"คุณแม่ขา หนูสวยหรือยังคะ" ลิต้าถามใบข้าวพร้อมกับหมุนตัวให้ดูหนึ่งรอบ วันนี้น้องลิต้าตื่นแต่เช้าเพื่อลุกขึ้นมาแต่งตัวไปทำงานกับผู้เป็นพ่อหรือไปป่วนกันแน่ก็ไม่รู้"สวยแล้วค่ะ หนูสวยที่สุดเลย ฟอด" ฉันตอบลูกสาวไปพร้อมกับหอมไปที่แก้มอีกหนึ่งที วันนี้น้องลิต้าแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงน่ารักสีชมพู มัดผมแกละสุดโปรดและผูกโบว์ประดับสีเดียวกันกับชุด"ไปกันค่ะคุณแม่ เราลงไปข้างล่างรอปะป๊ากันเถอะค่ะ" หลังจากที่น้องลิต้าบอกว่าวันนี้จะเรียกเขาว่า 'ปะป๊า' ก็กลายเป็นว่าเลิกพูดพูดคำว่าคุณพ่อไปโดยปริยาย"ค่ะๆ งั้นเราลงไปทำอาหารรอปะป๊าหนูดีกว่า" หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้วเราทั้งสองก็ตรงไปที่ห้องครัวด้านหลังบ้านเพื่อมาทำอาหารรอระหว่างที่เขาจะมา วันนี้เป็นเมนูเบาท้องและไม่เน้นพริก มีต้มจืดหมูใส่สาหร่าย ไข่ตุ๋นและทอดซี่โครงหมูที่รีเควสโดยลูกสาวสุดสวยเอง"หนูไปกับปะป๊าวันนี้หนูต้องคิดถึงคุณแม่มากๆแน่เลยค่ะ" ดูลูกสาวฉันสิคะ ช่างรู้จักพูดเอาในฉันซะจริง"งั้นหนูไม่ต้องไปกับปะป๊าดีไหมคะ วันนี้อยู่ช่วยคุณแม่ขายขนมกับพวกพี่ๆที่ร้านดีไหมคะ" "งื้ออ ไม่ดีค่ะคุณแม่ วันนี้หนูต้องไปช่วยปะป๊าทำงาน" น้องลิต้ารีบส่ายหน้าปฏิเสธฉ
"ปะป๊าขา หนูอยากกินอันนั้น" ตอนนี้ผมกับลูกออกมาจากบ้านได้สักพักแล้วหลังจากที่กินข้าวเสร็จ แต่ตอนนี้ลูกสาวผมเอาแต่เกาะขอบกระจกพร้อมกับชี้ไปข้างทางที่มีรถไอติมแบบรถเข็นขายอยู่ ผมนี่แทบจะเบรกรถไม่ทันก็ลูกผมชี้ตอนรถมันผ่านมาได้ครึ่งคันแล้ว ดีที่ไม่มีรถขับตามแบบต่อกัน ไม่งั้นได้เรียกประกันมานั่งกินไอติมเป็นเพื่อนลูกผมแน่ๆ"ไปครับ เราไปซื้อไอติมกัน" หลังจากที่หาที่จอดรถริมฟุตบาทเสร็จ ผมก็เดินอ้อมมารับเจ้าหญิงคนสวยที่นั่งรอผมอยู่เบาะข้างคนขับทันที"สวัสดีค่ะคุณตา หนูจะมาซื้อไอติมค่า~" เดินมาถึงร้านลูกผมก็สวัสดีคนขายไอติมเป็นที่เรียบร้อย มารยาทงามเป็นที่หนึ่งและเรื่องกินก็เป็นที่หนึ่งเช่นกัน"สวัสดีจ้าลูก เอาแบบไหนดีล่ะ ตามีขนมปัง มีโคนไอติม แล้วก็ถ้วยพลาสติกจ้า" "ปะป๊าขา~ หนูเลือกไม่ถูกเลยค่ะ" ตัวเลือกมีเยอะเกินไปตอนนี้เลยหันไปถามคนเป็นพ่อแทน ปกติไปซื้อขนมกับแม่ แม่จะเป็นคนเลือกให้ตลอดเพราะถ้าให้น้องลิต้าเลือกเองน้องลิต้าเลือกเหมาค่า เพราะน้องนิสัยรวยเน้นซื้อไม่เน้นกินหมด"หนูชอบกินแบบไหนครับลูก" ไอ้ไอติมแบบนี้เขาก็ไม่เคยจะได้กินด้วยสิ ไม่รู้ว่ารสชาติมันเป็นแบบไหน"ชอบทุกอันเลยค่าปะป๊า""หน
ตอนนี้ผมพาลูกขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นบนสุดของบริษัทแล้วเดินตรงไปที่ห้องทำงานทันที ก่อนที่จะได้ยินเสียงหนึ่งดังขัดขึ้นมาก่อนที่ผมจะได้จับที่ลูกบิด“เอ่อ…สวัสดีครับบอสครับ หลานบอสน่ารักจังเลยนะครับ สวัสดีครับตัวเล็กลุงชื่อแมนนะครับ” เลขาแมนที่นั่งประจำการอยู่ที่โต๊ะหน้าห้องของลูคัสรีบเดินเข้ามาทักทายบอสของตนทันทีที่เดินออกมาจากลิฟต์ ก่อนจะเอ่ยทักทายสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของบอสตนเองทันที “เฮ้อ..ครับ รบกวนคุณเลขาแมนหาขนมกับนมเข้ามาให้ลูกผมที่ในห้องหน่อยนะครับ ไปครับลิต้าปะป๊าจะพาหนูไปทำงานกัน” เขาขี้เกียจจะอธิบายให้ทุกคนฟังแล้ว ถ้ายังมีคนถามเขาร้อยครั้งเขาไม่มั่วแต่มานั่งตอบคำถามพวกนี้ทั้งวันเลยหรือ“คะ…ครับ ล..ลูกบอสหรอค..อ้าวว” ยังไม่ทันที่คุณเลขาจะได้พูดจบลูคัสก็ชิ่งเดินหนีเข้าห้องทำงานก่อนเป็นที่เรียบร้อย ปล่อยให้เลขาแมนยืนเคว้งอยู่คนเดียวโดยที่ยังมีเครื่องหมายคำถามอยู่เต็มหัวไปหมด “เฮ้อ จะถามแต่กลัวจะโดนด่ากลับมาว่าเสือกนี่สิ ลงไปซื้้อขนมก่อนจะดีกว่า ถ้าเป็นลูกบอสก็ต้องเป็นบอสใหญ่ของที่นี่แน่ๆ เอาเป็นว่าตอนนี้เลขาแมนคนนี่จะย้ายข้างแล้วนะครับบอส ฮ่าๆๆๆๆ” เลขาแมนบ่นพึมพัมๆคนเดียวพร้อมกับห
"คุณป้าเป็นใครคะ" ลิต้าที่กำลังนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่คนเดียวตรงโซฟาก็หันไปมองผู้มาใหม่ที่เปิดประตูห้องเข้ามา ก่อนจะเอียงคอถามอย่างน่ารักจนคนที่เปิดประตูเข้ามาตกใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า"ตายแล้ว!! ลูกใครเนี่ยทำไมมาอยู่ในห้องของตาลูคได้" คุณหญิงดารารัตน์ที่เดินทางมาหาลูกชายตัวดีถึงกรุงเทพฯในวันนี้ แต่ดันเปิดมาเจอเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่กำลังนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่ในห้องนี้เพียงคนเดียว จึงทำให้คุณหญิงตกใจเป็นอย่างมากเพราะว่าลูกชายของเธอไม่ชอบเด็กเลยแม้แต่นิดเดียว บางทีเด็กคนนี้อาจจะเข้ามาโดยที่เลขาด้านนอกไม่รู้ก็ได้คุณหญิงเลยตะโกนเรียกเลขาหน้าห้องของลูกชายทันที"เลขาแมน!! เลขาแมน!!!" "แงงงงง แงงงงงง แงงงงง" ลิต้าสะดุ้งตกใจกับเสียงเรียกเลขาของคุณหญิงดารารัตน์ จนแผดเสียงร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว ตอนนี้ในสายตาของน้องลิต้านั้นคุณหญิงดารารัตน์ไม่ต่างจากนางมารร้ายในการ์ตูนที่ตัวเองเคยดูเลย"ครับๆๆ คุณหญิงมีอะไรหรือเปล่าครับ อ้าวแล้วนั่นทำไมน้องลิต้าถึงร้องไห้ได้ครับ โอ๋ๆๆๆมาครับเดี๋ยวลุงแมนพาไปหาปะป๊าหนูดีกว่าเนาะ" เลขาแมนรีบเปิดประตูเข้ามาในห้องทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงของคุณหญิงดารารัตน์ตะโก
"คุณมาก็ดีแล้วค่ะ มานี่เลย" คุณหญิงดารารัตน์หันไปเร่งสามีให้รีบมานั่งข้างตนไวๆ เธออยากจะรู้เรื่องราวเด็กบนไหล่ของลูกชายเต็มแก่"อ่ะ พูดมาสิทั้งสองคนนะ มีเรื่องอะไรกัน" ประมุขผู้ใหญ่สุดของบ้านได้มานั่งลงข้างคนเป็นภรรยาเป็นที่เรียบร้อย ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความใจเย็นและสุขุมนุ่มลึก"คุณก็ดูสิคะ ตาลูคบอกว่าเด็กที่อยู่บนไหล่เป็นลูกของตัวเอง คุณดูสิ คุณดู!!!" ตอนนี้ใจคุณหญิงเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วพร้อมกับเขย่าแขนสามีเป็นพัลวัน"คุณหญิงใจเย็นๆ ผมเห็นแล้วๆ ไหนแกลองพูดมาสิไอ้ลูกชาย ไปไข่ไว้ที่ไหนมาทำไมไม่ยอมบอกมัมกับแด๊ด" "ขอเวลานอกครับ ผมของเอาลูกไปนอนก่อน เดี๋ยวออกมาคุยด้วย" เมื่อสังเกตว่าน้องลิต้าได้นิ่งไปสักพักแล้วก็หันไปมองจึงเห็นว่าหลับปุ๋ยเป็นที่เรียบร้อย สงสัยแบตลูกสาวเขาจะหมดแล้วแหละ เหนื่อยทั้งจากการกินและการร้องไห้ จากนั้นลูคัสเลยเดินเลี่ยงพ่อกับแม่พาน้องลิต้าไปนอนที่ห้องนอนทันทีก่อนจะได้ออกมาสารภาพบาป ความจริงเขาอยากจะบอกมัมกับแด๊ดตอนที่ทุกอย่างทันลงตัวกว่านี้แต่ในเมื่อเวลาของมันมาถึงแล้วเขาก็ต้องออกไปบอกความจริงอยู่ดี พรึ่บ"พูดมาสิตาลูค ลูกจะมานั่งจ้องแม่ทำไม แล้วลูกหมาย
เที่ยงตอนนี้ลูคัสได้นั่งเคลียร์เอกสารอยู่คนเดียวจนถึงเวลาเที่ยงเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่มัมกับแด๊ดของเขาเดินเข้าห้องนอนไปก็ไม่ได้ยินเสียงเล็ดลอดอะไรออกมาจากในห้องนั้นเลย เขาว่าจะเดินเข้าไปดูทั้งสามคนสักหน่อยและจะได้ชวนกันไปทานข้าวเที่ยงด้วยกันเลย แกร๊ก"มัม แด๊ด ทำอะไรกันนะ?" ลูคัสเปิดประตูเข้ามาก็เห็นมัมกับแด๊ดตัวเองกำลังยืนกดโทรศัพท์ใส่น้องลิต้ารัวๆ นี่ไม่ใช่ว่าเข้ามาตั้งนานสองนานคือยืนกดโทรศัพท์ถ่ายรูปลูกของเขาหรอกนะ "อะไรตาลูค เข้ามาไม่ให้ซุ่มไม่ให้เสียงฉันตกใจหมด" คุณหญิงดารารัตน์สะดุ้งจนโทรศัพท์แทบร่วงลงใส่หลานสาวที่นอนอยู่ เพราะเธอใจจดใจจ่ออยู่กับการถ่ายรูปหลานสาวไปอวดเพื่อนเพื่อนในสมาคม "นี่มันก็เที่ยงแล้วนะครับ ผมจะพาน้องลิต้าไปกินข้าวแล้ว ไม่ทราบว่ามัมกับแด๊ดอยากจะไปร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับผมและลูกไหมครับ""ฉันไม่อยากร่วมโต๊ะกินข้าวกับแกหรอกย่ะ แต่ฉันเห็นแก่หลานตัวน้อยๆของฉันที่ต้องไปนั่งร่วมโต๊ะกินข้าวกับแก ฉันจะไปนั่งเป็นเพื่อนหลานสาวฉันกินข้าวก็ได้" โอเค ผมสรุปได้แล้วว่า คุณย่าของน้องลิต้าคนนี้เจอน้องลิต้าไม่ถึง5ชั่วโมง ก็หลงหลานสาวจนหัวปักหัวปำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งสี่คนออกมาจากบริษัทแล้วและกำลังจะมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารที่คุณหญิงดารารัตน์เป็นคนโทรจองไว้เมื่อกี้ โดยรถแบ่งออกเป็นสองคันคือ คันของเขาและน้องลิต้ากับอีกคันที่เป็นคันของมัมและแด๊ด "ปะป๊าขา~หนูอยากไปหาคุณแม่" น้องลิต้าไม่เคยห่างจากแม่เป็นเวลานาน นอกจากตอนไปโรงเรียนก็เริ่มที่จะงอแงใส่คนรอบข้างแล้ว"หนูอยากกลับไปหาคุณแม่แล้วหรอครับลิต้า" หงึก หงึก ลิต้าพยักหน้ารับทันที เพราะเธอรู้สึกว่าตนเองจะคิดถึงคุณแม่มากๆ"งั้นเดี๋ยวหนูไปกินข้าวกับคุณปู่คุณย่าเสร็จแล้ว ปะป๊าจะพาหนูไปส่งกับคุณแม่นะครับ หนูโอเคไหม" ลูคัสพูดพร้อมกับลูบหัวของน้องลิต้าไปด้วย วันนี้เป็นวันแรกที่เขาพาน้องลิต้ามาด้วยโดยที่ไม่มีใบข้าวตามมา ซึ่งน้องลิต้าอาจจะยังไม่ชินที่ไม่มีคนเป็นแม่อยู่ด้วย"โอเคค่ะปะป๊า" เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้วน้องลิต้าก็นั่งอยู่บนเบาะของตัวเองอยากเงียบๆจนเขาขับไปถึงร้านอาหารตอนนี้ทั้งสี่คนได้มานั่งอยู่ในห้องรับประทานอาหารในร้านที่คุณหญิงดารารัตน์จองไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว "ลิต้าขา หนูชอบทานอะไรคะเดี๋ยวคุณย่าจะสั่งให้หนูเอง" คุณหญิงดารารัตน์รีบทำคะแนนเอาใจหลานสาวเป็นพิเศษ เพราะกลัวว่าเธอจะโดนหล
20.30น."ลิต้าขา อาบน้ำเสร็จหรือยังลูก" วันนี้ร้านปิดตอน19.00น.นิดๆ ฉันกับน้องลิต้าเลยได้กินข้าวอาบน้ำและเข้านอนเร็ว"ฮึกแม่ขา~" น้องลิต้าอาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดนอนเสร็จแล้ว ก็เดินตรงมาหาใบข้าวพร้อมทั้งน้ำตา"ลิต้าหนูเป็นอะไรคะ ทำไมหนูถึงร้องไห้หนูบอกคุณแม่ได้ไหมคะ" ใบข้าวเปิดประตูห้องของน้องลิต้าออกมา ก็เห็นน้องลิต้าเดินตรงมาหาตัวเองพร้อมทั้งใบหน้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตา"ฮึก คุณแม่ขา~ หนูไม่ได้เอา..อึก พ..พี่บาร์บี้กลับมาด้วยค่ะ แงงง~" เมื่อบอกสาเหตุที่ทำให้ตัวเองต้องมาร้องไห้อย่างนี้เสร็จ น้องลิต้าก็ปล่อยโฮออกมาอย่างเสียงดังทันที"โอ๋ๆ หนูลืมเอาพี่บาร์บี้กลับมาด้วยหรอคะ งั้นวันนี้หนูไปนอนกับคุณแม่ดีไหมคะ กอดคุณแม่หนึ่งคืนแทนกอดพี่บาร์บี้ไงคะ หนูสนใจไหมคะลิต้า" ใบข้าวรู้ว่าลูกของเธอติดตุ๊กตาตัวนี้มากแค่ไหน ถึงในห้องจะมีตุ๊กตาอยู่หลากหลายชนิดจนอัดแน่นไปทั้งห้อง แต่ตัวที่น้องลิต้าชอบเล่นและเอาไปไว้ข้างๆตอนนอนก็คือตุ๊กตาบาร์บี้ที่ยัยขนมซื้อมาฝากจากต่างประเทศเมื่อหลายเดือนก่อน"แงง~ ต..แต่หนูอยากได้พี่บาร์บี้ของหนูคืน คุณแม่ขา~ คุณแม่โทรหาปะป๊าให้หนูหน่อยได้ไหมคะ" ตุ๊กตาบาร์บี้ตัวนี้ก็ไม
"ปะป๊า!!!""ปะป๊า!!!""ปะป๊า!!!""ปะป๊า!!!" ประตูห้องทำงานชั้นบริหารถูกผลักเข้ามาอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงอันทรงพลังและฝีเท้าทั้งสี่ที่วิ่งตรงมาที่โต๊ะทำงานของลูคัสที่กำลังนั่งทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจอยู่ผู้ที่เปิดประตูห้องยังไม่ได้รับอนุญาตจากลูคัสคนแรกประเดิมด้วยพี่ใหญ่อย่างน้องลิต้า เด็กหญิงขวัญข้าว โบลโซเวอร์ พี่คนที่สองอย่างน้องลินา เด็กหญิงอารียา โบลโซเวอร์ พี่คนที่สามอย่างน้องลิสา เด็กหญิงอลิชา โบลโซเวอร์ และน้องสุดท้องอย่างน้องลูติน เด็กชายอชิรา โบลโซเวอร์ ตามลำดับไม่ต้องสงสัยว่าทำไมนามสกุลของน้องลิต้าถึงเปลี่ยนจากนามสกุลปัทมกุล มาเป็นนามสกุลโบลโซเวอร์ เพราะวันที่มัมของเขาได้คิดชื่อให้เด็กทั้งสามคนเสร็จแล้วก็เรียกคนจากอำเภอให้มาเปลี่ยนชื่อนามสกุลของทั้งใบข้าวและน้องลิต้าให้เสร็จสมบูรณ์ เพื่อที่จะได้มาเป็นครอบครัวเดียวกันอย่างไม่มีข้อแม้ ซึ่งใบข้าวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใดจึงทำให้ทั้งสองได้เปลี่ยนนามสกุลมาเป็น โบลโซเวอร์ แต่โดยดี"โอ้โห~ คิดถึงจังเลยครับมาให้ปะป๊าหอมหน่อยเร็ว " เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนผลักประตูเข้ามาลูคัสก็วางงานตรงหน้าลงทันทีพร้อมกับลุกจากเก้าอี้มานั่งยองๆรอเด็
"คุณแม่!!! ปะป๊า!!!" "ชู่ววว เบาๆลูกเดี๋ยวน้องๆหนูตกใจนะ" ตอนนี้เธอกำลังให้นมลูกคนสุดท้ายอยู่บนเตียงคนไข้ อยู่ดีๆประตูก็ถูกเปิดออกด้วยฝีมือของน้องลิต้าและเสียงตะโกนดังโหวกโวยวายที่มาก่อนตัวนั้นทำให้เธอที่กำลังตั้งใจให้นมลูกอยู่ก็แอบสะดุ้งโหยงอยู่เหมือนกัน "ไหนน้องหรอคะคุณแม่" ลิต้าที่ได้ยินว่าน้องกำลังหลับอยู่ก็รีบวิ่งตรงไปที่เตียงของใบข้าวพร้อมกับเขย่งเท้ายืดคอพยายามมองน้องที่กำลังดูดนมจากเต้าของใบข้าวอยู่"นี่จ้ะ หนูเห็นไหมลูก" ใบข้าวก็พยายามที่จะก้มให้น้องลิต้าดูใบหน้าของเด็กชายตัวน้อยที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาดูดนมจากเต้าของเธอยังไม่ได้สนใจใคร"ลิต้ามาดูน้องๆกับพ่อสิครับ มานี่มาน้องอยู่นี่ตั้งสองคน" เพราะว่าเห็นเมียตัวเองฝืนร่างกายพยายามที่จะก้มเอาตัวลูกชายให้น้องลิต้าดูก็กลัวว่าเมียจะเจ็บแผลเลยต้องรีบเรียกให้น้องลิต้ามาดูน้องๆทั้งสองคนที่ตัวเองกำลังเอานอนบนรถเข็นอยู่ แทนที่จะให้ใบข้าวฝืนก้มลงมาต่อเพราะกลัวจะเป็นอันตรายกับแผลที่พึ่งจะผ่าคลอด"ค่าาาาาา" เมื่อเห็นว่าทางของปะป๊าของตัวเองมีน้องอยู่ตั้งสองคน น้องลิต้าก็รีบวิ่งมาดูน้องๆที่ตรงโซฟาของญาติผู้ป่วยทันที ทำให้ใบข้าวหันกลับไปสนใ
"อื้อ~" "เป็นยังไงบ้างครับที่รัก หนูโอเคไหม" ลูคัสที่นั่งรอเมียคนสวยตื่นจากการคลอดสามแฝดอยู่ตรงโซฟาก็รีบเด้งตัวออกจากโซฟามาหาใบข้าวที่เตียงผู้ป่วยทันที ตั้งแต่ออกจากห้องคลอดใบข้าวก็ยังหลับอยู่ต่อประมาณสามชั่วโมง ซึ่งช่วงนี้ก็เริ่มเย็นแล้วส่วนน้องลิต้าพ่อกับแม่ของเขาเป็นคนอาสาออกไปรับให้เอง"แค่กๆ ลูกล่ะคะเฮีย ลูกเราเป็นยังไงบ้าง" ทันทีที่ใบข้าวตื่นมาก็ร้องเรียกหาลูกน้อยที่ตัวเองเพิ่งคลอดออกจากท้องไปทันที เพราะหลังจากที่เธอคลอดสามแฝดเสร็จแล้วเธอก็รู้สึกเหนื่อยรู้สึกเพลียจนตัวเองเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว ตื่นขึ้นมาอีกทีก็เจอแต่เพดานสีขาวและเฮียลูคัสที่นั่งรอเธออยู่บนโซฟาโดยที่ทั้งห้องไม่มีแม้แต่เสียงเด็กร้อง เธอจึงรีบถามหาลูกแฝดทั้งสามของตัวเองทันที"ลูกๆของเรายังอยู่ที่ห้องเด็กแรกเกิดครับที่รัก เดี๋ยวอีกสักพักพยาบาลน่าจะมาส่งลูกๆของเราแล้วล่ะ" เพราะก่อนหน้านี้พยาบาลเปิดมาดูอาการของใบข้าวก็พบว่าเธอยังไม่ตื่นจากฤทธิ์ของยาสลบ เลยบอกว่าถ้าใบข้าวตื่นให้กดกริ่งเรียกได้เลยเดี๋ยวพยาบาลจะนำลูกแฝดทั้งสามมาส่งให้ที่ห้องเองเพราะว่าต้องเอาเด็กๆเข้าเต้าคุณแม่ก่อน"งั้นหรอคะ~" ใบข้าวหน้าจ๋อยลงทันทีที่
ตึก ตึก ตึก ตึก"ตาลูค!!! หนูข้าวคลอดหรือยังลูก" คุณหญิงดารารัตน์และคุณเอเธนส์รีบต่อเครื่องตรงมาที่กรุงเทพฯทันทีหลังจากที่ได้รับสายโทรศัพท์จากลูกชายสุดที่รักว่าหนูใบข้าวจะคลอด เมื่อมาถึงสนามบินคุณหญิงก็ไม่รีรอที่จะเรียกรถให้ตรงมาที่โรงพยาบาลทันทีโดยไม่ได้แวะพักที่ไหน เมื่อมาถึงก็เห็นลูกชายตัวโตของเขานั่งกุมหัวเครียดอยู่หน้าห้องคลอด"ยังเลยครับมัม แต่ว่าเมียผมเข้าไปนานแล้วไม่รู้ว่าด้านในเป็นยังไงบ้าง ผมเป็นห่วงเมียกับลูกผมครับ" ตอนนี้ลูคัสรู้สึกกังวลไปหมดทุกสิ่งอย่าง เพราะด้วยครรภ์ที่เมียตัวเองตั้งนั้นเป็นครรภ์แบบที่ต้องดูแลพิเศษ ซึ่งต้องผ่าคลอดเพราะว่าถ้าคลอดธรรมชาติคุณหมอที่ทำคลอดก็กลัวว่าคนเป็นแม่จะหมดแรงก่อนที่ลูกจะออกมาครบหมดทุกคน "อย่ากังวลไปเลย เมียแกและลูกแกจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน ไว้ใจหมอและปล่อยให้หมอทำให้ดีที่สุดเถอะ" คุณเอเธนส์คนเป็นพ่อรีบเข้ามาปลอบลูกชายที่กำลังทำหน้าเคร่งเครียดอยู่หน้าห้องคลอด ซึ่งเขาผ่านการเป็นพ่อคนมาก่อนเขารู้ดีว่าในใจของลูกชายตอนนี้นั้นมันกลัวและกังวลมากแค่ไหน เพราะมันไม่ต่างจากตอนที่เขามานั่งหน้าเครียดอยู่หน้าห้องคลอดในเมื่อก่อนเหมือนกัน "แต่ผมอยาก
' ข้าพเจ้า ลูคัส บลูโซเวอร์ ขอรับคุณ ลลิตา ปัทมกุล เป็นภรรยาและขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่ข้าพเจ้า ลลิตา ปัทมกุล ขอรับคุณ ลูคัส บลูโซเวอร์ลลิตา ปัทมกุล เป็นสามีและขอสัญญาว่าจะถือซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ ทั้งในเวลาป่วยและเวลาสบาย เพื่อรักและยกย่องให้เกียรติคุณจนกว่าชีวิตจะหาไม่ '"เฮียเมื่อไหร่จะเลิกดูคลิปนี้กันคะ" ฉันอาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินตรงมาที่เตียง ก็เห็นเฮียเขากำลังนั่งดูคลิปวีดีโองานแต่งงานของเราทั้งสองคนที่จัดขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว "ที่รักเฮียอยากแต่งงานอีกรอบจังเลย เราแต่งงานกันไหมครับ" ลูคัสเงยหน้าขึ้นจากไอแพดที่กำลังเล่นวีดีโองานแต่งงานของทั้งสองมาพูดกับใบข้าวด้วยใบหน้าจริงจัง"พอแล้วค่ะเฮีย แต่งครั้งเดียวก็พอมันเปลืองเงิน" นั่นแหละหลังจากที่ผ่านวันนั้นมาเขาก็ขอเธอแต่งงานแทบจะทุกวัน ไม่รู้ไปติดใจอะไรกับงานแต่งงานนักหนา"หงึ~" เมื่อโดนฉันปฏิเสธไปเฮียเขาก็สะบัดหน้าหนีฉันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"ถ้าเฮียงอนข้าว เฮียก็อดกินมะม่วงดองนะคะ" ฉันพูดเสร็จก็ทำท่ายกจานมะม่
"งั่มๆๆๆๆ ปะป๊าขอกุ้งอีกค่าาา~" นี้พวกเราทั้งสามคนมานั่งกินอาหารซีฟู้ดกันที่ร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่ง โดยที่ลูคัสคุณพ่อลูกสี่ต้องคอยบริการเจ้าหญิงทั้งสองคน คนหนึ่งก็จะกินกุ้งอีกคนหนึ่งก็จะกินปู จนเขานี้แทบจะแกะไม่ทันตามความต้องการของทั้งสองแล้ว "แป๊บนะครับลูก ปะป๊าขอแกะปูตัวนี้ให้คุณแม่ก่อนนะครับ" "โอเคค่า~ งั่มๆๆ" เมื่อทำท่าโอเคใส่คนเป็นพ่อเสร็จแล้วน้องลิต้าก็ลงมือกินข้าวผัดตรงหน้ารอกุ้งไปก่อน "เฮียไม่ต้องแกะแล้วก็ได้ค่ะ ถ้าเฮียเอาแต่แกะให้พวกเราทั้งสองคนนี้เฮียจะไม่ได้กินข้าวนะคะ" ที่จริงเธอก็ขอเป็นคนแก่ปูเองตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็เป็นเขานั่นแหละที่ไม่ยอมให้เธอทำ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขายังจะไม่ได้กินข้าวสักคำเลยด้วยซ้ำ "โอเคครับเดี๋ยวเฮียจะแกะตัวนี้เป็นตัวสุดท้ายแล้วครับ" ถ้าเขาขัดใจเมียไปเดี๋ยวก็ได้งอนกันอีก เธอจำเป็นต้องละเมอจากการแกะปูแกะกุ้งให้ทั้งสองก่อน และเรียกเด็กเสริฟร้านมาแกะให้พร้อมกับทิปแบบจัดหนัก "กินนี่สิคะ" ใบข้าวที่ทนรอให้สามีตัวเองกินข้าวช้าไม่ไหว ก็ตักข้าวผัดที่มีเนื้อปูที่เขาแกะให้เธอใส่ช้อนพร้อมกับยื่นไปจ่อที่ปากของเขาเป็นแกมบังคับ "กินสิคะเฮีย เฮียไม่รักข้าวแล้
"น้องลิต้ามาขึ้นรถได้แล้วค่ะ" และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่พวกเราจะได้ไปเที่ยวทะเลตามสัญญาของเฮียกับน้องลิต้าที่สัญญากันไว้"ค่าาาา คุณแม่" น้องรีบวิ่งออกจากบ้านมาขึ้นรถทันที"อย่าวิ่งสิคะน้องลิต้า เดี๋ยวหนูก็ล้มหรอก" ใบข้าวร้องห้ามน้องลิต้าที่กำลังจะวิ่งมาที่รถแฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก"เป็นไงเหนื่อยไหมคะ คุณแม่บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามวิ่ง" สุดท้ายลูกสาวฉันก็มาหอบแฮ่กๆอยู่ข้างๆฉัน"แฮ่ก ม...ไม่เหนื่อยเลยค่ะ" เฮ้อ~เดี๋ยวนี้ยิ่งโตยิ่งดื้อยิ่งซนเหมือนลิงเลยลูกสาวฉัน"พร้อมหรือยังครับสองแม่ลูกสุดสวย" ลูคัสที่เดินไปเอาของบางอย่างที่เขาสั่งทำไว้ก่อนหน้านี้ และรีบเดินตรงมาหาลูกและเมียเขาที่ยืนอยู่หน้าบ้านรอเขาในตอนนี้"พร้อมแล้วค่ะปะป๊า!!!" น้องลิต้าที่เป็นคนตื่นเต้นที่สุดเมื่อจะได้ไปเที่ยวทะเลก็รีบตอบลูคัสอย่างเสียงดัง"หึหึ ได้ครับสุดสวยทั้งสองขึ้นรถกันเลย น้องลิต้านั่งในนี้นะครับ" ลูคัสเปิดประตูด้านหลังให้น้องลิต้าเข้าไปนั่ง"ค่าาาา" น้องลิต้าก็ว่าง่ายรีบขึ้นไปที่เบาะด้านหลังของรถทันที"เชิญครับที่รัก ส่วนหนูนั่งตรงนี้นะ มานั่งเป็นกำลังใจของเฮีย" เมื่อส่งลูกสาวเข้าเบาะหลังเสร็จแล้วก็เปิดประตูฝั่งข้างคนขั
"คุณแม่ขา~ หนูกลับมาแล้วค่ะ" น้องลิต้ากลับมาจากโรงเรียนก็วิ่งตรงมาหาใบข้าวที่ห้องโถงรับแขกทันที "ขาลูก~ วันนี้ไปเรียนวันสุดท้ายแล้วสนุกไหมคะ" ตั้งแต่ที่เราประกาศข่าวดีเรื่องเจ้าแฝดทั้งสามให้ทุกคนได้รู้ ก็ผ่านมาได้ประมาณสองสัปดาห์แล้วและพรุ่งนี้ก็เป็นวันปิดเทอมวันแรกของน้องลิต้าด้วย"สนุกมากๆเลยค่ะคุณแม่ แต่ว่าวันนี้น้องๆแฝดดื้อกับคุณแม่ไหมเอ่ย~""หึ น้องๆไม่ดื้อกับคุณแม่เลยจ้ะ" ฉันตลกกับความน้องลิต้าชอบทำตามคนเป็นพ่อ ที่ชอบมาคุยกับเจ้าแฝดที่หน้าท้องของฉันและน้องลิต้าก็ชอบที่จะพูดตามเขาด้วย"คุณแม่ขา~ พรุ่งนี้หนูก็ปิดเทอมแล้วหนูอยากไปเที่ยวทะเลค่ะ" "หื้มม หนูอยากไปเที่ยวทะเลหรอคะลิต้า" สงสัยน้องลิต้าคงจะอยากไปจริงๆถึงได้ทำหน้าอ้อนฉันขนาดนี้ ปกติฉันไม่ค่อยได้พาน้องลิต้าไปเที่ยวที่ไหนไกลๆหรอก เพราะว่าตัวฉันเองก็ไม่ค่อยมีเวลาว่าง ต้องดูแลร้านคาเฟ่ "ใช่ค่ะ คุณแม่พาหนูไปนะคะ~""งั้นหนูลองไปขออนุญาตปะป๊าดีไหมคะ" เพราะเดี๋ยวนี้แม้แต่การหยิบจับอะไรฉันก็แทบจะไม่ได้ทำ เขาห้ามให้ฉันทำไปหมดทุกอย่างเพราะเป็นห่วงฉันและกลัวกระทบถึงเจ้าแฝดในท้องด้วย ที่จริงฉันก็แค่ท้องสามารถทำอะไรเองได้บ้างอยู่ แต
"คุณแม่!!! ปะป๊า!!!!" ทันทีที่รถของลูคัสขับมาจอดตรงหน้าบ้านน้องลิต้าก็วิ่งออกมาต้อนรับทั้งสองอย่างอารมณ์ดีทันทีหมับ"ปะป๊าคิดถึงหนูจังเลยลูก" ลูคัสนั่งยองๆพร้อมกับอ้าแขนรอรับแรงกอดของน้องลิต้าที่วิ่งมากอดเขาอย่างเต็มแรง "หนูก็คิดถึงปะป๊าค่ะ แล้วหนูก็คิดถึงคุณแม่ด้วยนะคะ" ลิต้าพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของลูคัสเพื่อไปหาใบข้าวแต่มันก็ไม่เป็นผล"อื้ออออ~ ปะป๊าปล่อยหนู หนูจะไปหาคุณแม่" ใบข้าวอมยิ้มให้กับความขี้แกล้งของลูกค้าที่ชอบแกล้งลูกสาว"ไปค่ะลิต้า เราเข้าไปข้างในบ้านกันเถอะ" ทั้งสามคนเดินจูงมือกันเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นซึ่งมีคุณหญิงดารารัตน์และคนเอเธนส์นั่งรอตั้งแต่แรกแล้ว"มาๆๆๆลูกสะใภ้มานั่งเร็วลูก" คุณหญิงที่เห็นใบข้าวเดินเข้ามาก็รีบตบโซฟาตัวที่ว่างข้างๆตัวเองทันที"ขอบคุณค่ะคุณแม่ เมื่อวานน้องลิต้าดื้อกับคุณแม่คุณพ่อไหมคะ" เพราะว่าเธอไม่เคยฝากน้องลิต้าให้ใครเลี้ยง เลยไม่รู้ว่าน้องลิต้าจะแผลงฤทธิ์เดชใส่ใครหรือเปล่า"ไม่เลยจ้ะหนูข้าว น้องลิต้าเป็นเด็กน่ารัก พูดอะไรแกก็ฟังแล้วก็ทำตามตลอด" คุณหญิงดารารัตน์พูดเพื่อยืนยันให้ลูกสะใภ้สบายใจพร้อมกับคุณเอเธนส์ที่พยักหน้ารับเพื่อเป็นการยืนยัน