเขา ซึ่งเป็นชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง แต่ได้รับสิทธิพิเศษเหนือใคร จู่ ๆ ก็ป่วยเป็นโรคประหลาดที่รักษาไม่หาย หลังจากนั้น ลูกชายคนโตรวมทั้งหลานชายคนโตของเขาก็ต้
ถ้าพี่ชายของเธอไม่ถูกฆ่า เขาก็คงกระหน่ำตีพี่ชายของเธอให้แตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยมือของเขาเองแต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาต้องรู้สึกเสียอกเสียใจอะไรเลย ไม่เช่นนั้นตระกูลเว็บบ์คงไม่ต้องลงเอยด้วยสภาพเช่นทุกวันนี้หรอกคุณท่านเว็บบ์เงยหน้าขึ้นมองโดนัลด์ พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา "นางผู้หญิงที่ใช้นามสกุลบิชอปตอนนี้อยู่ที่ไหน?”โดนัลด์รีบตอบ "คุณพ่อครับ ตอนนี้อลิซขังตัวเองอยู่ในห้อง เอาแต่ร้องไห้คร่ำครวญ"“ร้องไห้คร่ำครวญหรือ?” คุณท่านเว็บบ์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันในขณะพูด "แกจะไม่ไล่ผู้หญิงแบบนี้ออกไปจากบ้านหรือไง? จะเก็บหล่อนเอาไว้ทำไม? จะรอให้ตระกูลเว็บบ์พังพินาศไปเสียก่อน แกถึงจะรู้สึกตัวหรือไง?โดนัลด์นิ่งงันก่อนจะรีบอธิบาย "คุณพ่อครับ เรื่องนี้จะโทษอลิซไม่ได้นะครับ ทั้งหมดนี้เป็นการกระทำของพี่ชายเธอคนเดียว เธอตกเป็นเหยื่อเหมือนผมนั่นแหละ"เพียะ!!!ไม่มีใครคาดคิดว่าคุณท่านเว็บบ์ผู้อ่อนแอและเปราะบางจะตบโดนัลด์อย่างจังได้ในเวลานี้คุณท่านเว็บบ์ตัวสั่นระริกด้วยความโกรธ ในขณะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ผู้ชายต้องมีความเด็ดขาดในการตัดสินใจ! ความไม่เด็ดขาดมักนำไปสู่ความหายนะ! ฉันจัดการให้ตระกูลเ
โดนัลด์รู้สึกอับอายมาก ในขณะที่ใช้มือคลำบนแก้มที่ดูแดงระเรื่อขึ้นมา ในที่สุดเขาก็ตระหนักถึงความผิดพลาดของเขาในครั้งนี้กลยุทธ์ของเขาถูกต้อง เขาต้องสามัคคีกับเพื่อนพ้องรอบตัวเขาเอาไว้ แล้วปฏิบัติต่อศัตรูของอีกฝ่าย ให้เหมือนกับเป็นพันธมิตรของเขาเองไม่ว่าจะเป็นพ่อลูกจากตระกูลวีเวอร์ที่อยู่บนภูเขากอลมิน ตระกูลวิลสัน หรือคนอื่น ๆ คนพวกนี้ทั้งหมดคือคนที่เขาควรจะรวบรวมเอาไว้ให้เป็นหนึ่งเดียวแต่อย่างไรก็ตาม เขาพลาดที่ใจเร็วด่วนได้เกินไป เขาไม่ควรบั่นทอนขวัญและกำลังใจของกองทัพศัตรูก็ยังอยู่ที่นั่นแหละ พวกเขาจะไม่หายไปไหน เพียงเพราะเขามาช้าไปหนึ่งก้าวพันธมิตรก็ยังอยู่ที่นั่นเช่นกัน และพวกเขาก็จะไม่ตาย เพียงเพราะเขามาช้าไปหนึ่งก้าวทำไมเขาถึงเป็นกังวลมากมายนัก? เขาส่งคนขึ้นไปบนภูเขากอลมินสองครั้ง แล้วยังล้มเหลวทั้งสองครั้ง แถมยังสูญเสียกำลังพลยี่สิบนายไปบนนั้นโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วยเขาควรสงบสติอารมณ์และแค่รอคอยอย่างอดทน พร้อมทั้งควรรอให้พ่อของเขาฟื้นขึ้นมาก่อนด้วยจากนั้นพ่อของเขาก็อาจส่งกลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปบนภูเขากอลมิน แล้วพวกเขาก็คงเอาชนะศัตรูได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวในข
“ก็ได้" คงเป็นตอนนี้เท่านั้นที่คุณท่านเว็บบ์พยักหน้าเห็นด้วย "ถ้าอย่างนั้น ฉันจะส่งแปดผู้ยิ่งใหญ่ไปยังภูเขากอลมินในคืนนี้ เตรียมเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวให้พร้อมด้วยล่ะ"โดนัลด์ถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ "คุณพ่อครับ เราต้องรีบร้อนขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”คุณท่านเว็บบ์ตอบอย่างจริงจังว่า "แกเพิ่งสูญเสียกำลังพลไปสิบห้านาย ในคืนนี้ ศัตรูจะต้องคิดว่าแกคงไม่กล้ากลับมาอีกในช่วงเวลาสั้น ๆ เราควรส่งแปดผู้ยิ่งใหญ่ไปในคืนนี้ เพื่อให้พวกเขาไปปรากฏตัวต่อหน้าศัตรูในเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ วิธีนี้จะทำให้ศัตรูไม่ทันตั้งตัวอย่างแน่นอน!”โดนัลด์พยักหน้ารับทราบในขณะที่ถูกพ่ออบรมเขารู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าและละอายใจเล็กน้อยในช่วงเวลานี้ เนื่องจากเขารู้สึกว่า ความสามารถของเขายังตามหลังชายชราคนนี้อยู่มากชายชราคือตัวจริงในการวางแผนและวางกลยุทธ์ เพื่อเอาชนะการต่อสู้ในที่ที่อยู่ห่างไกลถึงหนึ่งพันไมล์จากนั้นโดนัลด์ก็โทรสั่งการให้เตรียมเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวให้พร้อมบินทันที หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวก็บินทะยานขึ้นฟ้าจากซัดเบอรี่ไปยังภูเขากอลมินในช่วงเวลานี้ คุณท่านเว็บบ์ได้เรียกหนึ่งในสมาชิกแปดผู้ย
“โอเค” ชาร์ลีพยักหน้าก่อนจะพูดว่า “เอาล่ะ ถึงเวลาที่นายต้องออกเดินทางแล้ว”ในเวลานี้จาเวียร์ก็วิ่งเข้าไปหาพวกเขาพร้อมกับแบตเตอรี่สำรองในมือ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแบตเตอรี่สำรองกับสายชาร์จให้กับดีแลนในขณะที่พูดว่า “ดีแลน นี่แบตเตอรี่สำรอง!”ดีแลนหยิบแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในเป้ หลังจากปาดน้ำตาออกจากใบหน้าแล้ว เขาก็พูดกับทุกคนว่า “คุณยาย คุณตา พ่อ แม่ ลุง อา ผมจะไปแล้วนะคับ…”ทุกคนโบกมือให้เขา “ไปเถอะ อย่าลืมใส่ใจในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนนะ!”ดีแลนมองไปที่ชาร์ลีอีกครั้งก่อนจะโค้งคำนับแล้วพูดว่า “ผมจะไปแล้วนะครับคุณเวด…”ชาร์ลีส่งเสียงพึมพำในขณะที่พูดว่า “รีบไปเถอะ ไม่งั้นนายจะถูกทำโทษที่ไปถึงช้านะ”ดีแลนรีบพยักหน้าในขณะที่พูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ! ผมจะทำให้ดีที่สุดครับ!”ชาร์ลีโบกมือแล้วพูดว่า “อืม ไปได้แล้ว!”ดีแลนพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปมองเหล่าญาติ ๆ อย่างไม่เต็มใจ จากนั้นเขาก็เริ่มปั่นจักรยาน Phoenix 28 คันใหญ่อย่างหนักหน่วง หลังจากถีบจักรยานไปได้สองสามครั้ง ในที่สุดดีแลนก็ถีบจักรยานจากไปในลักษณะโคลงเคลงซิลเวียเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่น ลีโอนาร์ดจึงรีบคว้าเธอมาปลอบโยนอยู่ในอ้อ
เมื่องานเลี้ยงวันเกิดสิ้นสุดลง และแขกคนอื่น ๆ ได้กลับไปแล้ว ดีแลนก็เข็นรถจักรยาน Phoenix 28 คันใหม่ออกมาในเวลานี้จู่ ๆ ดีแลนก็นึกถึงเพลงฮิตที่เขาเคยเห็นในคลิปวิดีโอสั้น ๆ…เพลงนี้ก็คือเพลง ‘ขี่มอเตอร์ไซต์แสนรักของฉัน’...ในขณะที่เขานึกถึงเพลงนี้ เขาก็มองไปที่จักรยาน Phoenix 28 ในสภาพเก่าที่ดูน่าเกลียดนั้น แล้วอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ในขณะที่คิดกับตัวเองว่า ‘ถ้าฉันขี่มอเตอร์ไซค์ไปโอลรัสฮิลล์ได้ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะจะทำให้ฉันสามารถเดินทางได้ประมาณสามถึงสี่ร้อยกิโลเมตรต่อวัน ซึ่งจะช่วยให้ฉันเดินทางไปถึงโอลรัสฮิลล์ได้เร็วที่สุด จะได้ไม่ต้องทนทุกข์กับความคับข้องใจและความอยุติธรรมมากมายในระหว่างทาง…’แต่ช่างน่าสงสารเหลือเกินที่เขารู้ว่าชาร์จะไม่มีทางเปิดโอกาสให้เขาได้ต่อรองอะไรเลย เขาจึงทำได้แค่เข็นจักรยานออกมาเพื่อเตรียมตัวออกเดินทางเจริล… ลุงของเขาถือหมวกกันน็อกสีเขียวอยู่ในมือ ในขณะที่พยายามจะสวมให้กับดีแลน ดีแลนหลบเลี่ยงหมวกใบนั้นในขณะที่ถามอย่างอึดอัดใจว่า “ทำไมถึงซื้อหมวกกันน็อกสีเขียวมาให้ผมล่ะลุง? หมวกสีเขียวเป็นสัญลักษณ์ของผู้ชายที่โดนสวมเขานะ…”“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นเลยน่า” เจร
"หา? เร็วไปไหม? คุณจะไม่อยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่ออีกสักสองสามวันเหรอ?”“ผมทำธุระของผมเสร็จหมดแล้วน่ะ ไม่มีธุระอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่อีก ผมจะออกเดินทางพรุ่งนี้เลย”เมื่อลอรีนได้ยินดังนี้ เธอก็พูดขึ้นอย่างไม่ลังเลเลยว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะออกจากอีสต์คลิฟฟ์พรุ่งนี้ด้วย เราเดินทางกลับโอลรัสฮิลล์พร้อมกันดีไหมคะ? เราจะได้นั่งเครื่องบินลำเดียวกันชาร์ลีอยากจะปฏิเสธเธอ แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้าที่แสดงความวิงวอนของเธอแล้ว เขาก็ปฏิเสธเธอไม่ลงเพราะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม… นับเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน ที่ต้องนั่งเครื่องบินลำเดียวกัน ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหลบเลี่ยงการนั่งเครื่องบินเที่ยวบินเดียวกับเธอได้ชาร์ลีจึงพูดว่า “ได้สิ เรากลับด้วยกันก็ได้”ลอรีนรีบพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณให้รายละเอียดบัตรประจำตัวกับฉันมานะ ฉันจะได้ซื้อตั๋วเครื่องบินของเราพร้อมกัน!”“โอเค”***ในขณะที่งานเลี้ยงวันเกิดยังคงดำเนินอยู่นั้น ลุงและอารองของดีแลนก็ได้ตระเตรียมการเดินทางด้วยการปั่นจักรยานไปยังโอลรัสฮิลล์ให้ดีแลนเรียบร้อยแล้วพวกเขาได้ให้คนไปซื้อจักรยาน Phoenix 28 รุ่นเก่ามา แล้วติดตั้งชั้นวางสัมภา
หลังจากนั้นงานเลี้ยงวันเกิดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการมีการจัดที่นั่งให้กับชาร์ลีเป็นพิเศษในฐานะที่เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติสูงสุด โดยเขาได้นั่งอยู่ข้างนายท่านโธมัสกับลอรีนและริกลีย์หลังจากนั้นสมาชิกของตระกูลโธมัสก็ผลัดกันดื่มอวยพรให้เขา โดยทั้งการแสดงออกทางสีหน้า น้ำเสียง และการกระทำล้วนเต็มไปด้วยการสรรเสริญเยินยอ ชาร์ลีไม่มีอะไรจะพูดมากนัก เมื่อมีคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็แค่ดื่มอวยพรกลับไป ซึ่งถึงแม้ดีแลนจะเป็นคนมาดื่มอวยพรให้เขา เขาก็ดื่มอวยพรกลับไปอย่างง่ายดายในเวลานี้ริกลีย์ก็ยังมาดื่มอวยพรให้กับชาร์ลีอย่างระมัดระวังด้วย โดยเขาได้เยินยอแล้วพูดว่า “คุณเวดครับ ผมมีเรื่องจะถามคุณหน่อยครับ…”ชาร์ลีรู้อยู่แล้วว่าเขาจะถามอะไรก่อนที่เขาจะเริ่มพูดออกมาด้วยซ้ำไป เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้ชาร์ลีช่วยฟื้นคืนสมรรถภาพ เพื่อให้เขากลับมาแข็งแกร่งได้อีกครั้งแต่เมื่อพิจารณาถึงเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่ครอบครัวของพวกเขาได้ทำกับครอบครัวของยูลแล้ว ชาร์ลีก็ยังแน่ใจว่าเขาจะไม่ยอมฟื้นคืนสมรรถภาพให้พวกเขาในตอนนี้ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะต้องชดใช้และรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะได้บทเ
ชาร์ลีหยิบภาพวาดที่ยูลมอบให้เขาจากมือของดีแลน ก่อนจะยื่นให้กับยายของลอรีนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยายโธมัสครับ นี่เป็นของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผมครับ ผมหวังว่าคุณยายจะรับมันไว้ และผมอยากจะขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปเมื่อกี้นี้ ด้วยวันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณยาย ผมหวังว่าคุณยายคงจะให้อภัยผมนะครับ”คุณท่านโธมัสรู้สึกปลื้มใจแล้วรีบพูดขึ้นว่า “คุณเวด ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ จริง ๆ แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้เป็นเพราะหลานชายของฉันทำอะไรผิดไป ฉันมาคิดดูแล้ว… ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเราละเลยในการอบรมสั่งสอนหลานของเรา จึงทำให้คุณเวดต้องเดือดร้อน”ในขณะที่เธอพูดอยู่นั้น เธอก็มองดูภาพวาดก่อนจะพูดว่า “คุณเวดคะ ภาพวาดนี้มีมูลค่ามากเหลือเกิน ฉันคงรับของขวัญชิ้นนี้ไว้ไม่ได้หรอกค่ะ!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “คุณยายโธมัสครับ ของขวัญชิ้นนี้เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ จากแคลร์และผม มูลค่าของของขวัญชิ้นนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย คุณยายไม่ต้องเกรงใจผมหรอกครับ พูดตามตรงนะครับ ผมไม่ได้ใช้จ่ายเงินกับของขวัญชิ้นนี้เลยด้วยซ้ำ เพราะคุณโกลดิ้งจากโกลดิ้งกรุ๊ปมอบภาพวาดนี้ให้ผม แล้วผมก็นำมา
เมื่อได้ยินว่าเขาจะต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง ดีแลนก็ส่ายหัวอย่างบ้าคลั่งทันที!เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว เขาคงต้องทนทุกข์ทรมานและรู้สึกคับข้องใจเพียงเล็กน้อย ถ้าเขาต้องอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด โดยมีค่าครองชีพเดือนละหนึ่งหมื่นบาท แต่ถ้าเขาต้องไปขนปูนซีเมนต์ในไซต์ก่อสร้าง เขาก็คงต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมาก และต้องเจอะเจอความยากลำบากมากมายในไซต์ก่อสร้างแห่งนั้นเขาจึงพยักหน้าแบบไม่คิดอะไรทันที “คุณเวดครับ ผมยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของคุณแล้ว ผมจะไม่ต่อรองอะไรกับคุณแล้วครับ! ขอแค่อย่าส่งผมไปไซต์ก่อสร้างนั้นเลยนะครับ…”ชาร์ลีรู้สึกพอใจมากแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีหลังจากนายไปถึงที่โอลรัสฮิลล์แล้ว อย่าสร้างปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีกล่ะ ถ้านายยังคงอยู่ที่อีสต์คลิฟฟ์ต่อไป ทายาทที่ชอบเยาะเย้ยถากถางคนอื่นอย่างนาย ก็อาจก่อให้เกิดหายนะที่ร้ายแรงกว่านี้ได้ในสักวันหนึ่ง นายอาจเข้าไปพัวพันและทำให้ให้ตระกูลโธมัสและตระกูลโคชต้องเดือดร้อนได้!”ในเวลานี้สองพี่น้องอย่างเจริลและจาเวีย์ก็อดที่จะตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้ดูเหมือนคำพูดของชาร์ลีจะทำให้คนทั้งคู่
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือ การปั่นจักรยานอย่างยากลำบากจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ยังพอรับได้ การที่ต้องปั่นจักรยานเป็นเวลาครึ่งเดือน ก็ยังดีเสียกว่าการนอนบนเตียงอยู่ครึ่งเดือนหลังผ่าตัดนอกจากนี้เขายังรู้สึกคับข้องใจอย่างมากในระหว่างการผ่าตัดครั้งล่าสุด ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ยังไม่หายดีเลย ถ้าเขาต้องเข้ารับการผ่าตัดแบบเดิมอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ เขาก็จะต้องได้รับความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าอย่างแน่นอนในเวลานี้ชาร์ลีพูดขึ้นมาว่า “ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์ก็เพื่อให้นายได้ไปปรับปรุงตัวและกลับเนื้อกลับตัวใหม่ นายคิดว่า การที่ฉันให้นายไปที่โอลรัสฮิลล์เพื่อให้ไปสนุกสนานกับชีวิตที่นั่นเหรอ? จะบอกอะไรให้นะ นายจะต้องปั่นจักรยานธรรมดา ๆ อย่าง Phoenix 28 เท่านั้น ใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย! ไม่งั้นฉันจะให้นายปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์พร้อมกับเกวียนที่บรรทุกก้อนอิฐไปจนเต็มคัน!”“แล้วหลังจากนายไปถึงโอลรัสฮิลล์ นอกจากนายจะต้องคอยขับรถรับส่งให้กับลอรีนแล้ว นายต้องเช่าห้องเดี่ยวในชุมชนแออัดคลิฟฟ์คูลส์ด้วย ค่าใช้จ่ายรายเดือนรวมถึงค่าเช่าบ้านของนายจะต้องไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท!”
เมื่อเขาได้ยินว่า จะต้องขี่จักรยานจากอีสต์คลิฟฟ์ไปยังโอลรัสฮิลล์ตลอดทาง และต้องอยู่ในโอลรัสฮิลล์ในฐานะคนขับรถเป็นเวลาหนึ่งปี ดีแลนก็รู้เหมือนกำลังจะตายไปแล้วจริง ๆ ประเด็นก็คือระยะทางจากอีสต์คลิฟฟ์ไปโอลรัสฮิลล์นั้น มีระยะทางมากกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะไม่ตายเพราะหมดแรงถ้าต้องปั่นจักรยานไปตลอดทางจริง ๆ เหรอ?แล้วตอนนี้ก็อยู่ในเดือนธันวาคมซึ่งเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เขาจะต้องขี่จักรยานตลอดทางไปจนถึงภาคใต้ แล้วไม่ได้รับอนุญาตให้พักในโรงแรมเลยด้วย ข้อกำหนดเหล่านี้รุนแรงเกินไปไม่ใช่เหรอ?ดีแลนรู้สึกเสียใจมากและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบใบหน้านี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันเนี่ย… เขาเป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลโคช แต่จะต้องขี่จักรยานไปจนถึงโอลรัสฮิลล์? เขาจะไม่ล้มตายไปในระหว่างทางหรอกเหรอ?คงจะน่าทึ่งมากถ้าเขาสามารถปั่นจักรยานได้วันละห้าสิบ หรือหกสิบกิโลเมตรระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร เขาจะต้องปั่นจักรยานไปประมาณยี่สิบวัน!แต่นี่มันเดือนธันวาคมแล้วนะ!เขาสะอึกสะอื้นพร้อมกับพูดว่า “คุณเวดครับ ถ้าผมเริ่มปั่นจักรยานไปโอลรัสฮิลล์ กว่าจะถึงที่นั่นก็คงเป็นเดือนมกราคมแล้ว น้องสาวผมจะต้องกลับมาฉลองปีใหม่ที่
ลอรีนดีใจมากแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ขอบคุณมากนะคะชาร์ลี!”ชาร์ลีรีบพูดว่า “รอเดี๋ยวนะ ผมจะไม่บังคับให้เขากลืนจี้หยกเข้าไป แต่ยังต้องลงโทษเขาด้วยวิธีอื่น ไม่งั้นเขาคงไม่จดจำไว้เป็นบทเรียน”ลอรีนรีบถามว่า “คุณจะลงโทษเขาด้วยวิธีไหนคะ ชาร์ลี? คงไม่ร้ายแรงไปกว่าการกลืนจี้หยกเข้าไปแล้วใช่ไหมคะ?”“ไม่หรอกครับ ชาร์ลียิ้มเบา ๆ ก่อนจะพูดว่า “คุณมั่นใจได้เลยว่า การลงโทษครั้งนี้จะส่งผลดีกับตัวเขาอย่างแน่นอน”ในที่สุดลอรีนก็รู้สึกสบายใจในขณะที่พูดอย่างเสน่หาว่า “ขอบคุณนะคะชาร์ลี ขอบคุณที่ให้อภัยพี่ชายของฉัน และปล่อยเขาไปเพราะเห็นแก่ฉัน ถ้าอย่างนั้น คุณให้โอกาสฉันได้ตอบแทนคุณดีไหมคะ…”ชาร์ลีถามด้วยความประหลาดใจ “คุณจะตอบแทนผมยังไงเหรอ?”ลอรีนกะพริบตาในขณะที่ยิ้มและพูดอย่างตั้งใจว่า “ฉันสัญญาว่าจะแต่งงานกับคุณ และให้กำเนิดลูกชายตัวอ้วน ๆ เพื่อคุณ! คุณคิดว่ายังไงคะ?”ชาร์ลีตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อย่าพูดอะไรแบบนี้อีก ผมเป็นสามีของเพื่อนสนิทของคุณนะ!”ลอรีนพยักหน้าก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า “ฉันรู้ค่ะ แต่คุณทั้งคู่แต่งงานกันแบบปลอม ๆ นี่! ก็ยังไม่ถือว่าเป็นการแต่งงานกันอย่างแท้จริง! จริง ๆ แล