พาขวัญรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในเวลาสาย ที่จริงวันนี้เธอไม่ต้องรีบตื่นไปไหน เพราะพิมพ์มาดาอนุญาตให้ดื่มกินกันได้เต็มที่และพักผ่อนกันให้สบาย เพราะเข้าใจว่าอีกวันหลังจากปาร์ตี้ ก็ต้องมีอาการเมาค้างเสมอ เพราะลูกๆ ทั้งสามของเธอก็เป็นแบบนี้ตลอด ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นแล้วกะพริบถี่เรียกสติตัวเอง สิ่งที่เธอนอนหนุนต่างหมอนมาทั้งคืนมันคือร่างกายของผู้ชาย ผู้ชายตัวโตที่มีมัดกล้ามเนื้อแน่นไปหมดภายใต้เสื้อยืดสีขาว ในตอนนี้ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองว่าเจ้าของหน้าอกหนั่นแน่นนี้เป็นใคร ได้แต่พยายามคิดทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อนที่ภาพของเธอจะตัดไป ต้องยอมรับว่าเมื่อคืนเธอเมามากจริงๆ ตอนแรกก็รู้สึกตัวว่าตัวเองเมาอยู่แล้ว แต่พอส่งเพื่อนกลับบ้านครบทุกคน พอจะหมุนตัวเดินกลับขึ้นห้อง มันกลับยิ่งรู้สึกเมาขึ้นกว่าเดิมจนทรงตัวไม่อยู่ โชคดีที่ปฐวียืนอยู่ใกล้กัน เขาเลยพุ่งตัวมาคว้าตัวและกอดเธอเอาไว้แนบอกของเขา ปฐวี อย่างนั้นหรือที่เป็นเจ้าของอกแกร่งที่นอนกกกอดเธอมาทั้งคืนและในตอนนี้ก็ยังกอดอยู่ เธอค่อยๆ ก้มลงมองที่ร่างกายของตัวเองก็พบว่าเสื้อผ้า
บนโต๊ะอาหารมื้อเที่ยง หนุ่มสาวที่อยู่ในอาการเมาค้างก็ลงมาร่วมโต๊ะกันครบทุกคน แต่ละคนอยู่ในอาการมึนๆ และก้มหน้าก้มตาทานอาหารไม่มีการพูดคุยสนุกสนานกันเหมือนก่อนจนพิมพ์มาดารู้สึกผิดปกติ “เด็กๆ เมาค้างหรอลูก ทำไมดูซึมๆ กัน” “เอ่อ ค่ะป้าพิมพ์” เป็นพาขวัญที่เอ่ยตอบป้าของตัวเองแทนเพื่อนทั้งสอง ที่วันนี้ก็ดูเงียบๆ ไปผิดปกติเช่นกัน ส่วนเธอนั้นแทบไม่กล้ามองหน้าเขาเลย “ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวทานข้าวเสร็จก็กลับขึ้นไปนอนกันต่อเถอะ เย็นๆ ค่อยกลับบ้าน ขับรถกันตอนนี้มันอันตราย วีต้องไปส่งจุ๋มด้วยนี่” “ไม่เป็นไรครับคุณป้า ผมไหว พอดีมีธุระที่บ้านช่วงบ่ายด้วยครับ ส่วนจุ๋มก็เห็นว่าต้องกลับไปเฝ้าบ้านเพราะพ่อแม่บินไปเยี่ยมญาติที่ต่างประเทศ” “ถ้าวีมีธุระ ให้คนของป้าไปส่งจุ๋มให้ก็ได้นะจ๊ะ จะได้ไม่ต้องวกไปวกมา” “ไม่เป็นไรครับ พอดีต้องไปเอาของที่ลืมไว้ที่บ้านจุ๋มด้วย ของสำคัญเสียด้วยสิครับ” “จ้ะ งั้นก็ขับรถกันดีๆ นะลูก” “ครับ” “เอ่อ คุณป้าคะ พอดีจุ๋มประจำเดือนมาไม่
ปฐวีหายเมาเป็นปลิดทิ้ง ร่องรักที่โคตรแน่นและตอดรัดเขาระรัวทำให้เขาเจ็บจนต้องกัดฟันข่มความรู้สึก “เอาออกไปนะวี ฉันเจ็บ ไม่เอาแล้ว” “ซี้ดดด ได้ไงจุ๋ม เธอจะฆ่าฉันหรอ อืมมม ผ่อนคลายหน่อย เธอรัดฉันแน่นมาก ฉันก็เจ็บ ซี้ดดด โอ๊ย จุ๋ม อย่าตอด” เขาก้มลงประกบปากบดจูบเธออย่างเร่าร้อนอีกครั้ง มือใหญ่ที่ว่างบีบขยำหน้าอก แล้วลากเลยมาบดบี้ติ่งเกสรสาวจนเธอผ่อนคลายและปล่อยหยาดน้ำหวานออกมาเคลือบคลอท่อนเอ็นเขามากขึ้น เมื่อเขาถอนจูบออกมาแล้วก็ยกตัวขึ้นมองหน้าสบตากับเธอ สะโพกสอบบดหมุนวนเนิบนาบ มองหน้าเธอที่ขมวดคิ้วน้อยๆ ด้วยความเสียวซ่านนั้น โคตรได้อารมณ์จนอยากจะแตกใส่เธอเสียตอนนี้ แต่ยังก่อน ครั้งแรกของเธอกับเขา มันต้องน่าจดจำกว่านี้ “ซี้ดดด โคตรดี ดีไหม จุ๋ม” “อื้อ ดี” เขาค่อยๆ ชักสาวตัวตนออกมาแล้วกดแทรกเข้าไปใหม่ เบาๆ ช้าๆ แล้วเพิ่มจังหวะกระแทกกระทั้นให้รัวแรงขึ้น จนสาวน้อยผู้ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนกรีดร้องดังลั่นด้วยความเสียวซ่าน “อ๊ายย วี อื้อ” “อื้อ อื้อ จุ๋ม มันไหม ฉันเอาเธอมันไหม”
หลังจากที่ส่งพิมพ์มาดาขึ้นเครื่องบินที่สนามบินเสร็จเรียบร้อย พิรัชย์ก็พาพาขวัญมาแวะห้างสรรพสินค้าชื่อดังเพื่อพาเธอมาหาอาหารเย็นทานเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ “เธออยากทานอะไร” “อะไรก็ได้ค่ะ พั้นช์ทานได้หมดทุกอย่าง” “อารหารญี่ปุ่นร้านนั้นแล้วกันนะ” “ค่ะ” เขาจับมือเธอแล้วพาเดินเข้าร้านอาหารไป คนตัวเล็กที่เดินตามหลัง มองแผ่นหลังกว้างแล้วก้มมองมือทั้งเธอและเขาที่จับกันไว้แน่น ก็รู้สึกแปลกๆ ในหัวใจ เพราะมันอุ่นวาบไปทั้งดวง พนักงานพาทั้งคู่มายังที่นั่งที่ว่างอยู่ ก่อนที่เขาจะชะงักหยุดอยู่กับที่แล้วมองไปยังโต๊ะที่อยู่ด้านข้าง ทำให้เธอต้องเงยขึ้นไปมองยังทิศทางนั้น จึงได้รู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เขาเป็นแบบนั้น ก็โต๊ะด้านข้างมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังใช้ตะเกียบคีบปลาดิบให้กันถึงปาก แถมยังหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างหวานหยด ถ้าจะเป็นคนอื่นเขาคงไม่รู้สึกอะไรแบบนี้ แต่นี่ผู้หญิงสาวสวยคนนั้นดันเป็นคนรักเก่าของเขาที่ใช้เวลาอยู่ร่วมกันมาถึงสองปีกว่าๆ ในต่างแดน หนุ่มสาวคู่นั้นเงยหน้ามามองที่เขา
“จะนัดติวหนังสือกับเพื่อนอีกทีเมื่อไหร่ ใกล้สอบแล้วนะ” เขาเอ่ยถามเมื่อเดินขึ้นมาส่งเธอที่หน้าประตูห้องนอน แต่ยังอ้อยอิ่งไม่ยอมไปไหน จึงหาเรื่องมาคุยกับเธออีกหน่อย “อาทิตย์หน้าค่ะ ตอนนี้ทุกคนกำลังอ่านทบทวนของตัวเองก่อนค่ะ” “แล้วเธออ่านถึงไหนแล้วล่ะ” “อ่านทุกวิชาจบไปรอบนึงแล้วค่ะ คืนนี้จะเริ่มอ่านรอบที่สอง” “อย่ามัวแต่วิดีโอคอลคุยกับเพื่อนล่ะ ตั้งใจอ่านหนังสือ แล้วก็อย่านอนดึกมาก” เพราะบ่อยครั้งที่เขาจะเห็นเธอวิดีโอคอลคุยกับเพื่อนรักอย่างจริญญา หรือแม้แต่ปฐวีเองก็ตาม จึงต้องเอ่ยดักทางกันไว้ก่อน เพราะกลัวว่าจะสนใจแต่เรื่องคุยเล่นตามประสาวัยรุ่น จนลืมเรื่องการเรียน “ค่ะ พั้นช์จะรีบอ่าน รีบนอน ไม่มัวโอ้เอ้ค่ะ” “อืม ฉันไปล่ะ” เธอปิดประตูห้องนอน ล็อกกลอนจนเรียบร้อยตามที่เขาเคยสั่งเอาไว้ เพราะเขากลัวใจตัวเองว่าจะบุกมาหาเธอกลางดึก ร่างบางวิ่งไปทิ้งกายลงบนเตียงนุ่ม ยกแขนที่มีสร้อยข้อมือเส้นสวยส่องประกายระยิบระยับล้อแสงไฟขึ้นมาดูแล้วยิ้มกว้าง ก่อนเอาข้อมือข้
รถตู้ครอบครัวคันหรูจอดเทียบหน้าทางเข้าตึกคณะของเธอ เธอจึงผละออกจากร่างของเขา ดึงกระโปรงลงแล้วเตรียมเปิดประตูลงรถ แต่เขากลับดึงแขนของเธอเอาไว้เสียก่อน เธอจึงต้องหันกลับมาหาเขาอีกครั้ง “มีอะไรคะ” เขากดจมูกโด่งลงที่แก้มนวลแล้วสูดกลิ่นหอมๆของแก้มสาวจนสุดปอด “ตั้งใจเรียนนะ แล้วก็..” เขาก้มลงกระซิบเบาๆที่หูของเธอให้ได้ยินกันแค่สองคน “น้ำเธอเยิ้มเต็มกางเกงในเลย รีบเข้าห้องน้ำไปเช็ดซะ อดใจหน่อยนะ ตอนเย็นฉันจะรีบมารับ” แก้มสาวแดงปลั่งไปถึงใบหูด้วยความอาย คนบ้าอะไรเมื่อก่อนก็ถนัดทำให้เธอกลัวจนไม่กล้ามองหน้า มาเดี๋ยวนี้ก็ถนัดทำให้เธออาย จนแทบไม่อยากจะมองหน้าเขาอีกแล้ว เธอเดินก้มหน้างุดเข้าตึกคณะไป และที่แรกที่เธอไปเยือนคือห้องน้ำตามที่เขาบอก ทันทีที่ถอดกางเกงชั้นในออกมา ก็พบว้าเป้ากางเกงเปียกแฉะเป็นวงกว้าง เธอจึงรีบเอาทิชชูซับความเปียกตรงนั้นไว้ แล้วจึงใช้ทิชชูเช็ดตรงกลีบดอกไม้ของเธอ ที่ตอนนี้มันยังเต้นตุบๆ อยู่เลย เมื่อปาดทิชชูออกมาก็พบว่ามีน้ำเหนียวๆ เปียกเยิ้มเต็มไปหมด
“ขอบคุณนะ พายุ” จริญญาเอ่ยขอบคุณพายุเมื่อเขาขับรถมาส่งเธอถึงหน้าบ้าน หลังจากที่พาเธอไปดูหนังและทานอาหารอร่อยๆ ก่อนกลับบ้าน เธอเปิดประตูเตรียมลงจากรถ แต่จู่ๆเขาก็ขยับตัวมาหอมแก้มเธอแรงๆหนึ่งครั้ง “อุ๊ย พายุ” “ฝันดีนะครับ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วผมไลน์หานะ” “ค่ะ ฝันดีค่ะ” เธอก้าวลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้านที่มืดสนิท รีบเปิดไฟให้สว่างจนรอบบ้านและสวน แล้วเดินกลับไปที่ประตูรั้วหน้าบ้านเพื่อจะปิดและล็อกประตูนั้น แต่ก็ต้องตกใจรีบถอยหลังออกจากประตูเมื่อมีรถยนต์คันหรูที่เธอคุ้นเคยแล่นเข้ามาจอดที่โรงจอดรถของเธอ เขาก้าวเดินมาหาเธอด้วยความรวดเร็ว ดึงแม่กุญแจจากมือของเธอแล้วล็อกประตูรั้วหน้าบ้านให้อย่างรวดเร็ว “ทำอะไรอ่ะวี นายมาทำไมอีก แล้วล็อกประตูบ้านฉันทำไม” “อ้าว ก็เราจะขึ้นบ้านนอนกันแล้ว ก็ต้องล็อกประตูสิ หรือเธอจะเปิดไว้รับโจร” คนหล่อหันมามองหน้าเธอแล้วเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างกวนอารมณ์ จนเธอแทบอยากจะเอาเล็บที่ทาสีสวยๆ ของเธอ ตะกายใบหน้าหล่อๆ นั่นให้เล
“อ๊า อ๊า ไอบ้าวี พอได้แล้ว อื้ออออ” “อื้มม จะไปเอากับมันไหม จะนอนให้ใครเอานอกจากฉันไหม จุ๋ม อื้มม” “มะ ไม่ ไม่แล้ว อื้อ วี ฉันจะเสร็จ อ๊า อ๊ายยย” ปฐวีกระดกสะโพกเด้งเอวกระแทกกระทั้นร่องรักที่เริ่มบวมช้ำของเธอแรงๆหลายครั้ง แล้วกดกระแทกสุดแรงจนมิดโคน แตกกระจายน้ำรักร้อนๆในช่องทางบอบบางของเธอจนอุ่นวาบ ในขณะที่เธอก็เกร็งกระตุกแรงๆ กรีดร้องเสียงดังลั่นอย่างลืมอาย “อ๊ายย อ๊ายยยยย วี อ๊ายยยยยยยยย” “อ่าห์ อ่าห์ โอวววว จุ๋ม โอววววววว” เขาทิ้งกายลงทาบทับเธอทั้งตัวอย่างหมดเรี่ยวแรง ในตอนนี้เป็นเวลาสายแล้ว เลยเวลาเข้าเรียนในคาบเช้าของคนทั้งคู่ เพราะเขารังแกเธอทั้งคืนจนถึงเช้า ปล่อยให้เธอได้นอนพักเพียงครู่ก็ปลุกเธอมากระแทกแรงๆ เป็นอย่างนี้จนเวลาล่วงเลยไปจนสาย ปฐวีทิ้งตัวลงนอนเคียงข้างแล้วเอื้อมคว้าร่างบางที่อ่อนระทวยหมดเรี่ยวหมดแรงเข้าสู่อ้อมกอด พาขวัญกดโทรศัพท์หาเพื่อนรักทั้งสองจนมือแทบหัก แต่ก็ไม่มีใครรับสายเธอเลย ทั้งปฐวี และจริญญา เธอรอสายอยู่จนมันตัดไปเองนับสิบครั้ง สุดท้ายก็เดินเข้า
เขาจับเธอให้ลุกขึ้นจากกายเขา แล้วจูงมือพาคนตัวน้อยลงไปเล่นน้ำกันในสระโดยที่ไม่ยอมให้เธอใส่ชุดว่ายน้ำสีหวานนั่นอีกสักชิ้น หนุ่มสาวหยอกล้อกันอยู่ในน้ำอีกไม่นาน คนตัวโตที่หื่นกระหายก็แผลงฤทธิ์ใส่เมียสาวอีกครั้ง “พี่พีท” “เรียกพี่ทำไมครับ” “ก็พี่ เอ่อ มัน..” เธอรู้สึกถึงสิ่งที่ดุนดันอยู่ที่หน้าท้องของเธอ ก็ให้หวั่นใจ สามีที่มีความต้องการที่มากล้น กำลังจะจับเธอกินอีกแล้วแน่ๆ “มันต้องการพั้นช์อีกแล้ว ขอกินอีกรอบนะครับ แล้วจะให้ไปนอนกลางวัน” “อือออ พี่พีทเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนเยอะแยะคะ” เขากอดกระชับคนตัวบางแล้วดันเธอไปจนถึงริมขอบสระอย่างที่เขาเคยทำเมื่อนานมาแล้ว แต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยความสมยอมและยินดีของเธอ “อยู่กับพั้นช์ พี่หิวตลอดเวลาเลย ยิ่งพั้นช์ท้อง พี่ยิ่งหิว ไม่รู้เป็นอะไร ตัวพั้นช์มันหอมกว่าปกติ” เขาช้อนอุ้มที่สะโพกเธอขึ้นมา ก่อนจดจ่อตัวตนที่แข็งเขม็งที่ปากทางรักของเธอ คนตัวบางกอดรัดรอบคอเขาแน่น แล้วกดร่องรักฉ่ำน้ำของเธอให้ครอบครองตัวตนใหญ่โตของเ
สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันตื่นขึ้นมาในช่วงสายของวันต่อมา เมื่อคืนเข้าหอ เขาปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนหลายชั่วโมง ก่อนปลุกเธอมาทานข้าวเย็นแล้วอาบน้ำเตรียมตัวนอน ซึ่งเขาก็จับเธอกินด้วยความหิวกระหายอีกแค่สองครั้งเท่านั้น เพราะภรรยาป้ายแดงที่พ่วงด้วยตำแหน่งว่าที่คุณแม่ยังสาวค่อนข้างอ่อนเพลียจนเห็นได้ชัด เขาจึงเอาแต่ใจกับเธอไม่ลง จึงปล่อยให้เธอนอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ สายวันนี้ทั้งเธอและเขาจึงสดชื่น ไม่ได้หลงเหลืออาการอ่อนเพลียแต่อย่างใด “พั้นช์ อาบน้ำแล้วออกไปหาข้าวทานกันนะครับ ป่านนี้ลูกเราหิวแย่แล้ว” “ค่ะ” เขาอุ้มเธอเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพากันออกไปหาร้านอาหารอร่อยๆ ทานกัน แต่โลกก็ดันกลมเหลือเกินเมื่อเขาและเธอบังเอิญเจอกับคู่สามีภรรยาที่เคยมีประเด็นกับพวกเขาทั้งคู่ “เอ่อ สวัสดีครับ คุณพีท คุณพั้นช์” มานเมตต์และภรรยา เดินตรงเข้ามาทักทายพิรัชย์และพาขวัญถึงที่โต๊ะอาหาร ตั้งแต่ที่พ่อเขาถูกตำรวจวิสามัญไปเมื่อเดือนก่อน หลังจากงานศพของพ่อเขาที่คนทั้งคู่อุตส่าห์มาร่วมงานเพื่ออโหสิกรรมใ
ไหนว่าตามใจเธอไง งานแต่งงานในโบสถ์ง่ายๆ ของเขา คือการเชิญแขกมาร่วมงานจนเต็มโบสถ์ขนาดใหญ่ที่บรรจุคนได้นับพัน ไหนจะตกแต่งสถานที่ด้วยดอกกุหลาบนำเข้าสีขาวและดอกลิลลี่แห่งหุบเขา หรือ Lily of the Valley สีขาวน่ารักเต็มโบสถ์ไปหมด ทั้งยังจัดสถานที่สำหรับถ่ายรูปที่สวนข้างโบสถ์เสียหรูหรา ประดับประดาด้วยดอกไม้เมืองนอกสีขาวนานาพันธุ์ ดั่งสวนในฝันของเจ้าหญิงก็ไม่ปาน บ่าวสาวที่งดงามราวเจ้าชายเจ้าหญิง กำลังกล่าวคำปฏิญาณและสวมแหวนแต่งงานให้แก่กัน ก่อนจะมอบจุมพิตที่หวานล้ำต่อหน้าสักขีพยานนับพัน แล้วพากันมาโยนช่อดอกลิลลี่แห่งหุบเขา ให้กับสาวๆที่มายืนรอกันอยู่ที่บันไดหน้าโบสถ์ โดยสาวผู้โชคดีที่รับช่อดอกไม้นั้นได้ก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นจริญญา เพื่อนรักของเจ้าสาวนั่นเอง บ่าวสาวจับจูงมือกันไปขึ้นรถสปอร์ตเปิดประทุนคันหรู แล้วพากันขับออกไป ท่ามกลางเสียงปรบมือและโห่ร้องยินดีของสักขีพยานทั้งหลาย เจ้าสาวคนสวยเอนศีรษะพิงบ่าบึกบึนของเจ้าบ่าวสุดหล่อเอาไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นมองสบตากับเขา แล้วก็เป็นเขาที่อดใจไม่ไหว ก้มหน้าลงมาจุ๊บปากของเธอเบาๆ หนึ่งครั้ง เพราะวันนี้
พาขวัญหลับไปหนึ่งคืนเต็มๆ เธอรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีในช่วงเช้าของอีกวัน สิ่งแรกที่เธอเห็นนอกจากเพดานสีขาวของโรงยาบาลคือคนตัวโตที่ฟุบหน้านอนหลับอยู่ที่ข้างเตียงของเธอ มือใหญ่จับมือของเธอแน่นจนรู้สึกอุ่นวาบไปทั้งหัวใจ “พี่พีท” พิรัยช์สะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงหวานที่แสนคุ้นเคย แม้มันจะแหบพร่ากว่าเดิมก็ตามที “ที่รัก ตื่นแล้วหรอครับ ขอบคุณพระเจ้า” ร่างใหญ่ลุกขึ้นโอบกระชับร่างบางขึ้นมากอดแนบอก เขาลูบหลังลูบไหล่เพื่อเรียกขวัญให้คนตัวน้อยที่อาจจะยังไม่หายตกใจดี ซึ่งเธอก็กอดเขาตอบเสียแน่นเหมือนกัน “พี่พีท พี่ปลอดภัยดีใช่ไหมคะ มันไม่ได้ทำอะไรพี่ใช่ไหม” “ครับ เราสามคนปลอดภัยดี” คนตัวเล็กขยับตัวออกจากอ้อมอกอันอบอุ่น มองเขาตาแป๋วด้วยไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ในเมื่อเธอกับเขาเสี่ยงอันตรายกันอยู่ในโกดังนั้นแค่สองคน หรือเธออาจจะฟังผิดไป จึงเอ่ยทวนคำของเขาอีกครั้ง “เราสามคน หรือคะ” “ครับ เราสามคน พี่ พั้นช์ และอีกคนในนี้” มือใหญ่อบอุ่น ลูบหน้าท
พิรัชย์เหยียบคันเร่งแทบมิดเพื่ออยากไปถึงที่หมายให้เร็วที่สุด ทีมบอดี้การ์ดขับตามมาติดๆ แต่เมื่อใกล้ถึงที่หมายก็ต้องขับตามเจ้านายให้ห่างเข้าไว้ เพื่อความปลอดภัยของพาขวัญ พิรัชย์ถึงที่หมายในไม่นาน ตรงหน้าเขาคือโกดังร้างกลางป่า ที่มีคนของนิมมานต์ยืนเฝ้ายามอยู่รอบบริเวณ พวกมันตรงเข้าค้นตัวของเขาแล้วปลดอาวุธที่เขาพกมาทั้งหมด แล้วพาเขาเข้าไปในโกดังนั้นทันที “พั้นช์” เขารีบวิ่งไปหาคนรักสาวที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กลางโกดังที่ทั้งมืดและเหม็นอับนั้น ดีหน่อยที่มันไม่ได้มัดเธอเอาไว้ เพราะคิดว่าสาวน้อยตัวบางอย่างเธอไม่มีพิษมีภัยอะไร “พี่พีท” สาวน้อยโผเข้ากอดเขาแน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอกลัวจริงๆ ไม่ใช่กลัวแค่พวกมันจะทำอะไรเธอ แต่เธอกลัวพวกมันจะล่อเขามาฆ่า เหมือนตอนนี้ที่เขาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าคนชั่วอย่างไอ้นิมมานต์มันจะทำอะไรกับเขาบ้าง “พี่พีทมาทำไมคะ มันจะฆ่าพี่นะ” “พี่รู้ แต่จะให้พี่ทิ้งพั้นช์ไว้ได้ไง ถ้าพั้นช์เป็นอะไรไป พี่จะอยู่ได้ยังไง” “แล้วถ้าพี่พีทเป็น
หลังจากวันนั้น คลื่นลมก็สงบมาโดยตลอด นิมมานต์ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร และคนของเขาก็พยายามหาหลักฐานมาจนได้นั่นคือคลิปเสียงที่ไอ้คนที่รับจ้างมาฆ่าเขาแอบอัดไว้ทุกครั้งที่มีการนัดเจอกันและพูดคุยรายละเอียดงานทุกอย่าง มีเสียงของมันและนิมมานต์ชัดเจน มันคงรู้ตัวว่ามันคงอาจถูกเก็บได้ทุกเมื่อ จึงรวบรวมหลักฐานเอาผิดนิมมานต์เอาไว้ แล้วฝากเอาไว้ที่เมียของมันเอง โชคดีที่ไอ้นิมมานต์มันพอมีความเป็นคนอยู่บ้าง จึงไม่ได้ตามฆ่าลูกเมียของไอ้สองตัวนั้น จริงๆก็ไม่รู้ว่ามีความเป็นคนหรือประมาท คิดไม่ถึงกันแน่ว่าคนที่มันใช้งานมาหลายครั้ง จะกล้าหักหลังมันแบบนี้ และเขาก็พอมีคนรู้จักที่เป็นตำรวจน้ำดีอยู่บ้าง จึงทำสำเนาหลักฐานเหล่านั้นส่งให้ตำรวจไปชุดหนึ่งเอาไว้เป็นหลักฐานเอาผิดมัน ผ่านมาแล้วหนึ่งเดือนเต็มๆ จนลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนิมมานต์แต่งงานกับลูกสาวรัฐมนตรีชื่อดัง หลังจากนั้นมันก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เพราะมันเองก็สืบรู้มาว่าทางเขาได้หลักฐานมาจากเมียไอ้สองตัวนั้นแล้ว ดีที่เขาส่งลูกเมียของไอ้สองตัวนั้นไปอยู่ในที่ปลอดภัยเสียก่อน ไม่อย่างนั้นคงได้มีคนตายตามกันไปอีกหลายศพ
พิรัชย์นั่งฟังรายงานความคืบหน้าของเรื่องที่มีคนจงใจพยายามฆ่าเขาแล้วทำให้เป็นอุบัติเหตุเมื่อวันก่อนด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ตอนนี้คนของเขาจับคนร้ายได้แล้วที่ชายแดน มันสารภาพจนหมดเปลือก แต่ในขณะที่กำลังจะพามันทั้งสองคนไปส่งตำรวจ คนของเขาก็โดนถล่มยิง ทั้งเจ็บทั้งตายไปหลายคน ส่วนคนร้ายที่พยายามฆ่าเขาเสียชีวิตทั้งคู่ “ไอ้นิมมานต์ มันกล้าขนาดนี้เลยหรอ” กรามแกร่งขบกันจนขึ้นสันนูน มือใหญ่ทั้งสองกำแน่นเพื่อระงับอารมณ์โกรธ เขาพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตามไปถล่มคนพวกนั้นให้ตายตกตามลูกน้องของเขาไปเสียก่อน “ตอนนี้เราไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดมันได้เลยครับ ไอ้สารเลวสองตัวนั่นก็ตายไปแล้ว ไม่มีโทรศัพท์ติดตัว ไม่มีหลักฐานอะไรบ่งบอกว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับไอ้นิมมานต์เลย เพราะมันสองตัวบอกว่าไอ้นิมมานต์มันจ่ายเป็นเงินสด ไม่มีการโอนผ่านบัญชี ส่วนการเรียกใช้งานก็ให้คนไปตามที่บ้าน นัดพบกันตามที่รกร้างไร้กล้องวงจรปิด” ยิ่งลูกน้องรายงานข้อเท็จจริงเท่าไหร่ เจ้านายหนุ่มยิ่งเครียดขึ้งเท่านั้น หนทางที่จะเอาผิดมันทางกฎหมาย ปิดตายลงทุกที และหนทางที่จะให้
“พีทคะ” ร่างใหญ่ที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมาต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่ออยู่ๆ คนรักเก่าในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวไม่ต่างจากเขาวิ่งถลาเข้ามากอดรัดเขาเอาไว้ เขาตื่นมาในห้องของพาขวัญในเวลาค่อนข้างสาย จึงรีบแยกย้ายกันมาอาบน้ำห้องใครห้องมันเพื่อที่จะได้รีบลงไปทานอาหารเช้าให้ทันเวลาเพราะกลัวว่าแม่จะบ่น “ชัญญ่า คุณเข้ามาทำไม” เขาไม่ถามว่าเธอเข้ามาได้ยังไง เพราะรู้ดีว่าเธอคงไปเอากุญแจสำรองจากในตู้นั่นมาแน่นอน เพราะเมื่อคืนเธอก็แอบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องแต่งตัวของพาขวัญ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เธอต้องเห็นฉากรักของเขากับพาขวัญแน่นอน “ชัญญ่าเข้ามาหาคุณสิคะ เมื่อก่อนตอนเช้าๆ พีทจะต้องทำอะไรชัญญ่าก่อนจะอาบน้ำแทบทุกวัน ชัญญ่าเลยเข้ามาปรนนิบัติพีทเหมือนที่เคยทำ” เธอยังคงกอดเขาแน่นๆ มือร้อนๆ ก็ลูบไล้ไปทั่วหน้าอกหนั่นแน่น จนปลายยอดอกของเขามันตั้งชันแข็งขึงไปหมด “ผมอิ่มแล้ว ผมมีคนให้ทำด้วยแล้ว เมื่อคืนคุณก็เห็นนี่” ชัญญาภัคชะงักค้างไป ด้วยไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงอะไร หรือเขาจะรู้ต
“พีท พีทคะ” ชัญญาภัคเคาะประตูห้องอดีตคนรักอยู่นาน ร้องเรียกเขาอยู่หลายครั้งก็ไม่มีคนมาเปิดประตูให้ เลยลองบิดลูกบิดประตูดูก็พบว่ามันไม่ได้ล็อก จึงยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ แล้วเดินเข้าไปในห้องที่มืดสนิท มีเพียงแสงจากไฟภายนอกส่องเข้ามาเล็กน้อยเท่านั้น เธอเดินมาหยุดที่เตียงกว้างก็ต้องแปลกใจ บนเตียงนั้นไม่มีเขานอนอยู่ จึงเปิดไฟแล้วเดินหาเขาจนทั่วห้องก็ไม่มี “อย่าบอกนะว่าไปนอนกับนังพั้นช์” เธอรีบเดินตรงดิ่งไปที่ชั้นล่าง เพื่อเปิดตู้ที่เก็บกุญแจสำรอง เพราะเขาเคยบอกเธอว่ากุญแจสำรองของทุกห้องเก็บเอาไว้ที่ไหน ก่อนจะเอากุญแจดอกน้อยที่มีชื่อติดว่าพั้นช์และพีทออกมา เผื่อวันหลังเธอจะได้แอบเข้าห้องเขา เสียงที่ดังแว่วๆ ออกมาจากห้องที่อยู่ด้านในสุดฝั่งตะวันตก ทำให้คนที่ยืนอยู่หน้าประตูกำมือแน่นจนตัวสั่นเทาไปหมด เสียงที่เล็ดลอดออกมาเบาแสนเบาแทบฟังไม่เป็นภาษานั้น เธอรู้ดีว่ามันเป็นเสียงอะไร และเสียงของใคร เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าคำรามลั่นดังขึ้นมาในครั้งสุดท้าย พร้อมๆกับเสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะ