ไม่ใช่ยาพิษ ตึก ตึก ตึก เสียงฝีเท้าดังถี่ขึ้น เมื่อฟังจากเสียงที่กระทบกับพื้นปูนข้างตึกก็รู้ว่าเป็นเสียงของรองเท้าผ้าใบของคนที่ตัวไม่ใหญ่มากนัก “จับมันไว้เร็ว!!” เสียงทุ้มดุ ไล่ตามหลังมา พร้อมกับชายวัยรุ่นในชุดช็อปสีแดงเข้มเลือดหมูวิ่งตามมาอีกหลายคน วิ่งมาไม่นานก็สามารถตามถึงตัวคนตัวเล็กได้ทัน “กรี๊ดดดด พวกแกจะมาจับฉันทำไม” เสียงเล็กแหลมร้องกรี๊ดปนหอบ “หยุด! ถ้าไม่หยุด กูจะยิงแม่งตรงนี้เลย” เสียงตวาดกร้าวของชายที่วิ่งตามมาจนทันเข้ากับร่างบางของลิลลี่ จนทำให้ร่างเล็กต้องหยุดชะงักทันทีที่ได้ยิน “ฉันไปทำอะไรให้พวกนาย ถึงได้มาวิ่งไล่ตามฉัน ตั้งแต่เช้าแล้วเนี่ย” ลิลลี่เอ่ยถามเสียงสั่นอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะว่าคนเหล่านี้มาเฝ้าเธอตั้งแต่เช้า ตั้งแต่เธอนั้นเข้ามาที่ร้านคาเฟ่ของเธอข้างมหาลัย และตอนนี้เธอก็เข้ามาในมหาลัย เพราะคิดว่าในมหาลัยคนเยอะ พวกนั้นอาจจะไม่กล้าตามหรือทำอะไรมากไปกว่าตามห่างๆ แต่ที่ไหนได้ พวกนั้นตามติดไม่ลดละจนเธอต้องวิ่งหนีมาทางตึกด้านหลังที่ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านผ่านไปมาเพื่อจะแอบซ่อน หูตาพวกนั้นกลับไวและมีลูกน้องมากเกินไปจนเธอไม่อาจรอดพ้นสายตาไปได้
นายเป็นใครนะ? (ผัวเธอ!) โคเยอร์เปิดประตูด้านคนขับ ลงมาจากรถ สายตาดุกร้าวจ้องเขม็งพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างคาดโทษ เขต...เปิดประตูรถลงมาจากทางด้านข้างคนขับ พร้อมกับมองไปรอบๆ เช่นเดียวกัน “คุณหนูโคย...เดี๋ยวผมจัดการไอ้พวกนั้นเอง คุณหนูพาเธอคนนั้นกลับไปก่อนเถอะครับ ดูเหมือนเธอจะอาการไม่ค่อยดีเท่าไร” เขตหันไปบอกคุณหนูของตัวเองที่เขาเลี้ยงมากับมือตั้งแต่คลอด เพราะเขาคือลูกน้องคนสนิทของพ่อโคเยอร์ ที่สร้างตำนานมาแล้วตั้งแต่รุ่นของพ่อเขา “ฝากทางนี้ด้วยนะอาเขต แค่สั่งสอนก็พอ เดี๋ยวที่เหลือผมมาจัดการเอง ผมไปจัดการเด็กดื้อก่อน” โคยพูดกับพี่เลี้ยงคนสนิทของตัวเอง ก่อนจะเบนสายตาคมไปทางร่างเล็กที่นั่งกอดตัวเองคุดคู้อยู่หน้ารถของเขาที่เดิม “ได้ครับ...เสร็จแล้วให้ผมกลับไปหานายใหญ่เลยไหม? หรือคุณหนูต้องการให้ผมช่วยอะไรอีก” เขตถามคุณหนูที่เขาเลี้ยงมากับมือกลับ “ไม่เป็นไรครับ อาเขตกลับไปหาพ่อเลยก็ได้ แต่...อย่าเพิ่งบอกพ่อเรื่องนี้นะ เดี๋ยวผมเป็นคนบอกเอง” โคยย้ำกำชับกับพี่เลี้ยงของตัวเอง เขายังไม่อยากให้พ่อที่เป็นมาเฟียรับรู้เรื่องวุ่นๆ ของเด็กๆ อย่างพวกเขา เรื่องคู่อริเดี๋ย
ฉันนอนกับคนอื่นไม่ได้ “แม่งเอ้ย!!ทำไมดื้อแบบนี้วะ!” เสียงทุ้มของโคเยอร์สบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อหันไปทางร่างบาง ที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ ตอนนี้ร่างบางแทบจะเปลือยเหลือเพียงชุดชั้นในตัวบางแล้ว จากการที่เธอดึงทึ้งเสื้อผ้าตัวเองจนเกือบหมด เสียงเบรกรถที่ดังสนั่นลั่นโรงจอดรถของตึกที่มีเพ้นท์เฮ้าส์ของโคเยอร์อยู่ ทำให้ยามรักษาความปลอดภัยถึงกับเดินมาดูความเรียบร้อยที่รถของเขา แต่เนื่องด้วยฟิล์มรถของเขาเป็นสีดำ ต้องมองจากด้านในออกไปเท่านั้นถึงจะเห็น คนภายนอกไม่สามารถมองเข้ามาได้ ทำให้ยามที่เดินมายังรถเขาไม่เห็นร่างที่มีเสื้อผ้าน้อยชิ้นของลิลลี่ ก๊อกๆ เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้น โคยหันไปทางกระจกด้านข้างคนขับก็เห็นว่ามียามยืนรออยู่ เขาลดกระจกลงเพียงนิดหน่อย เพื่อไม่ให้ยามมองเข้ามาได้ เพราะไม่อย่างนั้นยามจะเห็นคนตัวเล็กที่แทบจะเปลือยของลิลลี่ได้ “เอ้า! คุณโคเยอร์มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม?” ยามรักษาความปลอดภัยพูดถามขึ้น เมื่อเห็นว่าคนที่ลดกระจกลงเป็นใคร “ไม่มีอะไรหรอก” โคเยอร์รีบปฏิเสธแล้วปิดกระจกขึ้นทันที แล้วหันมาสนใจร่างบางข้้างๆ ต่ออย่างหั
ผัวเธอคืนนั้น...ก็ฉันนี่แหละ!(NC) “ไม่ได้! ฉันนอนกับคนอื่นไม่ได้ เพราะ....” “เพราะอะไร? เธอมีผัวแล้ว” โคเยอร์ถามออกมาตรงๆ ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้กับหญิงสาวร่างนุ่มนิ่มที่นอนบิดเร้าไปมาอยู่บนที่นอน ด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม ก่อนจะใช้มือหนาคว้าหมับเข้าที่ข้อแขนเล็ก ออกแรงดึงร่างนั้นให้ลุกขึ้นมาปะทะเข้ากับอกแกร่งอีกครั้ง “อื้ออออ มะ...มีแล้ว!!” ลิลลี่ตอบออกไปแบบนั้น ทำให้ร่างสูงถึงกับอารมณ์ขุ่นมัวหนักมากขึ้นกว่าเดิม จากที่แค่หงุดหงิด กลายเป็นโกรธขึ้นมาทันที โคเยอร์ออกแรงเหวี่ยงร่างเล็กให้หลังไปกระแทกกับกำแพงห้องนอนอย่างแรง ทำให้ลิลลี่ถึงกับนิ่วหน้าใส่คนตัวโตด้วยความเจ็บ โคเยอร์ที่ยืนเอาท่อนแขนแกร่งทั้งสองข้างของเขาคร่อมเธอไว้ให้เผชิญหน้ากับเขา ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจว่าหญิงสาวจะเจ็บแค่ไหน เขาสนใจแค่ว่าตอนนี้เขาไม่ชอบใจที่ได้ยินว่าเธอมีสามีแล้ว ถ้าเธอบอกว่าแค่มีแฟนเขาก็จะไม่โกรธขนาดนี้เลย ลิลลี่เหงื่อเริ่มออกเต็มตัว เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นที่หน้าผากนวลจนเกือบจะเปียกโชก ลมหายใจหอบแรงมากขึ้น อาการร้อนจากภายในร่างกาย “จะ...เจ็บ นายโกรธอะไรฉันเนี่ย” คนตัวเล็กในวงล้อ
โคยเต็มใจช่วย (NC) “กรี๊ดดดดดดด” แม้เขาจะถูไถกับน้ำหวานเยิ้มเพื่อลดการเสียดสีแล้ว และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของหญิงสาวเหมือนกับในคืนนั้น แต่ความเจ็บก็เกิดขึ้นอยู่ดี ลิลลี่กัดฟัน เม้มปากแน่นจนเป็นเส้นตรง ร่างกายสะท้านสั่น ร่องสวาทเริ่มผลิตน้ำหวานออกมามากขึ้น “ยังแน่นอยู่เลย” โคยพึมพำ เมื่อเขาสอดใส่ท่อนเอ็นแกร่งเข้าไป สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนแรกเขาคิดว่าหญิงสาวตรงหน้าคงไม่เจ็บมากมาย เพราะไม่ใช่ครั้งแรก ก็ครั้งแรกนั้นเขาเป็นคนได้ไปแล้วตั้งแต่คืนนั้น แต่ถึงแม้ว่าจะรู้แบบนั้นด้วยอารมณ์ที่มีอยู่ในตอนนี้ก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดหรือเบาลงเลย เขากดสะโพกเข้าหาร่างเล็กอย่างหนักหน่วง เนิบนาบช้าๆ ในตอนแรกจนร่างเล็กเกร็งไปทุกสัดส่วน เพราะตอนนี้ช่องรักของเธอบีบรัดกายแกร่งของเขาแน่น จนเขาแทบขยับไม่ไหว หากขยับมากเกินไปเขาจะเสร็จเสียตอนนี้แน่ๆ โคยก้มลงประกบปาก ลิ้นอุ่นลากเลียไปตามริมฝีปากสาวที่เม้มปิดสนิท เพื่อให้ปากเล็กเผยอออกรอรับลิ้นของเขา เพื่อลดอาการเกร็งให้เธอผ่อนคลาย ปึก! “กรี๊ดดดดด” เสียงกรีดร้องลั่นดังออกมาอีกครั้ง แต่ดังอยู่ในลำคอเท่านั้น เพราะปากของเธอโดนปากของเขาประกบปิดไว้ ด้ว
โคยตั้ง..........ใจ แสงแดดจ้า สาดส่องเข้ามารอดผ่านหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ กระทบลงบนร่างทั้งสองที่เปลือยเปล่ากอดกันกลม อยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนา มีเพียงเสียงการทำงานของเครื่องปรับอากาศ และเสียงลมหายใจของทั้งคู่ยังคงสม่ำเสมอ อยู่ในห้วงของการหลับสนิท เพราะทั้งคู่เพิ่งได้นอนหลับพักผ่อนไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงมานี่เอง ความร้อนจากแสงแดดที่ตกกระทบมายังร่างทั้งสอง ส่งผลให้ร่างบางใต้ผ้าห่มและในอ้อมกอดของวงแขนแกร่งเริ่มรู้สึกตัวและเริ่มขยับตัวดิ้นขลุกขลัก เพราะความอึดอัดจากอ้อมกอดที่กอดเธอเอาไว้แน่นจนเธอที่ไม่เคยนอนกับใครนอนจากน้องสาวตัวเอง เลยรู้สึกอึดอัดเหมือนกับว่ากำลังมีของหนักๆ มาทับที่ตัว แพขนตาหนาเริ่มกะพริบช้าๆ และเปิดลืมตาขึ้น ดวงตากลมใสที่มีแพขนตาหนากะพริบถี่มากขึ้น เพื่อนให้ดวงตาที่เคยปิดสนิทได้เปิดรับแสงที่ส่องเข้ามากระทบกับสายตาได้ลืมตากว้างมากขึ้น ลิลลี่ลืมตาตื่นขึ้นอย่างเต็มตา แต่ยังไม่ได้ขยับตัวไปไหนหรือลุกหนี ศีรษะเล็กไปทางด้านข้างที่ตอนแรกเธอคิดว่ามันคือสิ่งของหนักๆ กำลังทับตัวเธออยู่ แต่เมื่อหันไปกลับพบว่ามันไม่ใช่สิ่งของ แต่เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “โค
ลี่จ๋าของโคย... “เคยนอนกับใครมาอีก!!!” น้ำเสียงของชายหนุ่มถามทันทีอย่างหงุดหงิด เขารู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่ได้ยินเธอพูดหรือสื่ออะไรก็แล้วแต่ที่มันหมายถึงคนอื่น ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นพี่ เป็นน้อง เป็นผู้ชายหรือจะเป็นผู้หญิงก็ตาม “ฉัน...เอ่อ...” ลิลลี่อ้ำอึ้ง ไม่รู้จะเล่าให้เขาฟังดีหรือเปล่า ในเรื่องคืนนั้น แต่...เธอเองก็ไม่ใช่อายุน้อยๆ แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก “บอกมา! อย่าให้ผมต้องรู้เอง” โคยอารมณ์ไม่ดี คาดคั้นเอาคำตอบ โดยไม่ได้คิดไปถึงว่าคนคนนั้นเป็นตัวเอง “คืนนั้นฉันเมา และก็อาจจะโดนยาแบบเมื่อคืนด้วยมั้ง เพราะอาการมันเหมือนกับเมื่อคืนเลย” ลิลลี่ตัดสินใจเริ่มเล่าให้เขาฟัง “แล้วยังไงต่อ? เธอก็เลยปล่อยตัวเองให้นอนกับผู้ชายคนไหนก็ได้งั้นเหรอ” โคยถามต่อ “เอ๊ะ! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายเอากับใครก็ได้แบบไม่เลือกแบบนั้นนะ แล้วอีกอย่างนะฉันอายุมากกว่านาย เรียกฉันว่า เธอๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว ไม่นับถือฉันเป็นพี่ ก็ให้เกียรติเคารพเกียร์ที่คอฉันด้วย รุ่นพี่คณะเดียวกับนายนะ” ลิลลี่พูดออกมาอย่างยืดยาวด้วยความที่เหลืออด เธอเองก็เริ่มอารมณ์เสียแล้วเหมือนกันที่ชายห
ดูที่คอ...(ที่หมายถึงคอจริงๆ) “ก็ถ้าลี่ไม่เชื่อ...ผมมีหลักฐานที่จะทำให้ลี่เชื่อนะ” “หลักฐาน? หลักฐานอะไร?” ลิลลี่ถามกลับอย่างตะกุกตะกัก เขาจะเอาหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอได้ นอกจาก... “ดูที่คอ...สิ” โคยเอ่ยขึ้นบอกกับลิลลี่ ในขณะที่หญิงสาวกำลังคิดไปถึงหลักฐานที่เขาจะเอามาให้ดู “คอ? เอ่ออออ ให้ดูคอเหรอ” ลิลลี่ที่คิดไปไกล เอ่ยถามย้ำคำพูดของเขา เมื่อได้ยินเขาพูดออกมาแบบนั้น จากที่ตอนแรกคิดอยู่แล้วว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่เขาจะเอามาเป็นหลักฐานได้ก็ต้องเป็นอะไรที่เกี่ยวกับการนอนด้วยกันคืนนั้น และนั่นก็อาจจะเป็น...ค... “คิดไปไหน? ความคิดของลี่ท่าจะทะลึ่งนะนั่น คอที่โคยหมายถึงก็คือ...คอ จริงๆ คอจริงๆ ไม่ใช่อย่างอื่น” โคยรีบบอกกับคนตัวเล็กตรงหน้าทันที เพราะถ้าหากว่าบอกช้ากว่านี้ หญิงสาวต้องคิดไปไกลมากแน่ๆ “คอ? หมายถึงคอลี่เนี่ยเหรอ” ลิลลี่ถาม พร้อมกับใช้นิ้วชี้ไปที่คอของตัวเอง “ใช่...คอนี่แหละ” “อ้อ...ตกใจหมด นึกว่าคอ...นั้น” ลิลลี่เว้นวรรคเอาไว้ จงใจให้เขาเข้าใจว่าเธอหมายถึงคออะไร “พอเลย เลิกคิดไปไกลนะ คอที่หมายถึงคอ โคยไม่ได้หมายถึงคออันนั้น
Special คิลเลอร์และเมแกน 3 ปีต่อมา “เห้ย!! โคเยอร์ทางนี้ๆ” เสียงกลุ่มเพื่อนชายที่โบกมือเรียกโคเยอร์อยู่ที่โต๊ะลายหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ข้างตึกเรียนในคณะของเขา “พวกมึงยังไม่กลับบ้านกันอีกเหรอ ไม่มีเรียนแล้วนี่ กูก็ส่งงานเสร็จละ จบละ” โคเยอร์ถามเพื่อน วันนี้เขามาที่คณะ เพื่อมาส่งงานชิ้นสุดท้ายก่อนจบการศึกษา แต่พวกเพื่อนของเขาต้องเข้าเรียนเก็บชั่วโมงอีก หลังจากที่เขาแต่งงานและพักการเรียนไปได้สองปี เขาก็กลับเข้ามาเรียนใหม่จนจบได้ภายในปีเดียว “เพิ่งออกจากห้องเรียนเมื่อกี้ มารอเจอหลานกูก่อน มาๆ ให้กูอุ้มหน่อย” เพื่อนของเขาคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมกับเดินเข้ามาหาโคเยอร์ ที่ในอ้อมแขนนั้นมีเด็กน้อยรูปร่างจ้ำม่ำ หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก ผิวขาวใส แก้มป่อง ผมสีดำขลับสั้นๆ แต่หยักศกเล็กน้อย ดวงตากลมโตบ้องแบ๊วสร้างความน่าเอ็นดูให้กับผู้ที่พบเห็นไม่น้อย “กูขออุ้มหน่อย” เพื่อนของเขาพูด ก่อนจะยื่นมือออกไปเพื่อจะเอาเด็กน้อยมาอุ้ม “มายุ่งกับลูกกูอีกแล้ว อยากอุ้มทำไมไม่มีเป็นของตัวเองกันวะ” โคเยอร์บ่นให้กับเพื่อน ที่รอจะเจอและอุ้มลูกเขา เมื่อรู้ว่าวันนี้เขาเอาลูกมาด้วย วันนี้ลิลลี่ไม่ว่าง
ลิลธิกาแต่งงานกับกฤตินนท์ นะ! (The End) “โคยมีอะไรจะบอกลี่ไหม?” เสียงของลิลลี่ที่นั่งอยู่ข้างคนขับ เอ่ยถามชายคนรักที่กำลังทอดสายตามองไปด้านหน้าท้องถนน “แต่งงานกับโคยนะลี่” โคเยอร์เอ่ยขอคนรักแต่งงานด้วยน้ำเสียงและใบหน้าจริงจัง พวงมาลัยรถถูกหักเข้าข้างทาง สภาพแวดล้อมโดยรอบที่มีแต่ป่าเขา ไร้ผู้คนและบ้านของผู้คนอยู่อาศัย เครื่องยนต์ของรถถูกดับสนิท โคเยอร์หันใบหน้าหล่อเหลาเข้าหาลิลลี่ที่ตอนนี้ก็หันมองเขาอยู่ด้วยเช่นกัน “โคยมั่นใจแล้วใช่ไหมถึงพูดมันออกมา” ลิลลี่ถามย้ำ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นมั่นใจแค่ไหน ถึงขนาดเอาผู้ใหญ่มาคุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายเธอถึงที่บ้าน “มั่นใจ 100% เลย โคยรักลี่ รักมาก และก็รักลูกด้วย ตอนนี้โคยมั่นใจแล้วด้วยว่าสามารถดูแลลี่กับลูกได้ตลอดไปแล้ว ไม่อดตายแน่ แค่โคยยังเรียนไม่จบ เลยพักการเรียนไว้ก่อน รอลูกคลอดแล้วค่อยกลับไปเรียน” โคเยอร์บอกกับคนรัก พร้อมกับยกมือหนาขึ้นลูบบริเวณหน้าท้องน้อยของคนรัก “มั่นใจแค่ไหนที่จะดูแลลี่ได้ตลอด” เธอถามกลับอีกรอบ “มั่นใจมาก ลี่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้เลยนะ ถึงโคยจะยังเรียนไม่จบ แต่โคยก็มีบ้าน มีรถ มีธุรกิจเป็นขอ
จุดจบคนไม่สำนึก! “ถ้าเธอไม่รู้จักฉัน ลองถามพ่อของเธอดู!” เสียงทุ้มแค่นเสียงเป็นเชิงเย้ยหยันพูดกับน้ำขิงที่นั่งกอดผู้เป็นพ่ออยู่ที่พื้นเบื้องหน้าของทุกคน “ทำร้ายลูกกับหลานฉันอย่างหน้าตาเฉย ทั้งๆ ที่ลูกกับหลานของฉันยังไม่ได้ไปทำอะไรให้แม้แต่นิดเดียว เธอกล้ามากนะ คงยังไม่รู้จักฉันสินะ” บอมพ์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไว้ด้วยความน่ากลัว ทำให้น้ำขิงถึงกับขนลุกซู่ไปทั่วทั้งตัว “แล้วแกเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมารุมฉันกับพ่อแบบนี้” น้ำขิงมองพวกเขาด้วยสายตาแค้นเคือง “แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาทำร้ายลูกกับหลานของฉัน!” บอมพ์สวนกลับทันที อารมณ์โมโหเริ่มเก็บเอาไว้ไม่อยู่ จนลิลลี่สังเกตพ่อของตัวเองได้ “พ่อคะ...ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อของโคยเถอะค่ะ ลี่ไม่ได้เป็นอะไรมาก” ลิลลี่รีบห้ามทัพ เมื่อเห็นว่าพ่อของตัวเองเริ่มโมโห “เดี๋ยวผมจัดการเองครับ” โคเยอร์รีบบอกพ่อของคนรัก แล้วค่อยๆ วางร่างเล็กให้ลงยืนที่พื้นอย่างเบาๆ มือเล็กของลิลลี่คว้าแขนของโคเยอร์เอาไว้ เหมือนเป็นการห้ามเบาๆ แบบไม่ต้องใช้เสียง สายตาคมก้มมองที่แขนของตัวเองก็เข้าใจได้ทันทีว่าคนรักต้องการอะไร “เดี๋ยวป๊าจัดการเอง” ค
ถ้าไม่รู้จักฉัน ลองถามพ่อเธอดู! “อาเขต!” โคเยอร์เอ่ยเรียกคนที่มาห้ามเขาไว้ ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเขานั่นเอง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าเขตนั้นตามเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร เพราะเขามัวแต่สนใจคนที่อยู่ด้านในโกดัง “อย่าวู่วามครับนายน้อย หากบุ่มบ่ามเข้าไป คุณลิลลี่จะเป็นอันตรายได้” เขตบอกกับนายน้อยของตัวเอง “ผมโมโหจนลืม” โคเยอร์บอก เขาโมโหจนอยากจะจัดการคนทีี่มันทำกับลิลลี่เสียจนลืมนึกไปถึงความปลอดภัยของคนรักด้วย เพราะตอนนี้ลิลลี่อยู่ในมือของพวกมัน “หนะ...น้ำขิง!!” เสียงเล็กแหบของลิลลี่เอ่ยเรียกคนที่อยู่ตรงหน้าเธอ เธอเพิ่งฟื้นมาจากอาการสลบ เพราะลูกน้องของน้ำขิงเอาน้ำมาราดที่ตัวเธอจนรู้สึกตัวขึ้นมา “ฟื้นแล้วเหรอ? สำออยจริงนะ อุบัติเหตุแค่นี้ทำเป็นสลบ ทำไมไม่ตายไปเลยนะ!” เสียงน้ำขิงพูดเหน็บปนแช่งกับคนที่ถูกมัดมือมัดเท้า แต่พยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง “เธอ...จับฉันมาทำไม” ลิลลี่ถามคนที่จับเธอมา เธอไม่รู้ถึงสาเหตุที่ตัวเองโดนจับมา และไม่เข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้น้ำขิง เพื่อนของโคเยอร์โกรธเธอขนาดนี้ “ก็...จับมาให้เป็นเมียไอ้พวกนี้ไง 5555” น้ำขิงพูด พร้อมกับหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ เมื่อคิดไป
บุกช่วย...ถล่มโกมินทร์ “กะ...โกดัง หลังโกมินทร์ กะ...กรุป...” เสียงของคีรีพึมพำบอกพี่ชาย ก่อนที่เธอจะสลบไม่ได้สติไปในที่สุด “โกมินทร์...!” โคเยอร์พึมพำชื่อบริษัทที่ได้ยินน้องสาวบอก เขารู้ได้ในทันทีเลยว่าคนที่เป็นตัวการทำเรื่องแบบนี้คือใคร “อาเขต! ฝากยัยคีด้วย” โคเยอร์บอกกับเขต ก่อนจะกลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขตอุ้มร่างคุณหนูที่เขาเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ ด้วยเช่นกัน พาไปที่รถเพื่อส่งตัวไปโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะต่อสายหานายใหญ่ของตัวเองที่ตอนนี้อยู่บ้านของตระกูลอีแวนสัน รายงานเรื่องนี้ให้รู้เรื่องก่อน “นายครับ! เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ รถคุณหนูคีและคุณลิลลี่ถูกเบียดชนต้นไม้ ผมกำลังพาคุณหนูคีไปโรงพยาบาล ส่วนคุณลิลลี่ถูกจับตัวไปครับ” เขตรายงานเจ้านายแบบรัวๆ “เมื่อกี้แกว่ายังไงนะ?! แล้วลูกสะใภ้ฉันถูกจับไปที่ไหน มันเป็นใคร?!!” คิงส์ตะโกนเข้ามาในสายดังลั่น “โกดังหลังโกมินทร์กรุป ครับ” เขตไม่รอช้ารีบรายงานสถานที่ให้เจ้านายฟังทันที “เดี๋ยวกูไป!!” คิงส์บอกกับเขต “คุณไปดูลูกสาวที่โรงพยาบาลเถอะ ส่วนโกมินทร์กรุป เดี๋ยวผมไปจัดการเอง” บอมพ์กัดฟัน
คำบอกเล่า...และการปองร้าย! “พี่โคยเขารักพี่มากเลยนะคะ ที่สุดในชีวิตเลย” คีรีเอ่ยบอกพี่สะใภ้ตัวเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พี่สะใภ้คนนี้คงไม่รู้ว่าตัวเธอนั้นมีอิทธิพลต่อพี่ชายของเธอมากแน่ๆ ถึงได้งอนได้ หากรู้ว่าความจริงที่เธอจะบอกก็คงเข้าใจอะไรในตัวพี่ชายของเธอได้มากขึ้น “ไม่ขนาดนั้นมั้ง” ลิลลี่หันมามองเด็กสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองยังเบื้องหน้า “ขนาดนั้นเลยแหละค่ะ” “แล้วเราน่ะเป็นน้องสาวแท้ๆ ของโคยเหรอ” ลิลลี่เปลี่ยนเรื่อง เธอไม่อยากฟังอะไรจากปากคนอื่น นอกจากเจ้าตัวที่จะหาทางมาอธิบายกับเธอเอง “ใช่ค่ะ คีชื่อเต็มๆ ว่า คีรี เป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่โคย อายุห่างกันประมาณ6-7 ปีเห็นจะได้” คีรีบอก “ถึงว่าพูดเก่งเหมือนโคยเลย” ลิลลี่บอกในขณะขับรถไปเรื่อยๆ “พี่ลี่คะ...พี่โคยไม่ใช่นักศึกษาตัวเปล่านะคะ คีรู้ว่าพี่อยากให้พี่โคยมาบอกเอง แต่คีอยากบอกว่าพี่โคยตั้งใจและรักพี่มากๆ มากจนยอมรับช่วงต่อธุรกิจสายดำของพ่อทั้งหมดเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนแกจะขอรับแค่ธุรกิจขาวกับเทาบางส่วนเท่านั้น แล้วจะปล่อยให้สายดำเจ๊งหรือเงียบหายไปเอง ตระกูลของพี่ก็เป็นมาเฟียใหญ่เหมือนกัน พี่คงเข้าใจและก็มี
สู่ขอ...รวมสองตระกูล สายลมเย็นเบาๆ พัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างกว้างที่มีเพียงผ้าม่านลายลูกไม้สีขาวสะอาดที่ปลิวไสวด้วยลม แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องเข้ามาในห้อง กระทบเข้ากับร่างเล็กที่นอนหลับพริ้มมีความสุขอยู่บนเตียงหนานุ่ม “ตื่นหรือยังลี่ ถ้าตื่นแล้วก็ลงไปอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วลงมาด้านล่าง โคเยอร์มาแล้ว” เสียงอบอุ่นของเฟร์ย่า หญิงวัยกลางคนเดินเข้ามาบอกกับลูกสาวที่นอนหลับพักผ่อน หลังจากกลับมาจากโมทีธได้สัปดาห์กว่าๆ “ใครมานะคะแม่?” ลิลลี่งัวเงียถามผู้เป็นแม่ เมื่อได้ยินไม่ถนัด “โคเยอร์มา” เฟร์ย่าตอบ “ไม่ลง!” ลิลลี่ปฏิเสธทันทีเมื่อรู้ว่าแขกที่มาหาเธอนั้นเป็นใคร โคเยอร์ที่หายหน้าหายตาไปไม่ติดต่อมาเลยสักครั้งอาทิตย์กว่าๆ หลังจากที่กลับจากโมทีธ “ไม่ได้! มีแขกผู้ใหญ่มาด้วย ทำไมถึงจะไม่ลงไป” เฟร์ย่าดุลูกสาวเบาๆ “ก็...จู่ๆ ก็หายไปเลย ไม่ติดต่อมาแม้แต่ครั้งเดียว” ลิลลี่ตอบ พร้อมกับใบหน้าที่งอด้วยความงอน “จะงอนโคเยอร์ก็งอนไป แต่...ต้องลงไปรับแขกผู้ใหญ่ ส่วนเรื่องงอนเดี๋ยวให้โคเยอร์เป็นคนง้อเอง” เฟร์ย่าบอก จนลิลลี่ต้องลุกขึ้นไปจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย และลงไปด้านล่างทั
รักพ่อของโคยน้อย (NC) “เปลี่ยนเป็นการเพิ่มความแข็งแรงให้ลูก ก่อนกลับไทยยังไงล่ะ!” คำพูดและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กรุ้มกริ่มผุดขึ้นที่ใบหน้าหล่อเหลาของโคเยอร์ “หมะ...หมายความว่ายังไงเหรอ” ลิลลี่ถามด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเขาหมายถึงอะไร “ก็หมายความว่าแบบนี้ไง...” “อ๊ะ...อุ๊บ!” เสียงของลิลลี่เล็ดลอดออกมาได้แต่นั้น เมื่อถูกริมฝีปากหนาได้รูปฉกจูบลงมาประกบที่ริมฝีปากบางสีระเรื่อ ลิ้นอุ่นและนุ่มนวลวนเกี่ยวกระหวัดไปรอบโพรงปากเล็ก เพื่อกวาดหาน้ำหวานอย่างชอบใจ ริมฝีปากหนาบดขยี้จูบอย่างดูดดื่ม หมับ! พรึ่บ! ในขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังดูดกลืนน้ำหวาน ตักตวงความหวานจากเธออยู่นั้น โคเยอร์จับแขนเรียวทั้งสองข้าง ก่อนจะค่อยๆ ผลักคนตัวเล็กให้นอนลงบนที่นอนนุ่มอย่างไม่แรงมากนัก “คะ...โคย ตอนนี้เลยเหรอ!” ลิลลี่ถามออกมา เขาจะมาทำเรื่องแบบนี้ที่นี่ ตอนนี้คงไม่สะดวก “อื้อ!!” ริมฝีปากหนาประกบลงบนปากบาง แรงบดขยี้ดุเดือดจากแรงจูบของคนบนร่างที่ตอนนี้คือ ‘พ่อของลูก’ ในท้องของเธอ หัวใจของคนตัวเล็กเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนจะระเบิดออกมาอยู่นอกอกเลยทีเดียว โคเยอร์บดขยี้จูบปากคนต
โคยน้อยกำลังมา... “ดี้จะแต่งงาน หลังจากที่พี่ลี่แต่งงานแล้วเท่านั้นค่ะ” เลดี้พูดสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นอย่างสุดท้ายออกมา “อะไรนะ?!” เสียงของลิลลี่อุทานพูดออกมาอย่างตกใจ เมื่อได้ยินเสียงของน้องสาวพูดออกมาอย่างนั้น “ดี้บอกว่าดี้จะแต่งงานกับเจ้าชาย หลังจากที่พี่ลี่แต่งแล้วเท่านั้น ก็ดี้เป็นน้องคนสุดท้อง ก็แต่งคนสุดท้าย” เลดี้บอก “แล้วพี่ของเจ้าจะแต่งเมื่อไร ถ้าหากว่าช้า ข้าคงไม่ทน” เจ้าชายฟาฮัซพูดขึ้น “ฉัน...ยังไม่มีความคิดที่จะแต่งเลยนะ” ลิลลี่บอกเป็นเชิงปฏิเสธไปในตัว ก่อนจะปรายตามองไปโคเยอร์เพื่อดูท่าทางท่าทีของเขา “เราสองคนจะแต่งงานกันหลังจากกลับประเทศไทยทันที เดี๋ยวผมจะให้ผู้ใหญ่มาคุยและหาฤกษ์เลยครับ” โคเยอร์พูดออกมาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดีอกดีใจ “แต่โคยยังเรียนอยู่เลยนะ แล้วอีกอย่างพ่อกับแม่ก็ยังไม่ได้ตอบตกลงเลยด้วยซ้ำ” ลิลลี่รีบบอกอย่างละล่ำละลัก “ลี่หมายถึงพ่อของลี่น่ะเหรอ โคยคุยเรียบร้อยแล้ว” โคเยอร์พูดพร้อมกับชี้ไปที่มุมปากที่มีเลือดแห้งติดอยู่ “แต่ลี่ยังไม่อยากแต่ง ยังมีหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำเลย อุก...อ้วก!!!” ในขณะที่ลิลลี่กำลังปฏิเสธและคัดค้านการแ