ฉันหันกลับไปมองตามเสียง และมองไคล์ด้วยสายตาที่ฉันเอง..ก็ไม่เข้าใจ จะยังเอายังไงล่ะ!? เรากลับมาอยู่สภาพเดิมอีกแล้ว สภาพที่ไม่ลงลอยและแข็งกระด้างใส่กัน!ทำไมเขาต้องทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉัน และหักหน้าฉันกับพ่อกลางงาน ทั้งที่ตัวเองก็มั่วและคั่วหญิงไม่รู้กี่คน!! ฉันคิดว่าฉันแคร์เขาที่สุดนะแต่ตอนนี้ไม่ล่ะ..."แกไงไคล์ แกมันเด็กเมื่อวานซืน เด็กที่มั่วยิ่งกว่าหมา-_-!" ฉันกัดฟันก่นด่าด้วยอารมณ์ ฉันไม่คิดหรอกว่ามันจะมีผลอะไรตามมา คิดแต่ว่า..วันนี้ฉันต้องชนะเขา"โอ้ย..เจ็บจัง ถ้าเป็นแบบนั้น ป้ามาชอบผมทำไมครับ?^^""......" ฉันยืนนิ่งกำมือแน่น ใช่...ฉันชอบเขาตอนที่เขามั่วนั่นแหละ ฉันโง่เอง ตอนนี้เปอร์เซ็นต์ทฤษฎีของหมอธันวาหยุดฉันไม่ได้แล้ว ฉันลดมันลงทุกอย่าง..จนไคล์เดินเข้ามาใกล้ๆฉัน และถามย้ำอีกรอบ"ตอบผมมาสิ..ว่าป้าหลงชอบผู้ชายมั่วๆอย่างผมทำไม?^^""เพราะเด็กกร้านโลกแบบนาย น่าจะสนองความต้องการฉันได้-_-!!"เขายิ้มที่มุมปาก ก่อนจะก้าวยาวๆมาชิดตัวฉันทันที ..ตอนนี้หน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบ เขาใช้สายตาที่มีความขุ่นเคือง..ไล่มองแก้มและคอที่แห้งผาดฉัน"หึ ที่เห็นนิ่งๆเงียบๆ...ป้าก็เงี่-นเก่งเหมือนกันน
ฉันยิ้มที่มุมปาก แล้วก้มลงครอบครองแก่นกายเต็มปากรูด...เสียงดังอ๊อกๆ จนเจ้าของมันที่ขับรถอยู่เกร็งและอยู่ไม่สุข"อ่าส์...ป้า เหลือน้ำไว้คืนนี้เถอะ " ฉันยอมที่ไหนล่ะ! ฉันทั้งเม้มปากทั้งตวัดลิ้น วนเลียปลายสีชมพูที่มีรอยแตกเล่นอย่างมันส์ปาก ก่อนไคล์เขาจะกัดฟันและตบไฟเลี้ยวจอดข้างทาง รีบกดหัวฉันลงเน้นๆและกระตุกตุบๆ ฉีดน้ำพวยพุ่งคำรามออกมา"อะ..อ่าส์!!" ฉันกลืนน้ำลงคอ แล้วกลับมานั่งปกติ น้ำที่เขาปล่อยออกมาทั้งหมด ฉันแทบไม่ต้องเช็ด เพราะฉันทั้งดูดทั้งเลียกินจนหมดพอถึงคอนโด ไคล์ก็ลงจากรถอ้อมเอาสูทมาคลุมไหล่ฉัน ..ระหว่างทางเขาทั้งบีบมือ ทั้งบีบเอวฉัน...เราแทบจะกินกันในลิฟต์อีกรอบจนในที่สุดได้เข้าห้องปิดประตูปึก!เขาดันตัวฉันติดผนังทันทีที่มาถึง ก่อนจะโน้มลงไซร้ตามซอกคอและยกขาฉันขึ้น แทรกตัวถูตามเนินสาว"ป้าบอกผมมา...ว่าป้าเดทกับใคร" ให้ตาย..ถ้าบอกฉันได้ตายคาเตียงแน่"หมอฮาวาย..."แต่ฉันบอก ฉันไม่สนใจอะไรแล้วล่ะ ตัวเสียไปแล้ว ถ้าเขาไม่ฆ่า...ก็คงเอาฉันทั้งคืน"ป้าทำแบบนี้กับผมได้ไง...ผมรักป้านะรู้ไหม ผมใจจะขาดแล้ว"ฉันเชิดหน้าขึ้นให้เขาไซร้ตามซอกคอ พลางฟังเสียงอู้อี้ที่พร่ำบอก..จนเผลอยิ้มออกมา
ศึกวันแดงเดือดได้ผ่านไปแล้ว คืนแรกของฉันในฐานะผู้อาศัย เป็นคนสำเร็จความใคร่เจ้าของบ้านด้วยปากเช้ามาฉันเลยรู้สึกปวดกรามนิดๆ แต่ก็ต้องรีบตื่นไปเตรียมอาหารเช้าง่ายๆให้กัปตันต้นไม้ เพราะจำสุภาษิตนี้ได้ อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดายปั้นวัวปั้นควายให้กัปตันต้นไม้เล่น เอ่อ..อันหลังไม่ใช่แล้ว-.,-วันนี้ฉันทำไข่ข้นออมเลท อยากจะทำอะไรง่ายๆ แต่มันเพลิน ฉันเผลอย่างเบคอน ย่างไส้กรอกแถมไปด้วย ก่อนจะจัดจานและใช้ซอสมะเขือเทศ..บีบเป็นรูปเครื่องบินตกแต่ง"เธอเป็นแม่บ้านแม่เรือนดีนะ.." ฉันเงยหน้าขึ้นมองตามเสียง ก่อนจะยิ้มให้กัปตันที่เดินยีผมยุ่งๆเข้ามาในครัว จากนั้นเขาก็เดินมาสวมกอดฉันจากด้านหลัง และเอาคางเกยไหล่ก้มดูจาน"ที่วาดเครื่องบินอะไร Airbus หรือ Boeing ?" ฉันเอียงหน้าไปหาเขาแล้วอมยิ้ม"กวนนะคะ ยังจะถามยี่ห้อเครื่องบินอีก ว่าแต่..จะรับกาแฟหรือชาคะกัปตัน?^^" เขาหอมแก้มฉันฟอดนึง แล้วเดินไปเลื่อนเก้าอี้นั่ง โดยที่ตายังมองมือฉันที่กำลังบีบซอสอยู่"กาแฟ.." ฉันพยักหน้ารับพร้อมกับส่งจานให้ ก่อนจะหันไปทำกาแฟแล้วกลับมาเห็นกัปตันต้นไม้ เขากำลังถ่ายรูปจานพอดี"เจแปนวาดสวยล่ะสิ..ถึงถ่ายไว้^^""สวยดี เออฉันมีอะ
ถึงสนามบินกัปตันก็ไล่ฉันลงจากรถ แถมยังส่งโทรศัพท์อีกเครื่องให้ฉัน และยึดมือถือฉันไป!จริงๆแล้วที่เขาพูดมันก็เป็นไปได้ แต่ฉันทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ? น้องฉันรู้เรื่องจริงรึป่าวก็ไม่รู้? ฉันเดินคอตกลากกระเป๋าเข้าอาคาร พยายามปาดน้ำตาอยู่หลายครั้ง จนเดินเข้าเกตและนั่งรอกัปตันบรีฟงานกับลูกเรือคนอื่นไฟลท์นี้ฉันได้บินกับแอร์รุ่นพี่..ก็พวกที่เคยหาเรื่องฉันนั่นแหละ เธอพยายามพูดกับฉันไม่หยุด แต่ฉันไม่สนใจ ฉันไม่มีอารมณ์ทะเลาะหรือกระแทกแดกดันใคร ฉันเอาแต่นั่งเหม่อเช็ดน้ำตาที่มันไหล..แอบร้องไห้เงียบๆคนเดียวจนแอร์รุ่นพี่ทั้งสองตกใจหน้าถอดสี..และเอื้อมมือมาแตะขาฉัน"เป็นอะไรเต้าไต่ ฉันพูดแรงไปเหรอ? เอ่อ...คือขอโทษนะ อย่าร้องสิ""........" ฉันเงียบและหันไปทางอื่น"แปลก..วันนี้ไม่เถียงกลับ ยิ้มก็ไม่ยิ้ม" ฉันลุกขึ้นไปนั่งฟังกัปตันบรีฟงานใกล้ๆ แต่แอร์รุ่นพี่ก็ยังลุกตามและเดินมานั่งข้างๆอีก คราวนี้พวกเธอยื่นทิชชู่ให้ฉันด้วย"อย่าร้องสิ ถ้าเธอร้องฉันรู้สึกผิดนะ-_-" ฉันดันมือเธอออกไม่อยากคุยด้วย เพราะฉันเป็นแบบนี้...ไม่ใช่เพราะพวกเธอซะหน่อยจนกัปตันบรีฟงานเสร็จ ฉันก็ลุกขึ้นเดินตรงไปที่งวงช้าง ยืนเหม่อหน้าปร
OSAKA"เต้าไต่ เอ้ย เจแปนนอนด้วยกันไหม?^^" ฉันส่ายหน้าปฏิเสธเบาๆ แล้วเปิดโทรศัพท์ที่กัปตันให้มา ก่อนจะเดินไปที่ตู้ขายซิมและหยอดเงินเข้าไปแต่รุ่นพี่นาเดียร์และพี่แพทอะไรนั่น พวกเธอยังตามฉันแจ เดินติดไม่ห่างจนกระทั่งฉันผ่านตม.ลากกระเป๋าขึ้นรถบัส พวกนางก็ยังตามมานั่งขนาบข้างฉันอีก"ถามตรงๆนะ จะตามเจแปนทำไม? อยู่กันดีๆเถอะค่ะ ไม่อยากทะเลาะ""นี่ก็ไม่อยากทะเลาะ อีกอย่างกัปตันต้นไม้ฝากมาด้วย^^" ฉันหันขวับมองพี่นาเดียร์ทันที ก่อนที่เธอจะรีบเอามือป้องปากกระซิบฉัน"กัปตันต้นไม้บอกว่า เธอน่ะไม่มีอะไรเลย ไม่แรด ไม่ร้าย ห้ามหาเรื่องเธอ และเธอต้องทำงานส่งเสียน้อง ที่มีกันแค่สองคน " ฉันมองแอร์รุ่นพี่ทั้งสองสลับกัน ยิ่งไปกว่านั้น..รู้สึกช็อคที่กัปตันต้นไม้แก้ข่าวให้ จนพี่แพทที่นั่งในสุด เธอจับแขนและพูดกับฉันเสียงสั่น"คือ..ฉันก็เด็กกำพร้าเหมือนกัน ก็เลยเข้าใจ ขอโทษนะที่ผ่านมา เรื่องเต้าไต่..ฉันก็ฟังต่อๆมานั่นแหละ แอร์รูทบินในประเทศคงอิจฉาเธอ ที่เธอขึ้นมาต่างประเทศเร็ว"ฉันมองพี่ทั้งสองอย่างชั่งใจ เอาเถอะ..จะมาไม้ไหนก็มา ตอนนี้ฉันไม่มีกะจิตกะใจคิดจับผิดใครแล้ว เพราะในหัวมีแต่เรื่องน้องตัวเอง"ไม่ต้อ
ผมประสาทเสียกับเรื่องไทเปแล้ว ผมยังประสาทเสียกับไอ้ไคล์อีก มันโทรมายกเลิกสัญญาที่ทำไว้กับผม!! สัญญาที่ว่าคืิอ..ถ้ามันจะจีบพี่สาวผม ห้ามล่วงเกินเจ๊แกจนกว่าจะแต่งงาน แต่เมื่อกี้!..แม่งโทรมายกเลิกสัญญากูซะงั้นเฮ้อ!! ช่างเถอะโตๆกันแล้ว ผมไม่มีเวลาไปห้ามสองคนนั้น เพราะตอนนี้ผมเล่นโทรศัพท์เจแปนและโทรศัพท์ตัวเองสลับกัน พยายามหาไฟลท์แลกอยู่ พรุ่งนี้เจแปนกลับมาผมจะได้ไปรับและอยู่เป็นเพืื่อนเธอจนอยู่ๆโทรศัพท์เจแปนมีสายเข้ามาครืน ครืน ครืน~ เชน?! พวกมึงไม่คิดจะพักกันเลยรึไง! เออ..มาให้หมดวันนี้ กูจะโทรเรียกรถศรีธัญญารอ"......" ผมกดรับและฟังเงียบๆ รอว่ามันจะเห่าอะไรต่อ(แฟนเจแปนใช่ไหม? กูรู้ว่ามึงถือสายอยู่ ตอนนี้ไทเปคลั่งมาก กูรับมือกับยัยนี่ไม่ไหวแล้ว)"แสดงละครดี รู้ได้ไงว่ากูถือสายอยู่ ถามจริงๆนะพวกมึงคิดอะไรถึงทำแบบนี้วะ?! มึงใช่ไหมที่ติดกล้องในห้องเจแปน!?""ที่กูรู้เพราะเจแปนไปบิน แต่กูเสือกโทรติด"ปลายสายเงียบไปครู่นึง(กล้อง?! เดี๋ยวนะ..กล้องอะไรวะ?!)"มึงอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย วันนี้มึงทักไลน์นัดเมียกูใช่ไหม?!"(ทักไลน์นัด?! บ้า!! กูเพิ่งกลับจากสิงคโปร์เหยียบพื้นประเทศไทยเมื่
"มึงทำตัวเองไม่ใช่เหรอ? วันที่มึงโทรมา..แล้วกูแย่งโทรศัพท์เจแปนไปคุย มึงทำไมต้องพูดแบบนั้น"มันเอาแขนค้ำพนักเก้าอี้แล้วถอนหายใจเสียงดัง"วันนั้นไทเปโทรให้กูไปหา และสั่งกูโทรหาเจแปนให้ได้ กูยอมรับนะ..ว่ากูเสียใจ ที่รู้ว่าเจแปนมีแฟนใหม่ กูทำใจไม่ได้ว่ะ..กูพยายามคุยกับเจแปนพยายามง้อ แต่พอมึงแย่งโทรศัพท์ไปคุย ไทเปก็ทำท่าหัวเราะเยาะกู เหมือนสะใจมากที่เจแปนเมิน ยิ่งกูถูกเย้ย สติกูยิ่งขาดว่ะ...กูเหมือนหมาหวงก้าง กูไม่อยากเสียเจแปนไป""มึงก็เลยบอกกู ว่าเจแปนเละเทะ?...""ใช่ เรื่องนี้กูผิด..ผิดจริงๆ กูพยายามขอโทษเจแปนนะ แต่พอเจอล่าสุด..เจแปนก็มองกูเหมือนหมาข้างถนน เพราะไทเปทำทุกอย่างให้เจแปนเกลียดกู " สายตาที่มองผมหนักแน่นและชัดเจน บางครั้งผมแอบเห็นว่าไอ้เชนมันน้ำตาคลอออกมา"มึงเป็นคนนอกใจเจแปน กินกับน้องแฟนตั้งเจ็ดปีมึงอ่ะเลว""เฮ้อ...แล้วมึงจะให้กูทำไง กูยกเจแปนไว้บนหิ้ง เป็นเพื่อนเรียน เพื่อนคู่คิดมาตลอด..ไม่ได้คิดเรื่องอย่างว่าเลย เอางี้!ไหนๆกูก็ไม่ใช่ลูกผู้ชายแล้ว กูขอพูดตรงๆละกัน ไทเปเสนอตัวให้กู..มาบอกชอบกู ถ้ามึงเจอสาวแก้ผ้าโชว์มึงก็ทนไม่ได้กูรู้ กูน่ะทนมาหลายครั้งแล้วนะ ทนจนไทเปแม่งหน
"ขอบคุณค่า ^^""ขอบคุณนะคะ^[]^" ฉันกับพี่นาเดียร์ยืนฉีกยิ้มขอบคุณผู้โดยสารทั้งสองร้อยคน ทีี่กำลังทยอยเดินออกไป นี่ยังน้อยนะถ้าเป็นA380ลำใหญ่ ฉันคงยิ้มจนฟันแห้งไปแล้ว!พอผู้โดยสารลงจากเครื่อง เหล่าลูกเรือเราๆก็รีบเก็บของดึงกระเป๋าออกมา ฉันกับพี่นาเดียร์จากที่เคยทะเลาะกันเรื่องนี้ ตอนนี้พี่นาเดียร์กลับช่วยฉันยกกระเป๋าลง ยอมรับว่าเป็นไฟลท์ที่ฉันขึ้นบินพร้อมความเครียด แต่ขากลับฉันแลนด์ด้วยรอยยิ้ม ใช่..ฉันได้มิตรภาพกลับมาพี่นาเดียร์ และพี่แพทและตอนนี้เราสามคนก็ลากกระเป๋าตามทางเดิน คุยกันหัวเราะคิกคักจนถึงประตูทางออก แล้วหยุดยืนรอรถสายการบินมารับกับลูกเรือคนอื่นๆจนสักพักฉันเห็นรถกัปตันต้นไม้ขับมาจอดเทียบ เขาส่งไลน์บอกฉันแล้วล่ะว่าจะไม่ลงจากรถ...ฉันจึงต้องยกกระเป๋าขึ้นเอง และรีบขึ้นทันทีที่เปิดประตู"พี่นาเดียร์พี่แพท บ้ายบายค่ะ ไว้นัดโม้กันวันหลังนะ^^"ฉันเลื่อนกระจกโบกมือบ้ายบาย จนพี่ทั้งสองเดินมาใกล้ๆแล้วก้มลงมาหาฉัน"จ้า ไว้เจอกัน..อย่าลืมที่บอกนะ! สตรองนะยัยญี่ปุ่น^[]^" ฉันชูสองนิ้วสู้ๆ แต่กัปตันต้นไม้กดปิดกระจก ฉันจึงรีบเก็บมือและโบกมือลาพี่ๆผ่านกระจกแทนบรื้น~~ เสียงท่อรถสปอร์ทดังล
ฉันขยับตัวซ้ายทีขวาทีบนโซฟา ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ที่เพิ่งวางหมาดๆ ขึ้นมากดโทรหาพี่เชนอีกครั้งแต่โทรเท่าไหร่พี่เชนก็ไม่รับ แถมสายหลังๆยังปิดเครื่องอีกต่างหากเขาขับรถอยู่ ติดประชุม หรือยุ่ง? ทำไมไม่บอกฉันบ้าง นี่จะมืดค่ำแล้วนะฉันเป็นห่วง และท้องฉันก็แก่มากด้วย ทำไมพี่เชนกล้าทิ้งฉันไว้แบบนี้ตุบๆฉันคลำท้องป่องๆที่โดนลูกถีบทันที ตอนนี้ฉันลุกขึ้นแทบจะไม่ไหวแล้ว อยู่ๆก็เริ่มหน่วงไปทั่วเชิงกราน ปวดมากๆอยู่เป็นระยะๆ"โอ๊ะ โอ้ยยยย...ปวดท้อง พี่เชน พี่เชนอยู่ไหน!"ใจเย็นๆลูก ทำไมต้องปวดวันที่พ่อไม่อยู่ด้วย!"พี่เชนนนนนน"ฉันไม่รู้จะทำยังไง จะเอื้อมหยิบโทรศัพท์กดโทรอีกครั้งก็ไม่ได้ ได้แต่ร้องเรียกกระวนกระวายบนโซฟาร้องจนน้ำตาไหลอาบแก้มร้องจนตัวเองเหนื่อย และนอนซมเม็ดเหงื่อที่เกาะไปตามใบหน้าไม่ไหวแล้ว...ตายแน่ๆ ฉันตายแน่ๆ เจ้าแฝดไม่ใจเย็นช่วยฉันเลยกริ่ง~ กริ่ง กริ่ง~เสียงกริ่งที่ดังขึ้นหน้าประตู ทำร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของฉันฟื้นกลับมา ฉันลืมตาที่ปรืออยู่เบิกกว้าง และเมื่อหันขวับมองไปที่ประตูก็เห็นเงาร่างโตของใครยืนอยู่ตรงนั้นพอดี"ช่วยด้วย ! ชะ..ช่วยด้วยค่ะ!"'ส่งพัสดุครับ!' รู้แล้วคุณบุรุษไ
เรื่องท้องไม่ท้อง..คงต้องเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้ฉันกับพี่เชนถูกดึงกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่แล้ว และทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวว่าฉันควรมีลูกแฝด มีแข่งกับพี่เจแปนไปเลย"ไม่ไหวครับๆ คนเดียวก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่?^^" พี่เชนตอบยิ้มๆแล้วตักนู่นตักนี่ให้ฉันกิน"ไม่ไหว? เออๆเดี๋ยวยกโซลให้ไปเลี้ยงหนึ่งวัน คงไม่อยากมีลูกไปเลย" พี่กัปตันพูดนิ่งๆ..แต่ชวนทุกคนขำกลิ้งทั้งโต๊ะ แต่มีคนทำหน้าไม่พอใจคือหลานชายตัวแสบ ที่นั่งมองหน้าพ่อและเคาะช้อนพลาสติกลงจาน แกร้กๆ~โวยวายเสียงแจ๋นลั่นร้าน"แอ๊ แอ้~!""เอาเข้าไปๆ จะทำสงครามกับพ่ออีกแล้วโซล^^""แสบจริงๆหลานลุง แสบเหมือนใคร^^" พี่ฮาวายจิ้มแก้มโซลจนแก้มป่องๆยุบลง บอกเลยใครๆก็หมั่นเขี้ยวเจ้าแสบจนพี่เจแปนก้มลงถามลูก.."แสบเหมือนพ่อใช่ไหมโซล?^^""แอ้~~^^" เห็นมั้ย..โซลตอบแม่ทันที น่ารักน่าตี จนถูกพ่อกับแม่รุมหอมแก้มหอมหัวหลังจากกินข้าวงานเลี้ยงเล็กๆง่ายๆ..เราก็แยกย้ายกันกลับ พ่อแม่พี่เชนนอนโรงแรมที่สนามบินกลับกันพรุ่งนี้เช้า ส่วนฉันกับสามีกลับคอนโดนอน และแน่นอนมีฉลองกันเล็กๆในห้อง..ก็คือการปั๊มลูก เราจัดกันทันทีที่มาถึง กินหัวกินหางกินกลางตลอดตัวจนหมดแรง..."จ
เปิดออกมาก็เห็นลูกโป่งอัดแก๊สสีชมพู ผูกกับกระถางต้นไม้มุมระเบียง และบนผนังมีริบบิ้นหลากสีติดเป็นลูกศรชี้ลงไปข้างล่าง...ฉันจึงรีบเดินไปเกาะราวระเบียงชะเง้อมองตาม สอดส่องสายตาลงไปตามลูกศรบนผนัง..จนเห็นคนคุ้นเคยคนนึงยืนอยู่ข้างล่าง ข้างๆสระว่ายน้ำส่วนกลางของคอนโด ก่อนเขาจะเงยขึ้นเมื่อเห็นฉันยืนอยู่..และป้องปากตะโกนว่า"กลับมาแล้วค้าบบบบบบ!!^[]^"ฉันยิ้มทั้งน้ำตา..ที่เริ่มคลอออกมาสองข้าง อยากจะตะโกนกลับแต่กลัวห้องอื่นรำคาญ จึงตัดสินใจเดินกลับเข้าห้องไปหยิบโทรศัพท์ ออกมาโทรหาพี่เชนแทนฉันยกโทรศัพท์แนบหนูก้มมองคนข้างล่างยิ้มแป้น ...ห้องฉันอยู่ชั้นห้า ถึงจะเห็นหน้าเขาไม่ค่อยชัด แต่ฉันเห็นรอยยิ้มกว้างๆเขาชัดแจ๋วCalling P'Chain"ฮัลโหล..กลับมาแล้วเหรอคะ?^^" พี่เชนยิ้มแล้วโบกมือให้ฉัน ก่อนจะพูดตอบกลับมาว่า(กลับมาแล้ว..ไม่ไปไหนแล้ว ทนไม่ไหว..คิดถึงใจจะขาด)บ้าๆฉันเขินนะ หยุดเขินไม่ได้เลย>\\พี่เชนอ่ะ แล้วนี่ให้ไทเปใส่เวลส์เจ้าสาวทำไมคะ...แค่กลับมาเอง^^" ฉันทำถาม ถึงจะรู้ลึกๆว่า..เขาน่าจะเซอร์ไพรส์ขอแต่งงาน(อ้าวไม่เซอร์ไพรส์เหรอ? เฮ้อ..นี่พี่เซอร์ไพรส์ไม่เก่งใช่ไหม?)ฉันยิ้มมองคนล่างตัดเพ้
"ข้ามขั้นเลยเหรอ^^?""ข้ามเลยค่ะ ถ้าเทกันอีกอย่างน้อยไทเปก็ต้องได้อะไรบ้าง ว่าไงคะ..กล้าเทกันไหมคะ^^"พี่เชนดึงจมูกฉันทีนึงแล้วอมยิ้ม"หมั่นเขี้ยวจริงๆไม่กล้าครับ งั้นพรุ่งนี้ไปอำเภอกันเลยนะ^^"ฉันพยักหน้าหงึกๆแล้วกอดคอพี่เชนทันที ก่อนที่จะดันโน๊ตบุ๊คเขาไปห่างๆ..แล้วเอนตัวนอนราบลงโซฟา ไม่ต้องเดาว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าวไม่ต้องกินแล้ว..ให้พี่เชนบริหารลิ้น บริหารนิ้ว บริหารเอวก่อนอิ่มกันจุกๆฉันกับพี่เชนก็ปรึกษาหารือกันเรื่องวีซ่า โดยพี่เชนให้ความเห็นว่า เราจดทะเบียนสมรสก่อนค่อยขอวีซ่ากัน และพี่เชนจะสปอนเซอร์ค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างเพราะฉันมันคงว่างงานไม่มีอาชีพจากนั้นหลังเรียนจบ..เราจะกลับมาจัดงานแต่งเล็กๆกันที่ประเทศไทย เพราะพี่เชนเขาไม่อยากทำงานที่อเมริกาและอยู่ที่นั่น เขาคิดถึงส้มตำปูปลาร้าร้านหน้าปากซอยที่เขากินประจำ พูดถึงก็ทำหน้าเศร้า..ทำหน้าตาน่าสงสารใส่ฉัน-_-หลังจากบริหารช่วงล่างกันทั้งคืน เช้าวันต่อมาฉันกับพี่เชนก็ไปจดทะเบียนสมรสกัน เราจดไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จ ได้ทะเบียนมาฉันก็เช็คและแปลเอกสาร เพื่อเตรียมยื่นวีซ่าขอติดตามสามี อุ๊ย..สามี สามี เขินจัง..สามีภรรยาถูกต้องตามกฏหมายด้วยนะ"อ
สองเต้าหยุดชะงัก พร้อมกับฉันที่ค่อยๆเบิกตากว้างแล้วหันไปมองเจ้าของคำหวาน"พี่เชน...0//0""พี่รักไทเป พี่รู้แล้วว่าพี่รักไทเปจริงๆ" ได้ยินอีกครั้งน้ำตาฉันก็หยดเพาะลงแก้มขาว ก่อนฉันจะจ้องเขาน้ำตา..และค่อยๆก้มลงจุมพิตที่ริมฝีปากคู่สวยนั่น มันเป็นจุมพิตที่เนิ่นนาน นานจนวงแขนกว้างสวมกอดฉัน และดันจนเราแนบชิดกัน"รักแล้วยังไงคะ..รักแล้วจะแช่ของพี่เชนไว้แบบนี้เหรอ?.." ฉันถอนจูบประคองแก้มเขาถามเบาๆ และจ้องตาเป็นประกายของเขาไปด้วย ฉันไม่อยากร้องไห้เลย แต่ทำไมน้ำตาไหลก็ไม่รู้"ทำไม..แช่ไว้ไม่ได้เหรอ? คลอเคลียแบบนี้พี่ว่า..พี่คงได้เสียตัวอีก^^" ฉันปาดน้ำตาแล้วตีแขนพี่เชนดังเพียะ..จนเขารีบกระชับกอดและจับฉันลงไปนอนบนเตียงทันทีจากนั้นร่างใหญ่ก็ค่อยๆขยับถอดแก่นกายเปียกๆออกมา เขาขยับถูไถกับกลีบกุหลาบช้าๆจนมันผงาดขึ้นอีกครั้ง..."พะ..พี่เชน อื้ม~~ ไหวเหรอคะ?""พี่ตุนไว้เพียบ...แต่รอบนี้นานหน่อยนะ"และฉันก็เสียตัวอีกรอบ ไม่สิพี่เชนเสียตัวต่างหาก ไอ้เค้กช็อคโกแล็ตกับข้าวเหล้าไวน์ พี่เชนไม่ได้กินไม่ได้แตะหรอก เรามีอะไรกันจนสลบเหมือบกันทั้งคู่ รู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เช้าตรู่อิ่มจนจุกกันไปเลยเช้า..ฉันนอนคว่ำ
"ฉันขอเวลาคิด ถึงฉันอยากกลับไปแค่ไหน เธอต้องเข้าใจฉันนะพิมดาว..ว่าฉันต้องเซฟตัวเองด้วย คนเคยเจ็บมา คนเคยถูกทิ้งมา..ฉันใช้เวลาไม่น้อยเลยนะกว่าจะยืนด้วยขาตัวเองได้"ฉันพูดทั้งน้ำตาและมองพิมดาวไปด้วย จนมือที่จับมือฉันค่อยๆคลาย..และแตะเบาๆ"โอเคๆฉันเข้าใจ แต่อย่าเผลอใจให้คนอื่นนะ ถ้าเรื่องนี้เธอดึงคนอื่นเข้ามา มันจะวุ่นวายไปใหญ่ ให้มันมีแค่เธอกับพี่เชนก็พอ ฉันเป็นกำลังใจให้เธอนะไทเป..ทุกๆเรื่องเลยสู้ๆ"ฉันพยักหน้าหงึกๆเหมือนเด็กสามขวบที่โดนโอ๋ จนพิมดาวลุกขึ้นมากอดและลูบหลังฉัน เธอลูบเบาๆแต่เหมือนฉันได้กำลังใจมหาศาล จนสักพัก..ฉันหยุดร้องไห้ ปาดน้ำหูน้ำตาที่ไหลเงยหน้าขึ้นมองเธอ"ฉันจะลองดู..แต่เธออย่าบอกเขาได้ไหม ว่าฉันรู้สึกยังไง""โถ่ไทเป..ไม่บอกพี่เชนก็รู้ กับพี่เชนเธอเคยห้ามใจตัวเองได้เหรอ? แววตาเธอมันฟ้องจะตาย " ฉันเงียบกริบเม้มปากนิดๆคิดตามคำพูดพิมดาวก็จริง..พิมดาวพูดถูก ฉันควบคุมไม่ได้เลย ยิ่งเจอเขาความต้องการฉันยิ่งมาก ฉันต้องการเขา อยากกอดเขา อยากทุกๆอย่าง และเมื่อวานฉันพยายามสุดๆที่จะไม่กระโจนใส่เขาคุยกับพิมดาวเสร็จฉันก็กลับคอนโดนอน ฉันไม่อยากไปไหนแล้วจริงๆ อยู่ๆก็อยากกลับห้องมา
"ก็...เอ่อ เห็นไทเปรักเขาไงฉันก็เลย..อยากให้ไทเปทำตามหัวใจดู^^"ฉันดึงแก้วกาแฟกลับจับหลอดดูดและจ้องตาพิมดาว พยายามจับผิดตาโตๆนั่น ว่าจะวอกแวกหรือหลบตาฉันรึป่าว แต่ไม่..พิมดาวยังยิ้มปกติไม่มีอะไร แถมเธอยังชวนฉันสั่งอาหารว่างมากินรองท้องอีกจนเราสองคนอยู่ในความเงียบ และฉันนั่งทวนงานส่งบก. พิมดาวก็ถามฉันขึ้นมา"เธอ..จะกลับไปคุยกับเขาคนนั้นมั๊ย?^^" ถามไปเขี่ยเค้กฝอยทองในจานไป เอ๊ะ..สั่งมากินหรือสั่งมาเขี่ย ตั้งแต่มาเนี่ยพิมดาวยังไม่ทำอะไรสักอย่าง งานก็ไม่ทำหนังสือก็ไม่อ่าน มีแต่เล่นโทรศัพท์เป็นพักๆและจ้องหน้าฉัน"ไม่รู้เหมือนกัน ดูก่อน" ฉันตอบเรียบๆและเปรยตามองเพื่อนสนิทแวบนึง"แต่ใจเธอสั่นใช่มั๊ยล่ะ?^^" เมื่อเจอคำถามติดต่อกัน ฉันก็ละสายตาจากนิยายที่ทวน...หันไปมองเธอ"ทำแบบสอบถามอะไรอยู่ ถามไม่หยุดเลยนะ-__-""ป่าว แค่อยากรู้ว่าเพื่อนรู้สึกยังไง^^" พิมดาวยิ้มหวานกลบเกลื่อนแล้วเขี่ยเค้กฝอยทองต่อ ฉันจึงหันมองซ้ายมองขวามองรอบๆร้านกาแฟ ว่ามีอะไรผิดปกติไหม? ทำไมคำพูดคำจาและคำถามมันแปลกๆ ปกติพิมดาวไม่ใช่คนชอบซักไซร้แบบนี้นี่"ถ้าถามความรู้สึก...ฉันก็ใจสั่นหวั่นไหวนั่นแหละ แต่ฉันไม่กลับไปง่ายๆหรอ
"ทำไมต้องขอนอนกับไทเป บ้านช่องไม่มีแล้วเหรอคะ?" ฉันถามแล้วหันไปทางอื่น ใครจะไปกล้าสบตาเขา เดี๋ยวเขารู้ว่าฉันอยากและอดอยากปากแห้งมานานเอ๊ะหรือฉันจะเล่นด้วย..ยอมปล่อยตัวหน่อยให้หายคอแห้ง"พี่คิดถึงไทเปไง.." พูดจบมือใหญ่พี่เชนก็วางบนขาฉัน แถมเขายังบีบเบาๆเบาๆ จนตอนนี้หน้าฉันชาหูฉันอื้อไปหมด คนมันเคยๆเขารู้..รู้ว่าฉันชอบให้สัมผัสตรงไหนแล้วตอนนี้มือเขาก็เอาใหญ่..ขยับขึ้นมาเรื่อยๆ บีบเข้าตามหว่างขา ก่อนจะหยุดตรงเนินสาวอวบอั๋นที่เขาเคยสัมผัสมา และสอดมือเข้าไปจนฉันขนลุกซู่ไปทั้งตัวเขาขับรถจับพวงมาลัยมือเดียว มืออีกข้างก็ซุกซนล้วงเข้าไปในขอบกระโปรงฉัน แล้วทำไมฉันไม่ห้ามเนี่ย..ฉันเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่าง ปล่อยตัวอ่อนปวกเปียกและร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แถมยังแยกขาพลีชีพให้เขาส่งมือเข้าไปถึงเกษร จนหยุดทักทายสองกลีบกุหลาบที่เปียกพร้อม..ช้าๆเน้นๆอย่างช่ำชอง"ถ้าไม่ให้นอนด้วย..พี่แวะโรงแรมนะ" ฉันบิดตัวจิกสองเท้าลงพื้น เมื่อพี่เชนถามและเขี่ยรัวมาก เขาเขี่ยรัวจนฉันไม่ทนความเสียวซ่านและกลั้นเสียงคราง รีบยกมือขึ้นกัดส่ายหน้ารัวๆ"มะ..ไม่ ไม่ค่ะ เอามือออกไป เอา..ออก""ไม่อยากเอาออก อยากเอาเข้า" พูดจบพี่เช
โรคนิมโฟมาเนีย โรคเฮงซวยที่ฉันเป็นมาเจ็ดปีเต็ม.. ตอนนี้มันหายไปแล้ว..หายไปพร้อมๆกับเขาคนนั้น คนที่ฉันเห็นเขาเป็นคนรัก เห็นเขาเป็นคู่นอน เห็นเขาเป็นพี่ชายที่แสนอบอุ่นและดีพร้อม'พี่ไม่ได้คิดกับไทเปแบบนั้น , ถ้าเจอใครถูกใจเริ่มใหม่ได้เลยนะ'คำพวกนี้สุภาพแต่...เจ็บมาก เจ็บเหมือนจะตาย ฉันคิดว่าตัวเองจะไม่ไหวโดดตึกผูกคอตายในห้องแล้ว แต่คิดไปคิดมา เกิดทั้งทีฉันต้องใช้ชีวิตให้คุ้มกว่านี้ เคยมีความสุขสุดๆตอนได้ผู้ชายคนนั้นมาเป็นของตัวเอง มันก็ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะทุกข์ใจบ้าง เพราะทุกๆอย่างมันไม่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มหลังจากที่เสียพี่เชนไป ฉันนั่งร้องไห้เป็นเผาเต่า มองไปทางไหนก็คิดถึงแต่หน้าเขา โซฟาตรงนี้ก็เคยได้กัน บาร์ที่ครัวก็เคยโก้งโค้งให้เขามาแล้ว อย่าว่าแต่ห้องนอนห้องน้ำฉันกับพี่เชนเคยมาหมด เหลือแค่ระเบียงที่ยังไม่ได้ทำ กะจะลองสักครั้ง แต่เสียดาย..เขาทิ้งฉันก่อนหลังจากพี่สาวแต่งงานมีครอบครัวและพี่เชนทิ้งฉัน ..ฉันก็ตัวคนเดียว ไปไหนคนเดียว กินข้าวคนเดียว มันเหงามาก แต่ยิ่งจมปลักฉันก็ยิ่งแย่ ฉันจึงไปปรึกษาจิตแพทย์พี่หมอธันวา เขาบอกฉันให้มูฟออน...ออกมาจากมุมเดิมๆเปลี่ยนบรรยากาศให้ตัวเอง ถ้าวันไ