พอผมรับปาก พ่อก็เงียบไปสักพัก ก่อนจะส่งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องพวกนั้น มาสองคน LINE | DAD DAD: นพ.อารัน ธนกุล, นพ.ธีรพงศ์ จินดารัตน์ DAD: สองคนนี้ไม่รับคำร้องเรียน มีคนอื่นอีกไหม พ่อไม่รู้นะ เพราะตอนที่ตำรวจกับผู้เสียหายเข้ามา มีแค่สองคนนี้ที่มีท่าทางแปลก ๆ และออกไปโทรศัพท์ข้างนอก ผม: โทรหาหมอสามคนนั้นใช่ไหมครับ? DAD: อาจจะ เพราะกลับเข้ามา ไม่ทันได้ดูเอกสารอะไร เขาก็บอกขอไม่รับเรื่องแล้ว ผม : ใต้โต๊ะคงหนามาก พ่ออ่านและเงียบไป จนสักพักใหญ่ ผมกับพ่อ ๆ ก็เห็นรถตู้สีขาวคันนึง ขับเข้ามาจอดอย่างรวดเร็วหน้าประตูทางขึ้น เมื่อประตูรถคันนั้นเปิด ทุกคนก็มองหน้ากัน เพราะมันหน้าคุ้น ๆ “นั่นล่ะพวกมัน” พออาจารย์พูดจบ พ่อบอสกับลุงทีก็ยืนขึ้น ท้าวสะเอวมองพวกมันชัด ๆ “ไอ้แก่ตัณหากลับ” ลุงทีบ่นเบาๆตามประสา แต่เมื่อสามหมอกำลังเดินเข้าไปในสภา อยู่ ๆ ประตูรถตู้คันนั้นก็เปิดออกอีก พร้อมกับขาขาว ๆ ของผู้หญิงคนนึง ที่ก้าวลงมาทีละก้าว ทีละก้าว และหยุดยืนหน้าบึ้งตึงข้
ไอ้ไทม์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะหันกลับไปหามิน “มินต้องการอะไร?” ต้องการมึงไง แค่นี้ยังไม่รู้อีก! ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา พอไอ้ไทม์ถามแบบนั้น มินก็เดินมาควงแขนมันอีก “พี่ไทม์ไง ถ้าพ่อมินรู้ว่าเรามีอะไรกัน พ่อมินไม่ยอมแน่ ๆ พ่อเราเจอกัน เราจะได้แต่งงานกันไง ดีไหม ๆ” ลุงทียิ้มที่มุมปาก เหมือนนึกขำ ที่มินพูดเองเออเองแบบนั้น “ไม่ได้หรอกมิน พี่ไม่ได้รักมิน มินตัดใจจากพี่เถอะ คนดี ๆ กว่าพี่มีอีกเยอะ” ไอ้พระเอก! แต่มันพูดถูกที่ว่า คนดีกว่ามันนั้นมีเยอะ “ไม่! มินชอบพี่ไทม์ มินรักพี่ไทม์ มินโอเคทุกอย่าง ไม่ต้องแต่งก็ได้ เราคบกันเงียบ ๆ เหมือนเดิม มินยอมเป็นที่สอง ยอมเป็นเมียน้อยพี่ไทม์ก็ได้” เฮ้อ... ผมไม่รู้จะพูดอะไร ถอนหายใจแม่ง “คนดี ๆ มีเยอะแยะ อย่ามาจมปลักกับพี่เลยมิน ไอ้นาวาไง มันหล่อ มัน...” “กูมีเมียแล้ว อย่ามายุ่งกับกู” ผมรีบพูดแทรกมันทันที มันจะโยนยัยนั่นมาให้ผมไม่ได้! พ่อบอสได้ยินถึงกลับรีบลุกขึ้นเดินออกไปขำไกล ๆ ก่อนจะกลับเข้ามาแล้วขำใส่ผมใหม่อีกรอบ
“เวรเอ้ย!” หมอเอก พ่อของมิน มองตามรถตู้คันนั้น แล้วสบถออกมาอย่างหัวเสีย “ไงล่ะ เพื่อนมึงไอ้เอก เพื่อนมึงรักมึงมาก อุตส่าห์กอดคอทำเรื่องชั่ว ๆ มาด้วยกันตั้งนาน” พออาจารย์พูดจบ ก็ยิ้มเบา ๆ ที่มุมปาก “พ่อคะ เรื่องชั่วอะไร? พ่อทำอะไรใครไว้ บอกมินมานะคะ” มิน กดวางสาย แล้วหันมาจับแขนพ่อตัวเอง เธอทั้งเขย่า ทั้งดึง จะเค้นคำตอบให้ได้ จนหมอเอกพ่อเธอพูดออกมาเบา ๆ อย่างเหนื่อยใจ พร้อมกับสายตาที่เหม่อไร้จุดหมายคู่นั้น “มิน... กลับไปก่อน” “พ่อ... มินจะทิ้งพ่อได้ไง!” หมอเอกก้มลงสะอื้น จนไหล่สองข้าง เริ่มสั่นระริก “ฮึก ฮือ ๆ พ่อขอโทษมิน กลับก่อน พ่อขอ” มินมองพ่อตัวเองน้ำตาคลอ ก่อนจะหันมองรอบ ๆ แล้วเอามือปิดปากสะอื้นตาม “ฮือ ๆ มันคือเรื่องไม่ดีใช่ไหม? ถ้าเป็นเรื่องไม่ดี มินจะปล่อยให้พ่อเจอมันคนเดียวได้ไง ฮือ ๆ ไม่เอา มินไม่ไปไหน พ่อทำอะไรผิด พ่อรักษาคนไข้ไม่หาย มีเรื่องผิดพลาดใช่ไหมคะพ่อ ใช่ไหม... บอกมินเถอะ” หมอเอกก้มลงส่ายหน้ารัว จนอาจารย์เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อให้เงยหน้าขึ้น
ชายแก่หมดสภาพ ที่มีรอยบาทากลางอก กำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟายกับใครบางคนในสาย ทุกคนได้แต่มองแล้วถอนหายใจ รู้สึกเวทนาและสมน้ำหน้าไปพร้อม ๆ กัน “ผม... ผมทำ ผมผิด... ผมขอโทษ” อาจารย์ถอนหายใจใส่เสียงดัง ก่อนจะดึงโทรศัพท์มือถือในมือหมอเอก ขึ้นมาพูดเอง “คุณคือภรรยาหมอเอกสินะ หึ... เตรียมหาสามีใหม่ได้เลย เพราะสามีคุณ คงจะติดคุกอีกยาว” หมอเอกเงยหน้ามองอาจารย์ พลางยื่นมือขึ้น ขอโทรศัพท์คืน แต่อาจารย์กลับเดินหนีไปทางอื่นไม่สนใจ “วีรกรรมเหรอ? คุณคงได้ยินจากลูกสาวไปบ้างแล้ว แต่ทางเรามีวีดีโอคลิป เอ้อ... ผมเกือบลืม ผมกดอัดเสียงก่อนเข้าไปในตึกด้วย แป๊บนึงนะ” อาจารย์หยิบมือถือขึ้นมา จากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะกดปิดอะไรบางอย่าง แล้วส่งมันมาให้ผม “ผมลืมกดหยุดอัดเสียง ทุกคำที่หมอเอกสารภาพเมื่อกี้ คงจะอยู่ในนั้นแล้ว” เชี่ย! ผมรีบกดคลิปเสียงนั้น อัพโหลดลง Google Drive ทันที ก่อนที่หมอเอก จะมองมาที่โทรศัพท์อาจารย์อย่างหวาดระแวง “ฮือ ๆ ขอร้องล่ะ วางสายจากเมียกูพีท กูขอ กูไม่อยากให้เขารู้ นะ นะ” อาจารย์ยิ้ม แล้วกด
‘แอด... ปึง’ ประตูกระจกไลด์ที่ถูกกระชาก มันเปิดกว้าง จนไปชนกับขอบสแตนเลส จนพวกเราเห็น ผู้หญิงวัยกลางคน คนนึงกำลังยืนสะอื้นไห้ น้ำตาไหลอาบแก้ม “ใช่! ฮือ ๆ ปิดไปซะ! ฉันไม่อยากให้คลินิกบ้า ๆ นี่ มันเป็นแหล่งมั่วสุมอีกแล้ว!” แน่นอนพอเธอพูดออกมาเสียงดัง คนไข้ที่นั่งรออยู่นั้น ก็รีบลุกขึ้น มองหมอเอกอย่างสงสัย บางคนก็ไม่ถามอะไร รีบเดินออกไป ส่วนที่เหลือก็หันหน้าซุบซิบกันถึงความหมาย ของแหล่งมั่วสุมที่ได้ยินมา “คืออะไรอะ? แหล่งมั่วสุม?” หมอเอกไม่ฟังเสียงซุบซิบ เขาเดินไปหาภรรยาตัวเอง แล้วนั่งลงคุกเข่า จนคนไข้ที่ซุบซิบกัน ทยอยเดินออกไปข้างนอก ภรรยาเขาถึงมองมาที่พวกเรา และถามเสียงสั่นเครือ “ฮือ ๆ ฉะ ฉันขอดูคลิป คลิปที่สามีฉัน ทำระยำที่นี่!” พ่อบอสยิ้ม และเปิดคลิปส่งให้ดูทันที จนมือขาว ๆ ที่รับมือถือไปดูนั้น เริ่มกำแน่นขึ้น แน่นขึ้น “ฮึก ฮือ ๆ ฉันพยายามมองข้ามมาตลอด ที่คุณออกไปหาเศษหาเลยข้างนอกกับผู้หญิงข้างถนน เพราะอะไรรู้ไหม? เพราะฉันสงสารลูก ฉันยังอยากประคับประคอง ครอบครัวเราไว้! ฮือ ๆ ทำไมคุณทำคนไข้ตัวเอง
เราทุกคนมองไอ้ไทม์เป็นตาเดียว ก่อนมันจะจับมือภรรยาหมอเอกลุกขึ้น แล้วมองหน้าเธอ “ขนาดผมเป็นผู้ชาย ผมฟัง... ผมยังรับไม่ได้” “คะ คุณเป็นใคร?” เธอมองไอ้ไทม์น้ำตาคลอ จนลุงทีล้วงกระเป๋า เดินมากอดคอไอ้ไทม์ แล้วก้มมองแมวที่มันอุ้มอยู่แว๊บนึง “ลูกชายผมเอง...” พูดจบก็กระซิบไอ้ไทม์ต่อ... “จะเอาลงมาทำไม?” “ทิ้งมันในรถไม่ได้ครับ รถดับมา ไอ้แมวหายใจไม่ออกพอดี เออพ่อ... งั้นผมฝากหน่อยนะ” ไอ้ไทม์ยิ้ม แล้วส่งแมวให้พ่อตัวเอง ก่อนที่มันจะหันมาทางหมอเอก แล้ว... ‘พลั่ก~’ มันถีบหมอเอกลงไปนอนกลิ้งที่พื้น! “กูฟังเงียบ ๆ มานาน! กูทนไม่ไหวแล้ว มึงทำแบบนั้นกับผู้หญิงได้ยังไง! มึงทำเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนึงไม่มีพ่อ มึงรู้ไหม... ใครต่อใครเอาแต่ล้อยัยนั่น ว่าเป็นเด็กพ่อกูมาตลอด เหอะ! กูโตมาด้วยกัน กูรู้ว่าพี่สาวกูเสียใจมาก แต่ยัยนั่นยังยิ้ม ยิ้มทั้งที่ในหัวตั้งคำถามว่าพ่อแท้ ๆ ตัวเองไปไหน วันนี้กูรู้แล้วล่ะ เพราะอะไร แต่ที่กูรับไม่ได้ คือมึงทำระยำกับครอบครัวเขา ทำทั้ง ๆ ที่ยัยนั่นอยู่ในท้อง!” พล
“แบบนี้หลานต้องมาแล้วมั้ง เออ วันนี้หายไปไหน มา ปล่อยให้ฉันประชุมเดียวดาย ดูสิ๊! เสื้อก็หลุดลุ่ย ไปฟัดกับหมาที่ไหนมาไทม์” ปลายฟ้าจับชายเสื้อไอ้ไทม์ แล้วกระตุก จนไอ้ไทม์ผลักหัวเธอออกไปอีกรอบ มึงช่วยเล่นกับแฟนกูเบา ๆ หน่อยเถอะ “เออ ฟัดกับหมา นี่ยัยพี่สาว ต่อไปนี้ ถ้าใครทำอะไรเธอ บอกฉัน ฉันจะฆ่ามันเอง” น้ำเสียงมันหนักแน่นมาก ถึงแม้จะพูดไปยิ้มไปก็ตาม “ถ้าจะมี ก็มีแต่น้ำปั่นนั่นล่ะ กลับไปฆ่ายัยนั่นให้ฉันด้วยนะ” “อันนั้นไม่ได้ เว้นไว้คนนึง” ปลายฟ้าจิ้มที่อกไอ้ไทม์ แล้วยิ้มกริ่ม “ฮั่นแน่! นายกลัวเมีย?” “กลัวสิวะ รับแมน ๆ” เสียชาติเกิดฉิบ ไอ้ไทม์มันล้วงกระเป๋าแล้วยิ้มจนตาหยี จนผมต้องรีบส่งแมวคืนมัน เพราะผมทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง พรุ่งนี้ผมต้องไปจัดการเรื่องหมอระยำต่อกับพ่อ ๆ อีก “กินกาแฟก่อนไหมล่ะ เข้ามาก่อน” ไอ้ไทม์โบกมือปฏิเสธ ก่อนจะหันมารับแมวที่ผมส่งให้ “ไม่ดีกว่า เดี๋ยวนอนไม่หลับ เธอน่ะลดความอ้วนด้วยล่ะ งานแต่งฉัน เดี๋ยวชุดเพื่อนเจ้าสาวจะใส่ไม่ได้เอา” ปลายฟ้
ให้ตายเถอะ ผมรู้สึกจะอ้วก นี่มันความสัมพันธ์บ้าบอคอแตกอะไรวะ ทำไมมันมั่วขนาดนี้ ที่ภรรยาหมอเอกร้องไห้ฟูมฟาย ทำเป็นเสียใจมากเมื่อคืน คืออะไร? และที่ขอให้พวกผมไปส่ง เพื่อ? บ้าเอ้ย! เกือบไปแล้ว ผมกับไอ้ไทม์เกือบโดนรวบหัวรวบหางแล้ว! “เมื่อคืน ที่ผมเห็นผู้หญิงคนนี้ร้องไห้เสียใจมาก เหมือนคนผิดหวัง และน่าสงสาร ทำไมเป็นแบบนี้ได้” พ่อผมถอนหายใจ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่ง บนเก้าอี้ตัวเดิมของท่าน “อืม... พ่อรู้สึกกลัว” พอพ่อพูดแบบนั้น ผมก็ดึงเก้าอี้มานั่งตรงข้ามท่านทันที เพราะเรื่องนี้คงต้องคุยกันอีกยาว “กลัวอะไรครับ?” “ผู้หญิงคนนี้กับหมอเอก มีลูกสาวใช่ไหม?” ผมพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่ตาจ้องพ่ออยู่ ผมอยากรู้ว่าพ่อคิดอะไร “ที่พ่อกลัว กลัวว่าลูกสาว จะไม่ใช่ลูกหมอเอก” ผมรีบหาหลักฐานทางการเงิน บัญชีส่วนตัวของหมอเอก ออกมาดูเทียบกับหมอคนอื่น ๆ นี่ไง! หมอเอกรวยมาก บอกได้เลยว่าเขารวยก่อนจะเป็นหมอ ก่อนจะเปิดคลินิกกับเพื่อน ๆ ด้วยซ้ำ “ลูกดูการเงินทำไม ถ้าเขาจะโกงเงินกัน มันไม่เกี่ยวกับแพทย์สภาน
“พ่อครับ ผู้หญิงที่ผมคบด้วยเอาแต่ใจมาก ผมจะเลิกแล้วล่ะ ปวดหัว” ผมหันมองลูกชายที่นั่งเบาะข้างแวบนึง ลูกชายอายุสิบสี่ จะมีแฟนก็ไม่แปลก แต่ที่แปลกคือเปลี่ยนบ่อยเหลือเกิน แล้วแต่ละคนที่เลิกก็จะมาปรึกษาผมแบบนี้ กับแม่เขาไม่ปรึกษาหรอก เพราะปลายฟ้าจะบอกแค่ว่าให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุย แต่ผมไม่... “อืม ก็เลิกสิ ถ้าปวดหัวก็เลิก อย่าให้กระทบการเรียน” ลูกชายเม้มปากแล้วพยักหน้าอย่างมั่นใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นใหม่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียน ลูกไฮโซออกรุ่นไหนก็จัดรุ่นนั้น ฝีมือแม่เขา นั่นแหละ ชอบสอนให้ลูกฟุ่มเฟือย ซึ่งผมเตือนแล้วเตือนอีกเพราะอดห่วงตอนส่งไปเรียนอังกฤษไม่ได้ ถ้าลูกใช้เงินไม่คิดแบบนี้ ผมกับเมียได้กินแกลบกินเกลือแน่ “พี่ณเพชรจะเลิกกับผู้หญิงอีกแล้วอ่ะ ณพิม มาดูเร็ว ๆ” สองแสบรีบเกาะเบาะ ยื่นหน้ามาดูจอโทรศัพท์กับพี่ชาย แต่ณเพชรรีบเก็บใส่กระเป๋าไว้แล้วเบือนหน้าหนี “เอ้า ทำไมเก็บแล้วล่ะคะ ปรึกษาได้นะ ณพิมก็ผู้หญิง” ณพิมยังใจจดใจจ่ออยากดูโทรศัพท์ แต่ณพลอยเธอมีเป้าหมายใหม่ ลุกขึ้นเกาะเบาะผม ก่อนจะยื่นแขนเล็ก ๆ ขอ
สิบปีผ่านไป... “ณภัทร ณเพชร กลับได้แล้ว” ไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้ฉันเป็นยายแก่ที่ยืนโบกไม้โบกมือหน้าโรงเรียนมัธยม ฉันมารอรับลูกกับหลานทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เว้นแต่หลานสาว ที่หมอนาวาพ่อพวกเธอเป็นคนไปรับเอง เพราะณพลอย ณพิมเรียนโรงเรียนประถมที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมาก ก็พ่อเจ้าหล่อนเล่นหวงขนาดนั้น ฉันบอกให้ย้ายโรงเรียนมาเรียนกับปลายฝนก็ไม่ยอม! หมอนาวาไม่อยากคาดสายตาไปไหน เขาทำงานที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ ว่างเขาก็แว๊บไปดูลูกได้ตลอด ส่วนณเพชรรายนั้นไม่น่าห่วงแล้ว เพราะเขาโตเป็นหนุ่มอายุสิบสี่เรียนโรงเรียนเดียวกับน้า แหงล่ะอะไรก็น้า ๆ เขาน่ะตัวติดน้าอย่างกับอะไร เด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน แถมหน้าตาก็ไม่ไกลกันมาก บางทีฉันก็แก่จนเรียกผิดเรียกถูก ไม่รู้คนไหนลูกคนไหนหลาน ยิ่งทั้งสองกำลังเข้าสู่วัยรุ่น วัยกำลังโตที่นั่งเล่นเกมส์ เหล่หญิง และอ่านหนังสือกัน เรื่องอ่านหนังสือต้องยอมรับลูกชายฉันณภัทร เขาสอนหลานได้ดีมาก เขาติวหนังสือให้กันจนติดท็อปโรงเรียนทั้งคู่ ผิดกับปลายฝนลูกสาวบุญธรรม รายนั้นเธอชอบวาดรูปชอบศิลปะ ทุกครั้งที่หนุ่ม ๆ ทวนวิชา
สรุปแม่ฉันก็ได้เด็กคนนั้นมาเลี้ยง ใช่ค่ะเธอน่ารักจริง ๆ เรียบร้อยมาก ณภัทรก็ดูรักมาก กลับจากโรงเรียนก็หอม ตื่นเช้าจะไปโรงเรียนก็หอม ฉันพาสองสาวไปเลี้ยงที่นั่นบ่อย เห็นแทบทุกช็อตทุกตอน และเห็นอีก ว่าแม่แทบไม่ต้องเลี้ยงเจ้าหนูคนนั้น เธอเหมือนเด็กที่สงบเสงี่ยมเจียมตัว เอาแต่มองหน้าทุกคนแล้วยิ้ม เจ็บปวดอะไรก็ต้องเจ็บปวดจริง ๆ ถึงจะร้องแอ๊ะออกมา แค่ร้องแอ๊ะนะ เรื่องร้องงอแง แม่บอกว่านอกจากวันแรกที่เห็นที่โรงพยาบาล แม่ก็ไม่ได้เห็นอีกเลย “ปลายฝนไม่ร้องแบบนี้ แม่รู้ได้ไงคะว่าน้องหิว?” “กะเวลาเอาสิ ปลายฝนจะหิวและทำอะไรตามเวลาเป๊ะ ๆ แล้วสองสาวล่ะ อยู่กับลูกที่บ้านดื้อไหม?” “ไม่ดื้อค่ะ จะว่าไปตอนนี้หนูเริ่มชินแล้ว หน้าที่แม่ยิ่งใหญ่จริง ๆ แบบว่า เหนื่อยจนชินค่ะ” แม่ขำเบา ๆ พร้อมกับเขย่าขวดนมเตรียมป้อนปลายฝน ก่อนที่ฉันจะอุ้มณพลอยเข้าเต้าอีกคน และนั่งมองน้องไปด้วย ปลายฝนเป็นเด็กที่ไม่เหมือนเด็ก แววตาเธอเหมือนผู้ใหญ่ที่เฝ้าสังเกตและสำรวจตลอดเวลา ฉันไม่อยากเชื่อ ว่าเด็กเดือนกว่า ๆ จะรู้เรื่องและทำอะไรทุกอย่างเป
คุณน้ำหวานยิ้มให้ฉัน เหมือนเป็นรอยยิ้มแห่งความหวัง เราเป็นแม่คนและมีหลานเหมือน ๆ กัน เราดูกันออก แล้วคุณน้ำหวานก็พาฉันไปที่ห้องเด็กอ่อนทันที ที่ตอนนี้ในห้อง มีตำรวจสองสามคนยืนคุยกับกุมารแพทย์ “เรื่องถึงไหนแล้วคะ?” คุณน้ำหวานถามทันทีเมื่อเดินไปถึง ฉันจึงค่อย ๆ เดินอ้อมไปดูเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เตียงเด็ก ตายแล้ว เหมือนที่คุณน้ำหวานพูดเลย เธอน่ารักจิ้มลิ้มจริง ๆ ตอนเธอร้องไห้ฉันรู้สึกเศร้าใจตาม อยากจะอุ้มขึ้นมาโอ๋มาก ‘อุแว้~ อุแว้~’ มีรอยมดกัดเต็มแก้ม น่าสงสารจริง ๆ ทำไมถึงทิ้งได้ลง ลูกทั้งคนนะ “ดูจากกล้องวงจรปิด มีคนอุ้มเด็กมาทิ้งราว ๆ เจ็ดโมงเช้าครับ ลักษณะรูปร่างคล้ายผู้หญิง เธอสวมหมวกบัตเก็ตกับมาสก์ปิดปาก และเธอเอียงตัวหลบเหมือนรู้จักมุมกล้องเป็นอย่างดี” คุณน้ำหวานพยักหน้ารับ พลางก้มมองเจ้าตัวเล็กที่ร้องงอแงไปด้วย “เห็นป้ายทะเบียนรถไหมคะ?” “ไม่เห็นครับ เพราะเธอเดินมา และเธอก็เดินเท้าเปล่าด้วย” แล้วฉันกับคุณน้ำหวาน ก็หันไปถามพร้อมกัน “เท้าเปล่า?” จริงอยู
“ณพิม เหมือนอ้วนตอนเด็ก ๆ” คุณหมอเขามองหน้าณพิมสลับกับฉัน ดูสายตาเขาสิ มันเป็นประกายมาก ถ้าถอดมาสก์ปิดปากออก ฉันคงได้เห็นรอยยิ้มกว้าง ๆ ของเขา “แต่ณพลอยเหมือนเบบี๋นะ เค้าอยากให้ลูกมีลักยิ้มเหมือนเบบี๋จัง” “ไม่แน่ณพลอยอาจจะมี ใช่ไหมครับ ลูกสาวพ่อ” ละมุนจริง ๆ เลยกับลูกสาวเนี่ย “จ้า ลูกสาวหมอนาวา” ฉันล้อเขาเสียงอ่อน เพราะตอนนี้รู้สึกเพลียมาก ก่อนที่พยาบาลเธอจะช่วยอุ้มสอง ณ มาถ่ายรูปครอบครัวกัน วิสัญญีแพทย์ก็จะพูดอะไรสักอย่าง จนฉันเผลอหลับไป “ณเพชรอย่าเสียงดังนะลูก แม่หลับอยู่” เสียงสามีฉันนี่น่า โอ้ย... รู้สึกตึง ๆ ท้องจัง “ปะป๊าณเพชรอยากนอนกับแม่ น้องออกมารึยังครับ?” “น้องอยู่ที่ห้องเด็กอ่อนแล้วครับ เช้า ๆ เดี๋ยวพ่อจะพาไปหาน้องนะ ตอนนี้ณเพชรต้องนอนลูก” “ปะป๊า ณเพชรอยากไปตอนนี้เลยครับ” “รอครับ ณเพชรต้องรู้จักรอ ตอนนี้ตีสี่นะ รบกวนคนอื่นเขา” แล้วเสียงเล็ก ๆ ของลูกชายก็เงียบไป ถ้าให้ฉันเดา ตอนนี้เขาคงเดินกอดผ้าทำหน้าบึ้งใส่พ่ออยู่ โถลูก... แม่ไม่ไหวจริง ๆ
ณเพชรปราบพ่อนาวาอยู่หมัด หลังจากวันนั้น ความบันเทิงก็เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน เมื่อฉันต้องเข้าแอ็ดมิทที่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอด แน่นอนพ่อนาวาต้องเลี้ยงณเพชรมากกว่าเดิม หนำซ้ำบางวันมีณภัทรมาด้วย รายนั้นเขาไม่เถียงพี่เขยหรอก แต่ณเพชรนี่สิ สายกวนประสาทพ่อ “ปะป๊า วันก่อนณเพชรเอาเรื่องปะป๊าไปถามคุณครู คุณครูบอกว่า... “ “อะไรนะณเพชร?” “ครับ ปะป๊าไม่อธิบายเรื่องช้างน้อย ณเพชรเลยถามคุณครูครับ” คุณหมอนาวาทรุดนั่งข้าง ๆ ลูกชาย ก่อนจะชันเข่าขึ้นมากอดไว้ “ชีวิตกูเนี่ยนะ” “ชีวิตปะป๊าทำไมครับ ช้างน้อยปะป๊าโกรธณเพชรเหรอ?” เขาเงยหน้าขึ้น มองฉันขอความช่วยเหลือ เพราะคำว่าช้างน้อย ฉันสอนณเพชรพูดเองล่ะ เอ่อ ของพ่อไม่มีคำว่า ‘น้อย’ นะลูก ช้างเลยล่ะ! “ถ้าณเพชรไม่ลืมเรื่องนี้ พ่อนี่แหละจะโกรธ” ณเพชรเงียบ และหันไปหาณภัทร จนน้าเขาชี้นิ้วไปจิ้มอกหลานเบา ๆ “ฟังน้า อย่าทำให้พ่อโกรธเข้าใจไหม เดี๋ยวโตขึ้นพ่อไม่ให้ตังค์ไปโรงเรียน” สอนหลานน่ารักเชี
เรื่องดุลูก ปากคุณหมอศัลนี่ไวจริง ๆ ฉันต้องอุ้มณเพชรไปห่าง ๆ เขา จนลูกหลับถึงได้กลับมาขึ้นเตียงนอนเหมือนเดิม ณเพชรเป็นแบบนี้จนถึงสามขวบ เป็นลูกชายที่ติดแม่เหมือนนาวีลูกซินน์ และฉันไม่สามารถที่จะโอ๋ประคบประหงมเขาได้เหมือนแต่ก่อน เพราะตอนนี้ฉันก็ท้องจวนคลอดแล้ว ใช่ค่ะ กว่าจะท้องแฝดได้ ฉันกับคุณหมอศัลเราปั๊มกันนานเหลือเกิน แต่เราภูมิใจนะ ที่ท้องแฝดและได้ผู้หญิงเหมือนที่ตั้งใจ ลูกสาวสองคนห่างจากพี่ชายสามปี พอดิบพอดีที่จะเป็นเพื่อนกับลูกสาวไออุ่น นึกไม่ถึงล่ะสิ! ไออุ่นท้องแล้ว ฮ่า ๆ ฉัน น้ำปั่น ซินน์ รู้ข่าวปุ๊บ ก็นัดกันไปขำใส่หน้ามันปั๊บ! เพราะน้ำปั่นโอมเพี้ยง ๆ ใส่ท้องมันทุกครั้งที่เจอกัน ตอนนี้มันท้องได้สี่เดือนแล้ว แถมได้ลูกสาวด้วย มันหงุดหงิดเวียร์หนักมาก นั่งยันนอนยันว่าคลอดคนนี้จะทำหมันเหมือนซินน์ อย่าว่าแต่ไออุ่นเลยฉันก็จะทำหมันเหมือนกัน เพราะณเพชรไม่ได้เลี้ยงง่ายเหมือนเดิม ยิ่งพูดได้ยิ่งแสบ รู้ทุกเรื่อง! ยิ่งกับณภัทรน้าเขา คือเข้าขากันดีมาก แต่โชคดีที่ณเพชรเขาไม่เถียงฉัน เขาเถียงพ่อแทน! เถียงเหมือนที่คุณหมอ
คุณหมอศัลดูช็อกนิด ๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร จนเขาเปิดประตูห้องออกไป ฉันถึงพาลูกกลับไปนอนที่เตียงเด็กและรีบอาบน้ำ แต่งหน้าแต่งตัวเรียบร้อยก็พอดิบพอดีที่ลูกตื่น อาจจะช้าไปบ้าง เพราะฉันต้องสุ่มเดินไปดูว่าณเพชรตื่นรึยังเพราะเขาตื่นมา เขาจะมองเพดานเงียบ ๆ ไม่ส่งเสียงร้องอะไร พอเขาตื่นฉันก็อาบน้ำแต่งตัวให้ เรื่องอาหารเด็กอ่อน ให้เขาไปกินที่บ้านกับน้าณภัทรแล้วกัน ฉันไม่ว่างทำ ถึงลูกจะเลี้ยงง่ายแต่ไม่ใช่ฉันไม่เหนื่อย เหนื่อยมาก! ฉันเป็นคุณแม่ยังสาวที่หุ่นดีจนผู้ชายมองเหลียวหลัง จะบอกอะไรให้ แต่ก่อนหุ่นฉันเฉย ๆ มาก! รูปทรงก็ไม่ค่อยชัดและได้สัดส่วน แต่หลังจากคลอดลูกเท่านั้นแหละ คนละคนกันเลยนมตูดมาเต็ม! ซึ่งฉันชอบมาก... สามีก็ชอบ จัดการลูกเรียบร้อยฉันก็ขับรถออกจากคอนโด เราสองแม่ลูกแวะซุปเปอร์กันนิดหน่อย ฉันซื้อแครอท ซื้อบรอกโคลี ณเพชรเขาไม่ดื้อนะ เขาแค่มองตามมือฉันว่าฉันหยิบจับอะไร บ้างก็อยากจับด้วยเพราะสงสัย เป็นแบบนี้จนฉันซื้อของเสร็จ พอถึงบ้านฉันก็เอาผักทุกอย่างไปล้างให้เขานั่งเล่นที่พื้น สีส้มของแครอทสีชัดเจน บรอกโคลีก็เขียว
ฉันยกมือบีบแขนคุณหมอศัลเบา ๆ บีบจนเขาเงยหน้าที่ซุกตามซอกคอ ขึ้นมาจุมพิตที่ริมฝีปากฉัน “ขอแฝดหญิงนะคะที่รัก” “ครับ” รับปากฉันเสร็จเขาก็ก้มลงประทับริมฝีปากบบาง ก่อนจะเลื่อนมือที่จับตรงหัวไหล่ ลงมาดึงสายชุดนอน ชุดนอนสายเดี่ยวถูกเขาเกี่ยวสาย ถอดออกอย่างง่ายดาย ฉันตั้งใจใส่เพื่อจะให้นมลูกง่าย ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะง่ายถึงขนาดปลดได้แค่ปลายนิ้วแบบนี้ เมื่อสองเต้าที่เปลือยเปล่าประจันหน้าเขา ริมฝีปากที่พรมจูบเบา ๆ ก็ไล่ลงไปหามัน เขาส่งแค่ปลายลิ้นอุ่น ๆ ตวัดวนเท่านั้น สลับกับมือใหญ่ ที่ลูบคลำตามฐานเต้าเบา ๆ “อื้ม~” ไม่นานฉันก็ถูกถอดพันธการช่วงล่างอย่างรวดเร็ว ตามด้วยมือใหญ่ที่ใช้ปลายนิ้ว ถูตามแยกสวาทฉัน เขาเริ่มกดนิ้วกลางลงเบา ๆ เพื่อกระตุ้นน้ำสวาท บ้างก็พยายามดันมันเข้าไป และถูรอบ ๆ แบบนั้น แต่ทุกอย่างถูกกระทำอย่างเบามือ “อ่ะ อื้ม~ เสียวจัง” ฉันเริ่มบีบไหล่ ที่ขยับต่ำลงไปเรื่อย ๆ ตามหว่างขา โดยที่นิ้วยาวเขายังละเลงเล่นตุ่มกระสันช้า ๆ อยู่แบบนั้น เมื่อริมฝีปากไล่ลงไปถึงยอดที่เขาโปรดปราน เขาก็ลงลิ้นทักทายมันทั