“ไคล์ เอารถมาไหม? พี่ยืมหน่อยสิ นะนะ” ไคล์ดูงง ๆ ที่ฉันลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ “เอามาครับ เจ๊ดื่มรึป่าว จะไปไหน ผมขับให้” เออว่ะฉันดื่มมา แต่ฉันไม่ได้เมานะ จิบนิดเดียวเอง แต่จะทำไงดี! ตอนนี้มือถือน้ำปั่นในกระเป๋า มันสั่นหนักหน่วงมาก พอฉันหยิบออกมาดูก็เห็นชื่อแม่มันโทรมา ไหนจะพ่อ ไหนจะนาวิน โอ้ย โทรไม่หยุดกันเลย! “ไคล์พอดีเพื่อนพี่มีปัญหากัน อยู่ ๆ มันก็ขับรถออกไปเลย พี่ไม่รู้จะทำยังไง เครียดอ่ะ ช่วยขับรถพาพี่ไปหามันหน่อยนะ” “ได้เจ๊ ลองโทรหาก่อนครับ ผมจะขับรถให้” ไคล์หยิบกุญแจรถออกมา แล้วเดินนำฉันไปที่รถ ระหว่างเดินฉันก็กดโทรหาไทม์ไปด้วย รับเถอะ ขอร้อง ฉันไม่รู้จะตอบคำถามแม่มันยังไง โทรมาหลายสายแล้วเนี่ย! หนึ่งสายไม่รับ สองสายไม่รับ! เออ ไปหามันแบบนี้ล่ะ งม ๆ ไป ขณะที่ฉันกำลังจะเก็บมือถือ และเปิดประตูรถไคล์ อยู่ ๆ มือถือในมือก็สั่นขึ้นมา TIME! “ไทม์! น้ำปั่นอยู่ไหน?” (ปลายฟ้ากูเอง มึงอยู่ไหน? กูจะไปเอากระเป๋า มีใครโทรหากูไหม?) “อ้าวมึง ไทม์ไม่ไ
ฉัน: มันไม่วุ่นวายหรอกน่า หวงห้องจริง ๆ PFPIG2: ต้องหวง เดี๋ยวต้องเป็นห้องหอ ฉันพอจะเดาหน้าเขาออก ว่าพิมพ์ด้วยสีหน้ายังไง แต่ข้อความที่เข้าพิมพ์ส่งมา มันทำฉันเขินจนแทบบ้า กรี๊ด... ฉันล้มตัวนอนบนเตียงกลิ้งไปกลิ้งมา ตีแขนตีขาอย่างกับห้องตัวเอง ห้องหอจ้า ห้องหอ... น้ำปั่นมึงออกไปจากห้องหอกูเลย ออกปาย กรี๊ด... “มึงทำอะไรปลายฟ้า” เหมือนภาพทุกอย่างวูบลง แล้วกล้องโฟกัสไปหาน้ำปั่นแทน ที่ตอนนี้มันกำลังยืนเช็ดผม มองฉันอย่าง งง ๆ “อ๋อ กูง่วงน่ะเลยงีบก่อน” มันเดินมานั่งบนเตียงแล้วชี้นิ้วสั่ง “ไปอาบน้ำก่อน ค่อยขึ้นเตียง เดี๋ยวพี่นาวาก็สวดกูหรอก” ฉันยิ้ม แล้วลุกจากเตียงไปอาบน้ำทันที จนน้ำปั่นมันมองตามหลัง มึงอย่าสงสัยนะ อย่าสงสัย! มึงมันคนน่ากลัว จับผิดเก่งที่สุด! พอเข้ามาในห้องน้ำ ก็เห็นโฟมล้างหน้า ครีมแปรงสีฟัน ยาสีฟันเขา โอ้มายกอด! ทำไมฉันรู้สึกตื่นเต้นกว่าที่คอนโดนะ ทุกอย่างมันดูเป็นตัวตนเขามาก! คิดถึงจัง อยากฟัดหมอศัลในห้องน้ำตอนนี้เลย! ‘ก๊อก ก๊อก ก๊อก’ “มึง ผ้
“คะ?” พ่อบอสหันกลับมามองฉันทันที ก่อนที่จะโบกมือไปมา “ไม่มีอะไร แล้วแม่เราห้ามอะไรไหม? ไม่ให้เจอพ่อรึป่าว? เอ้อ... แล้วพ่อเราอยู่ที่ไหนล่ะ? ทำงานอะไร? นิสัยดีไหม? ตอนนี้แม่เราเป็นไง? คืนดีกับพ่อเรารึยัง?” ฉันจะตอบคำถามไหนดี? “บอส ทีละคำถามสิ ลูกงง หมดแล้ว” ใช่ค่ะแม่กิ่ง หนูงง มาก จะปวดหัวเพราะคำถามพ่อบอสนี่ล่ะ “โทษที พ่ออยากรู้ เพราะพ่อ ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแม่เราเลย บอกตามตรง พ่อห่วงนะ ห่วงมาก เพราะพ่อก็มีน้องสาวแค่คนเดียว” พูดแบบนี้ คือกำลังโน้มน้าวให้ฉัน เล่าทุกอย่างให้ฟังใช่ไหม? ฉันรู้ทันพ่อบอสแหละ “ค่ะ พ่อหนูทำงานที่โรงพยาบาลของน้ำปั่น พ่อบอสแม่กิ่ง จำน้ำปั่นได้ใช่ไหมคะ?” พ่อบอสกับแม่กิ่งพยักหน้าทันที “ค่ะ ตอนนี้ท่านเป็นอาจารย์หมอ ให้เพื่อนหนูอยู่ ชื่ออะไรนะ หนูนึกไม่ออก ได้ยินตอนบอกรักแม่ ตัว พ.พาน ๆ” ฉันนวดขมับตัวเองพยายามคิดชื่อพ่อ ที่ได้ยินมาวันนั้น จนพ่อบอสพูดขึ้นมา “บอกรัก? พ.พาน ทำงานที่โรงพยาบาลxx” “ค่ะ พ.
กว่าฉันจะตั้งหลักได้ ก็ปาไปสิบกว่านาที ก่อนที่จะขับรถกลับคอนโด และแตะคีย์การ์ดเปิดเข้าไปในห้องเขา ขนมจริงด้วย ขนมเต็มโต๊ะ ถ้ามีโน้ตบอกรักแถมมา ชีวิตหมอศัลได้บันเทิงแน่ ฉันเดินไปเปิดดูถุงขนม ทีละถุง ทีละถุง เปิดไปเบะปากไป นั่นไง! สุดท้ายฉันก็เห็นโน้ตบอกรักจริง ๆ และมันก็ไม่ได้มีแค่แผ่นเดียวด้วย มันมี... หนึ่ง สอง สาม สี่ บ้าจริง! มี 5 แผ่น เสน่ห์แรงไปไหนคะ! ‘กินขนมหวาน ๆ จะได้มีแรงทำงานค่ะคุณหมอ’ สาระแน (แรงไปป่าววะ) ‘ขอบคุณนะคะที่รักษา และดูแลกันอย่างดี ขนมนี้ แทนคำขอบคุณจากใจ’ หน้าที่เขาย่ะ อย่ามั่นหน้า! ‘คุณหมอมีแฟนยังคะ ถ้ารับขนมนี้ไป แสดงว่ายังโสด’ ตามด้วยไอดีไลน์! ร้อนไปหมดแล้วอุณหภูมิในร่างกาย โสดบ้าบอคอแตกอะไร เขานอนกอดฉันทุกวันย่ะ! ‘ตั้งใจซื้อมาฝาก อยากให้คุณหมอมีแรงทำงานรักษาคนอื่นต่อ วันนี้หมอน่ารักมาก มาก มาก มิสยูว’ มิสยูว! พ่อง... ‘เอาไว้กินระหว่างพักนะคะ ยินดีมาเสิร์ฟของหวานให้คุณหมอทุกวัน’ ฉัน
“ไปภูเก็ต?” (ใช่ตอนนี้พ่อกำลังขึ้นเครื่อง ส่วนลูก แม่กิ่งจองตั๋วให้แล้ว อีกสองชั่วโมงเครื่องออก กระเป๋า carry on ก็พอนะ เดี๋ยวไม่ทัน) มือฉันเริ่มสั่น เหมือนจะจับโทรศัพท์ในมือต่อไม่ไหวแล้ว ทำไม... มันเกิดอะไร ทำไมเร่งด่วน และรีบร้อนแบบนี้ “พ่อบอส เกิดอะไรขึ้นคะ?” พ่อบอสเงียบไปพักนึง ก่อนจะถอนหายใจออกมา (เฮ้อ... ค่อยคุยดีกว่า เครื่องพ่อจะออกแล้ว ลูกรีบตามมานะ!) ฉันวางสาย แล้ววิ่งเข้าไปในห้องนอนทันที ก่อนที่จะลากกระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมา แล้วโยนเครื่องสำอางบนโต๊ะใส่ จนเขากับใบไม้ตามเข้ามาด้วย “เกิดอะไรขึ้นเจ๊” สภาพฉันตอนนี้ จะเรียกว่ายังไงดี ฉันจัดกระเป๋าไปร้องไห้ไป น้ำตาไหลทั้ง ๆ ที่เกิดอะไรขึ้น ฉันยังไม่รู้เลย แต่ฟังจากเสียงพ่อบอส ฉันพอจะเดาออก ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ “อ้วน ใจเย็น ๆ ใครโทรมา?” ฉันปาดน้ำตาแล้วมองไปที่กระเป๋า ฉันไม่อยากมองหน้าเขา ฉันกลัว ฉันจะไม่ไหวเอา “พ่อบอส พะ พ่อบอสบอกให้เค้าไปภูเก็ตด่วน” ใบไม้เดินมาจับแขนฉันทันที “เก
ฉันก้มหน้า ไม่อยากให้แม่ลำบากใจไปมากกว่านี้ ถามว่าฉันอยากมีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาไหม ฉันอยาก... อยากมาก ๆ แต่ถ้าแม่ลำบากใจและคิดมาก ฉันก็ไม่เป็นไร ตอนนี้แม่มองทุกคนแล้วร้องไห้ไม่หยุด เหมือนพยายามจะพูดบางอย่าง แต่ยังติดอยู่กับก้อนสะอื้นก้อนนั้น ที่แม่พยายามกลืนมัน..ครั้งแล้วครั้งเล่า จนพ่อบีบมือแม่เบา ๆ ให้ผ่อนคลาย “บีม คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ผมไม่อยากให้มันทำร้ายคุณอีก ผมจัดการเองบีม” แม่มองพ่อทั้งน้ำตาอย่าง งุงงง จนพ่อบอสพยักหน้าเบา ๆ ให้พ่อ “หมอพูดสิ เพราะอะไร? อธิบายให้แม่ผมฟัง ผมเชื่อ ถ้าหมอพูดเอง แล้วทุกอย่างจะดี” ท่านสองคนมองกัน แล้วพยักหน้าอีกรอบ เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ฉันก็เดาไม่ออก ว่ามันคืออะไร “ครับ ปัญหาทุกอย่างเกิดจากผมคนเดียว ผมเข้าใจผิดว่าบีมมีคนอื่น และไม่ยอมรับฟังเธอครับ” พ่อบอสกระตุกยิ้มเบา ๆ ที่มุมปาก จนยายขมวดคิ้วถาม ขึ้นมาอีกคน “แค่นี้เหรอ? ที่ทะเลาะกันมายี่สิบหกปี คือแค่นี้” “ครับแค่นี้ครับ ผมผิดเองครับคุณแม่ ทั้งหมดเพราะผมเข
‘ครืน ครืน~’ “ครับอาจารย์...” (ทุกอย่างโอเคแล้วหมอนาวา แต่เรื่องที่ผมคุยกับคุณ อย่าให้ปลายฟ้ารู้เด็ดขาด) ผมเลื่อนเคสคนไข้ที่อ่านอยู่ออกไป แล้วถอนหายใจ ผมบอกเธอไม่ได้แน่นอน เรื่องนั้นมันร้ายแรงมาก ขนาดผมเป็นคนนอก ผมยังรับไม่ไหวเลย “ดีใจด้วยครับที่ได้ครอบครัวกลับมา เรื่องนั้นพ่อบอสท่านว่าไงบ้างครับ” (โกรธมาก... แต่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ เขาก็ไม่อยากให้ยายกับปลายฟ้ารู้เหมือนกัน และเขาตกลงนะ ที่จะจัดการสามคนนั้นกับเรา) ผมถอนหายใจ จะจัดการยังไงผมยังไม่รู้เลย รู้แค่ว่าปล่อยให้ลอยนวลแบบนี้ไม่ได้ “อาจารย์จะเริ่มเมื่อไหร่ครับ” (เดี๋ยวผมกลับวันนี้ไฟลท์ดึก พรุ่งนี้ผมจะบอกคุณอีกที ฝากเคสผมด้วยนะ) “ครับอาจารย์” ผมกดวางสาย แล้วพิงเก้าอี้ในห้องตรวจถอนหายใจ ผมเหนื่อยมาก ทั้งงานตัวเอง ทั้งเคสอาจารย์ ไหนผมต้องจัดการไอ้ไทม์ ให้มันเป็นผู้เป็นคนอีก เฮ้อ... เหนื่อยแบบนี้ผมอยากกินกับข้าวฝีมือแม่ฉิบ พอผมออกเวร ผมก็กลับบ้านทันที ผมเหนื่อยมาก เหนื่อ
“สร้าง?” ผม พ่อบอส อาจารย์ ถามขึ้นมาพร้อมกัน จนลุงทีผายมือไปที่กาแฟทุกคนบนโต๊ะ “กินกาแฟก่อนสิ เดี๋ยวจะเย็นหมด” เรารีบจิบกาแฟตาม ก่อนที่อาจารย์จะเริ่มค้านขึ้นมาคนแรก “ถ้าเราสร้างหลักฐานขึ้นมาแล้วถูกจับได้ ผมว่า ไม่คุ้มนะ” “พวกนายน่ะคนดี กลัวล่ะสิ เรามีเงินซะอย่าง เรื่องหลักฐานไม่ยากหรอก” ให้ตายเถอะ ผมไม่เคยนั่งคิดแผนการ ที่น่ากลัว และเสี่ยงขนาดนี้เลย “เรื่องนี้หมอนาวาอยู่ห่าง ๆ ดีกว่า เกิดอะไรขึ้น เดี๋ยวไม่มีใครดูแลปลายฟ้า” “แผนมันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” ลุงทีถอนหายใจ แล้วมองหน้าพ่อบอส ที่ท่านก็ดูกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่ต่างจากผม “ไม่ร้ายแรง แต่เรื่องนี้ต้องใช้ผู้หญิง” พอลุงทีเสนอขึ้น อาจารย์ก็เริ่มเสริม “ใช้ผู้หญิงล่อเหรอ? ถ้าตัณหามันยังมี ผมว่าน่าจะทำได้ แต่เราจะหาผู้หญิงที่กล้าทำแบบนั้นมาจากไหนล่ะ? ใครจะทำ” “ฉันบอกแล้วไง มีเงินซะอย่าง” “ผู้หญิงที่เราจะจ้าง เขาจะไม่เสียหายเหรอครับ?” พ่อ ๆ หันมองผมเป็นตาเดียว เมื่อผมถามแบบนั้นไป จนลุงที ท่
“พ่อครับ ผู้หญิงที่ผมคบด้วยเอาแต่ใจมาก ผมจะเลิกแล้วล่ะ ปวดหัว” ผมหันมองลูกชายที่นั่งเบาะข้างแวบนึง ลูกชายอายุสิบสี่ จะมีแฟนก็ไม่แปลก แต่ที่แปลกคือเปลี่ยนบ่อยเหลือเกิน แล้วแต่ละคนที่เลิกก็จะมาปรึกษาผมแบบนี้ กับแม่เขาไม่ปรึกษาหรอก เพราะปลายฟ้าจะบอกแค่ว่าให้ใจเย็น ๆ ค่อย ๆ คุย แต่ผมไม่... “อืม ก็เลิกสิ ถ้าปวดหัวก็เลิก อย่าให้กระทบการเรียน” ลูกชายเม้มปากแล้วพยักหน้าอย่างมั่นใจ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ไอโฟนรุ่นใหม่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียน ลูกไฮโซออกรุ่นไหนก็จัดรุ่นนั้น ฝีมือแม่เขา นั่นแหละ ชอบสอนให้ลูกฟุ่มเฟือย ซึ่งผมเตือนแล้วเตือนอีกเพราะอดห่วงตอนส่งไปเรียนอังกฤษไม่ได้ ถ้าลูกใช้เงินไม่คิดแบบนี้ ผมกับเมียได้กินแกลบกินเกลือแน่ “พี่ณเพชรจะเลิกกับผู้หญิงอีกแล้วอ่ะ ณพิม มาดูเร็ว ๆ” สองแสบรีบเกาะเบาะ ยื่นหน้ามาดูจอโทรศัพท์กับพี่ชาย แต่ณเพชรรีบเก็บใส่กระเป๋าไว้แล้วเบือนหน้าหนี “เอ้า ทำไมเก็บแล้วล่ะคะ ปรึกษาได้นะ ณพิมก็ผู้หญิง” ณพิมยังใจจดใจจ่ออยากดูโทรศัพท์ แต่ณพลอยเธอมีเป้าหมายใหม่ ลุกขึ้นเกาะเบาะผม ก่อนจะยื่นแขนเล็ก ๆ ขอ
สิบปีผ่านไป... “ณภัทร ณเพชร กลับได้แล้ว” ไม่อยากจะเชื่อ ตอนนี้ฉันเป็นยายแก่ที่ยืนโบกไม้โบกมือหน้าโรงเรียนมัธยม ฉันมารอรับลูกกับหลานทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ เว้นแต่หลานสาว ที่หมอนาวาพ่อพวกเธอเป็นคนไปรับเอง เพราะณพลอย ณพิมเรียนโรงเรียนประถมที่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลมาก ก็พ่อเจ้าหล่อนเล่นหวงขนาดนั้น ฉันบอกให้ย้ายโรงเรียนมาเรียนกับปลายฝนก็ไม่ยอม! หมอนาวาไม่อยากคาดสายตาไปไหน เขาทำงานที่โรงพยาบาลใกล้ ๆ ว่างเขาก็แว๊บไปดูลูกได้ตลอด ส่วนณเพชรรายนั้นไม่น่าห่วงแล้ว เพราะเขาโตเป็นหนุ่มอายุสิบสี่เรียนโรงเรียนเดียวกับน้า แหงล่ะอะไรก็น้า ๆ เขาน่ะตัวติดน้าอย่างกับอะไร เด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน แถมหน้าตาก็ไม่ไกลกันมาก บางทีฉันก็แก่จนเรียกผิดเรียกถูก ไม่รู้คนไหนลูกคนไหนหลาน ยิ่งทั้งสองกำลังเข้าสู่วัยรุ่น วัยกำลังโตที่นั่งเล่นเกมส์ เหล่หญิง และอ่านหนังสือกัน เรื่องอ่านหนังสือต้องยอมรับลูกชายฉันณภัทร เขาสอนหลานได้ดีมาก เขาติวหนังสือให้กันจนติดท็อปโรงเรียนทั้งคู่ ผิดกับปลายฝนลูกสาวบุญธรรม รายนั้นเธอชอบวาดรูปชอบศิลปะ ทุกครั้งที่หนุ่ม ๆ ทวนวิชา
สรุปแม่ฉันก็ได้เด็กคนนั้นมาเลี้ยง ใช่ค่ะเธอน่ารักจริง ๆ เรียบร้อยมาก ณภัทรก็ดูรักมาก กลับจากโรงเรียนก็หอม ตื่นเช้าจะไปโรงเรียนก็หอม ฉันพาสองสาวไปเลี้ยงที่นั่นบ่อย เห็นแทบทุกช็อตทุกตอน และเห็นอีก ว่าแม่แทบไม่ต้องเลี้ยงเจ้าหนูคนนั้น เธอเหมือนเด็กที่สงบเสงี่ยมเจียมตัว เอาแต่มองหน้าทุกคนแล้วยิ้ม เจ็บปวดอะไรก็ต้องเจ็บปวดจริง ๆ ถึงจะร้องแอ๊ะออกมา แค่ร้องแอ๊ะนะ เรื่องร้องงอแง แม่บอกว่านอกจากวันแรกที่เห็นที่โรงพยาบาล แม่ก็ไม่ได้เห็นอีกเลย “ปลายฝนไม่ร้องแบบนี้ แม่รู้ได้ไงคะว่าน้องหิว?” “กะเวลาเอาสิ ปลายฝนจะหิวและทำอะไรตามเวลาเป๊ะ ๆ แล้วสองสาวล่ะ อยู่กับลูกที่บ้านดื้อไหม?” “ไม่ดื้อค่ะ จะว่าไปตอนนี้หนูเริ่มชินแล้ว หน้าที่แม่ยิ่งใหญ่จริง ๆ แบบว่า เหนื่อยจนชินค่ะ” แม่ขำเบา ๆ พร้อมกับเขย่าขวดนมเตรียมป้อนปลายฝน ก่อนที่ฉันจะอุ้มณพลอยเข้าเต้าอีกคน และนั่งมองน้องไปด้วย ปลายฝนเป็นเด็กที่ไม่เหมือนเด็ก แววตาเธอเหมือนผู้ใหญ่ที่เฝ้าสังเกตและสำรวจตลอดเวลา ฉันไม่อยากเชื่อ ว่าเด็กเดือนกว่า ๆ จะรู้เรื่องและทำอะไรทุกอย่างเป
คุณน้ำหวานยิ้มให้ฉัน เหมือนเป็นรอยยิ้มแห่งความหวัง เราเป็นแม่คนและมีหลานเหมือน ๆ กัน เราดูกันออก แล้วคุณน้ำหวานก็พาฉันไปที่ห้องเด็กอ่อนทันที ที่ตอนนี้ในห้อง มีตำรวจสองสามคนยืนคุยกับกุมารแพทย์ “เรื่องถึงไหนแล้วคะ?” คุณน้ำหวานถามทันทีเมื่อเดินไปถึง ฉันจึงค่อย ๆ เดินอ้อมไปดูเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เตียงเด็ก ตายแล้ว เหมือนที่คุณน้ำหวานพูดเลย เธอน่ารักจิ้มลิ้มจริง ๆ ตอนเธอร้องไห้ฉันรู้สึกเศร้าใจตาม อยากจะอุ้มขึ้นมาโอ๋มาก ‘อุแว้~ อุแว้~’ มีรอยมดกัดเต็มแก้ม น่าสงสารจริง ๆ ทำไมถึงทิ้งได้ลง ลูกทั้งคนนะ “ดูจากกล้องวงจรปิด มีคนอุ้มเด็กมาทิ้งราว ๆ เจ็ดโมงเช้าครับ ลักษณะรูปร่างคล้ายผู้หญิง เธอสวมหมวกบัตเก็ตกับมาสก์ปิดปาก และเธอเอียงตัวหลบเหมือนรู้จักมุมกล้องเป็นอย่างดี” คุณน้ำหวานพยักหน้ารับ พลางก้มมองเจ้าตัวเล็กที่ร้องงอแงไปด้วย “เห็นป้ายทะเบียนรถไหมคะ?” “ไม่เห็นครับ เพราะเธอเดินมา และเธอก็เดินเท้าเปล่าด้วย” แล้วฉันกับคุณน้ำหวาน ก็หันไปถามพร้อมกัน “เท้าเปล่า?” จริงอยู
“ณพิม เหมือนอ้วนตอนเด็ก ๆ” คุณหมอเขามองหน้าณพิมสลับกับฉัน ดูสายตาเขาสิ มันเป็นประกายมาก ถ้าถอดมาสก์ปิดปากออก ฉันคงได้เห็นรอยยิ้มกว้าง ๆ ของเขา “แต่ณพลอยเหมือนเบบี๋นะ เค้าอยากให้ลูกมีลักยิ้มเหมือนเบบี๋จัง” “ไม่แน่ณพลอยอาจจะมี ใช่ไหมครับ ลูกสาวพ่อ” ละมุนจริง ๆ เลยกับลูกสาวเนี่ย “จ้า ลูกสาวหมอนาวา” ฉันล้อเขาเสียงอ่อน เพราะตอนนี้รู้สึกเพลียมาก ก่อนที่พยาบาลเธอจะช่วยอุ้มสอง ณ มาถ่ายรูปครอบครัวกัน วิสัญญีแพทย์ก็จะพูดอะไรสักอย่าง จนฉันเผลอหลับไป “ณเพชรอย่าเสียงดังนะลูก แม่หลับอยู่” เสียงสามีฉันนี่น่า โอ้ย... รู้สึกตึง ๆ ท้องจัง “ปะป๊าณเพชรอยากนอนกับแม่ น้องออกมารึยังครับ?” “น้องอยู่ที่ห้องเด็กอ่อนแล้วครับ เช้า ๆ เดี๋ยวพ่อจะพาไปหาน้องนะ ตอนนี้ณเพชรต้องนอนลูก” “ปะป๊า ณเพชรอยากไปตอนนี้เลยครับ” “รอครับ ณเพชรต้องรู้จักรอ ตอนนี้ตีสี่นะ รบกวนคนอื่นเขา” แล้วเสียงเล็ก ๆ ของลูกชายก็เงียบไป ถ้าให้ฉันเดา ตอนนี้เขาคงเดินกอดผ้าทำหน้าบึ้งใส่พ่ออยู่ โถลูก... แม่ไม่ไหวจริง ๆ
ณเพชรปราบพ่อนาวาอยู่หมัด หลังจากวันนั้น ความบันเทิงก็เกิดขึ้นนับไม่ถ้วน เมื่อฉันต้องเข้าแอ็ดมิทที่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอด แน่นอนพ่อนาวาต้องเลี้ยงณเพชรมากกว่าเดิม หนำซ้ำบางวันมีณภัทรมาด้วย รายนั้นเขาไม่เถียงพี่เขยหรอก แต่ณเพชรนี่สิ สายกวนประสาทพ่อ “ปะป๊า วันก่อนณเพชรเอาเรื่องปะป๊าไปถามคุณครู คุณครูบอกว่า... “ “อะไรนะณเพชร?” “ครับ ปะป๊าไม่อธิบายเรื่องช้างน้อย ณเพชรเลยถามคุณครูครับ” คุณหมอนาวาทรุดนั่งข้าง ๆ ลูกชาย ก่อนจะชันเข่าขึ้นมากอดไว้ “ชีวิตกูเนี่ยนะ” “ชีวิตปะป๊าทำไมครับ ช้างน้อยปะป๊าโกรธณเพชรเหรอ?” เขาเงยหน้าขึ้น มองฉันขอความช่วยเหลือ เพราะคำว่าช้างน้อย ฉันสอนณเพชรพูดเองล่ะ เอ่อ ของพ่อไม่มีคำว่า ‘น้อย’ นะลูก ช้างเลยล่ะ! “ถ้าณเพชรไม่ลืมเรื่องนี้ พ่อนี่แหละจะโกรธ” ณเพชรเงียบ และหันไปหาณภัทร จนน้าเขาชี้นิ้วไปจิ้มอกหลานเบา ๆ “ฟังน้า อย่าทำให้พ่อโกรธเข้าใจไหม เดี๋ยวโตขึ้นพ่อไม่ให้ตังค์ไปโรงเรียน” สอนหลานน่ารักเชี
เรื่องดุลูก ปากคุณหมอศัลนี่ไวจริง ๆ ฉันต้องอุ้มณเพชรไปห่าง ๆ เขา จนลูกหลับถึงได้กลับมาขึ้นเตียงนอนเหมือนเดิม ณเพชรเป็นแบบนี้จนถึงสามขวบ เป็นลูกชายที่ติดแม่เหมือนนาวีลูกซินน์ และฉันไม่สามารถที่จะโอ๋ประคบประหงมเขาได้เหมือนแต่ก่อน เพราะตอนนี้ฉันก็ท้องจวนคลอดแล้ว ใช่ค่ะ กว่าจะท้องแฝดได้ ฉันกับคุณหมอศัลเราปั๊มกันนานเหลือเกิน แต่เราภูมิใจนะ ที่ท้องแฝดและได้ผู้หญิงเหมือนที่ตั้งใจ ลูกสาวสองคนห่างจากพี่ชายสามปี พอดิบพอดีที่จะเป็นเพื่อนกับลูกสาวไออุ่น นึกไม่ถึงล่ะสิ! ไออุ่นท้องแล้ว ฮ่า ๆ ฉัน น้ำปั่น ซินน์ รู้ข่าวปุ๊บ ก็นัดกันไปขำใส่หน้ามันปั๊บ! เพราะน้ำปั่นโอมเพี้ยง ๆ ใส่ท้องมันทุกครั้งที่เจอกัน ตอนนี้มันท้องได้สี่เดือนแล้ว แถมได้ลูกสาวด้วย มันหงุดหงิดเวียร์หนักมาก นั่งยันนอนยันว่าคลอดคนนี้จะทำหมันเหมือนซินน์ อย่าว่าแต่ไออุ่นเลยฉันก็จะทำหมันเหมือนกัน เพราะณเพชรไม่ได้เลี้ยงง่ายเหมือนเดิม ยิ่งพูดได้ยิ่งแสบ รู้ทุกเรื่อง! ยิ่งกับณภัทรน้าเขา คือเข้าขากันดีมาก แต่โชคดีที่ณเพชรเขาไม่เถียงฉัน เขาเถียงพ่อแทน! เถียงเหมือนที่คุณหมอ
คุณหมอศัลดูช็อกนิด ๆ แต่ก็ไม่พูดอะไร จนเขาเปิดประตูห้องออกไป ฉันถึงพาลูกกลับไปนอนที่เตียงเด็กและรีบอาบน้ำ แต่งหน้าแต่งตัวเรียบร้อยก็พอดิบพอดีที่ลูกตื่น อาจจะช้าไปบ้าง เพราะฉันต้องสุ่มเดินไปดูว่าณเพชรตื่นรึยังเพราะเขาตื่นมา เขาจะมองเพดานเงียบ ๆ ไม่ส่งเสียงร้องอะไร พอเขาตื่นฉันก็อาบน้ำแต่งตัวให้ เรื่องอาหารเด็กอ่อน ให้เขาไปกินที่บ้านกับน้าณภัทรแล้วกัน ฉันไม่ว่างทำ ถึงลูกจะเลี้ยงง่ายแต่ไม่ใช่ฉันไม่เหนื่อย เหนื่อยมาก! ฉันเป็นคุณแม่ยังสาวที่หุ่นดีจนผู้ชายมองเหลียวหลัง จะบอกอะไรให้ แต่ก่อนหุ่นฉันเฉย ๆ มาก! รูปทรงก็ไม่ค่อยชัดและได้สัดส่วน แต่หลังจากคลอดลูกเท่านั้นแหละ คนละคนกันเลยนมตูดมาเต็ม! ซึ่งฉันชอบมาก... สามีก็ชอบ จัดการลูกเรียบร้อยฉันก็ขับรถออกจากคอนโด เราสองแม่ลูกแวะซุปเปอร์กันนิดหน่อย ฉันซื้อแครอท ซื้อบรอกโคลี ณเพชรเขาไม่ดื้อนะ เขาแค่มองตามมือฉันว่าฉันหยิบจับอะไร บ้างก็อยากจับด้วยเพราะสงสัย เป็นแบบนี้จนฉันซื้อของเสร็จ พอถึงบ้านฉันก็เอาผักทุกอย่างไปล้างให้เขานั่งเล่นที่พื้น สีส้มของแครอทสีชัดเจน บรอกโคลีก็เขียว
ฉันยกมือบีบแขนคุณหมอศัลเบา ๆ บีบจนเขาเงยหน้าที่ซุกตามซอกคอ ขึ้นมาจุมพิตที่ริมฝีปากฉัน “ขอแฝดหญิงนะคะที่รัก” “ครับ” รับปากฉันเสร็จเขาก็ก้มลงประทับริมฝีปากบบาง ก่อนจะเลื่อนมือที่จับตรงหัวไหล่ ลงมาดึงสายชุดนอน ชุดนอนสายเดี่ยวถูกเขาเกี่ยวสาย ถอดออกอย่างง่ายดาย ฉันตั้งใจใส่เพื่อจะให้นมลูกง่าย ๆ แต่ไม่คิดว่ามันจะง่ายถึงขนาดปลดได้แค่ปลายนิ้วแบบนี้ เมื่อสองเต้าที่เปลือยเปล่าประจันหน้าเขา ริมฝีปากที่พรมจูบเบา ๆ ก็ไล่ลงไปหามัน เขาส่งแค่ปลายลิ้นอุ่น ๆ ตวัดวนเท่านั้น สลับกับมือใหญ่ ที่ลูบคลำตามฐานเต้าเบา ๆ “อื้ม~” ไม่นานฉันก็ถูกถอดพันธการช่วงล่างอย่างรวดเร็ว ตามด้วยมือใหญ่ที่ใช้ปลายนิ้ว ถูตามแยกสวาทฉัน เขาเริ่มกดนิ้วกลางลงเบา ๆ เพื่อกระตุ้นน้ำสวาท บ้างก็พยายามดันมันเข้าไป และถูรอบ ๆ แบบนั้น แต่ทุกอย่างถูกกระทำอย่างเบามือ “อ่ะ อื้ม~ เสียวจัง” ฉันเริ่มบีบไหล่ ที่ขยับต่ำลงไปเรื่อย ๆ ตามหว่างขา โดยที่นิ้วยาวเขายังละเลงเล่นตุ่มกระสันช้า ๆ อยู่แบบนั้น เมื่อริมฝีปากไล่ลงไปถึงยอดที่เขาโปรดปราน เขาก็ลงลิ้นทักทายมันทั