คนของผม อย่ามาแตะ! มิวนิคอุ้มแฟร์รี่ลงจากรถ วิ่งไปส่งที่เตียงคนไข้ ให้เจ้าหน้าที่ และพยาบาลขนเตียงไปยังห้องฉุกเฉิน ในขณะที่ตัวของแฟร์รี่ยังไม่รู้สึกตัว “เดี๋ยวลุงจัดการเอง” ลุงหมอที่วิ่งออกมารับพูดกับชายหนุ่มรุ่นหลาน เขาถูกไหว้วานมาจากวินเนอร์เพื่อนของเขาที่เขาเป็นหมอประจำตระกูลและประจำโรงพยาบาลนี้ให้ พอเขารู้ว่าคนไข้เป็นคนของเพื่อนลูกเขยของวินเนอร์เขาก็ยินดีช่วย “ขอบคุณครับ” มิวนิครับคำพร้อมกับยกมือไหว้ลุงหมอ แล้วมองตามหลังของลุงหมอที่หายเข้าไปยังห้องฉุกเฉินพร้อมกับเตียงของแฟร์รี่ “นายครับ ผมส่งคนขับแท็กซี่เข้ารักษาแล้วนะครับ” องศาบอกเจ้านายที่ยืนจ้องเข้าไปในห้องฉุกเฉิน “จัดการให้เรียบร้อย รับผิดชอบทั้งหมด แล้วไปหามาด้วยว่าไอ้คนที่มันกล้าทำแบบนี้เป็นใคร กูจะไปจัดการเอง ไม่เว้นแม้แต่แม่กู!” มิวนิคหันไปบอกลูกน้อง “ครับนาย ผมสืบมาแล้วยังจับมันไม่ได้แต่รู้ว่าคือใคร” “มันคือใคร?” มิวนิคถาม “คนที่มาทำร้ายคุณแฟร์รี่ คือไอ้ป้อง ลูกน้องของนายหญิงใหญ่ครับ” องศารายงาน “แม่...” ชายหนุ่มพึมพำ ก่อนจะรีบผลุนผลันออกไป แต่ยังไม่วายตะโกนกลับมาสั่งงานองศา “มึงอยู่นี่ เฝ้าแฟร์รี่ ก
ของขวัญชิ้นสุดท้าย “ว่ายังไงไอ้ลูกชาย” ธันวา เอ่ยขึ้นเมื่อเข้ามาในห้องแล้วเห็นหน้าลูกชายคนเดียวของเขา ซึ่งวันนี้เขารู้ว่าแฟนของลูกได้รับอุบัติเหตุอยู่โรงพยาบาล เขาถึงแวะมาเยี่ยม “พ่อ...” มิวนิคยังพึมพำได้แค่นั้น เพราะไม่คิดว่าพ่อจะมา และอีกอย่างเขาไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ถ้าหากพ่อมาเจอแฟร์รี่ที่หน้าเหมือนคนรักเก่ามากขนาดนี้ และถ้าแฟร์รี่รู้ความจริงเธอจะเป็นยังไง “ใช่ ฉันเอง ได้ข่าวว่าแฟนแกรถคว่ำ เลยมาเยี่ยม เป็นไงบ้างล่ะหนู...” ธันวาพูดกับลูกชายจบ ก็หันไปถามอาการของแฟนลูกชายด้วยความเป็นห่วงว่าที่ลูกสะใภ้ แต่...ธันวามาเฟียรุ่นใหญ่ก็ต้องชะงักนิ่ง จ้องไปที่ใบหน้านั้นค้างอยู่แบบนั้นนานจนทำให้มิวนิคทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน “เอ่อ หนูไม่เป็นอะไรมากค่ะ ขอบคุณคุณพ่อของเฮียมิวนิคนะคะที่แวะมาเยี่ยมหนู” แฟร์รี่พูดด้วยรอยยิ้มสดใส เพราะเธอรู้สึกถึงความอบอุ่นจากสายตาที่พ่อของเขาส่งมา “หนู...ชื่ออะไร...” ธันวาถามคนบนเตียงด้วยอาการเลื่อนลอย “หนูชื่อแฟร์รี่ค่ะ” “เหมือน...เหมือนมาก แม่หนูชื่ออะไร” ธันวาถามอีก ใจก็อยากได้ยินชื่อที่อยู่ในใจ แต่อีกใจก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะคนที่อยู่ในใจเขาจากโลกนี้ไป
รู้ว่ารัก...มักสายไป ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงยีนส์สีดำขาเดฟ เดินมาพร้อมกับกับลูกน้องและบอดี้การ์ดอีกสามสี่คน ก้าวเดินเข้ามาในโรงพยาบาลเอกชนของตระกูลอีแวนสัน ตระกูลของมาเฟียรุ่นใหญ่อย่างวินเนอร์ มือหนาบิดลูกบิดประตูห้องพักคนไข้ออกช้าๆ เพราะกลัวว่าจะรบกวนคนในห้อง แอ๊ดดดดดดด มิวนิคเปิดประตูเข้ามาในห้อง พบกับความว่างเปล่า มีเพียงเตียงคนไข้ที่ไร้คนป่วย ชายหนุ่มยืนนิ่งอึ้ง ทำไมห้องดูโล่งและว่างเปล่าเหมือนกับว่ายังไม่เคยมีคนพักอยู่ห้องนี้ “อะ...ไอ้อง แฟร์ไปไหน...” มิวนิคเอ่ยถามลูกน้องที่ยืนอยู่ด้านหลัง “ไม่รู้ครับนาย เรามาพร้อมกัน” องศาตอบ พร้อมกับเอี้ยวตัวจากด้านหลังมองเข้ามายังห้องโล่งๆ “ไปถามพยาบาลว่าเมียกูไปไหน!!” มิวนิคตวาดกร้าว สิ่งที่เขากลัวมันกำลังเกิดขึ้น องศารีบวิ่งออกไปถามพยาบาลถึงเรื่องคนไข้ที่พักห้องนี้แล้วรีบกลับมารายงานเจ้านายที่ยืนนิ่งค้างไม่ไหวติงอยู่ภายในห้อง “นายครับ พยาบาลบอกว่าคนไข้ขอทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลไปตั้งแต่ก่อนเที่ยง หลังจากที่เรากลับไปได้ไม่นานนี้ครับ” “ไปไหน?” มิวนิคยังคงถามต่อโดยที่ไม่ได้ละสายตาจากเตียงที่ว่างเปล่า เ
เข้าใจ... ภายในห้องนอนที่เคยสว่างสดใสรับบรรยากาศยามเช้า มีแสงแดดและแสงสว่างจากอากาศภายนอกระเบียง บัดนี้ถูกปิดมิดชิดเหลือเพียงแสงสลัวภายในห้อง ยังคงหลงเหลือกลิ่นของแอลกอฮอล์จากผู้ที่นอนหลับอยู่บนที่นอน หลายอาทิตย์มานี้มิวนิคเอาแต่ดื่มแอลกอฮอล์เมามายทุกวัน ไม่ทำงาน ไม่พบปะผู้คน ยังคงอยู่แต่ในห้องที่เคยใช้ชีวิตพร้อมกับแฟร์รี่ “นายอยู่ในห้องนี้ทุกวันทั้งวันเลยครับ” เสียงขององศาบอกกับชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ หน้าประตูห้อง ธันวามองดูสภาพของลูกชายตัวเองที่นอนหมดอาลัยเป็นมะเขือเผาอยู่บนเตียง ได้แต่ส่ายหัว ผู้หญิงคนเดียวทำได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็ว่าไม่ได้เพราะขนาดตัวเขาก็ยังเป็นเมื่อตอนหนุ่มๆ “มิว...ไอ้มิว ลุกขึ้นมาคุยกัน” ธันวาเขย่าตัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวน มิวนิคขยับตัวตื่นขึ้นมามองว่าเป็นใครแล้วก็หลับตาลงอีก “มาทำไม” มิวนิคถามพ่อ “ตื่นมาคุยกัน ต้องเคลียร์กันให้จบในวันนี้” มิวนิคได้ยินแบบนั้นจึงลุกขึ้นนั่งบนเตียง เขาก็อยากเคลียร์ให้จบเหมือนกัน ไม่อยากติดอยู่แบบนี้ ค้างคาแบบนี้ไปตลอด “ลุกขึ้นแต่งตัวลงไปคุยข้างล่าง” พูดจบธันวาและองศาก็เดินลงไปรอเขาที่ชั้นล่างทันที ผ่านไปสักพักม
เด็กมีปัญหาขาดความอบอุ่น ครืดดดดด ครืดดดดด เสียงมือถือเครื่องสีดำสั่นสะเทือนกับพื้นโต๊ะทำงาน มิวนิคละสายตาจะเอกสารมองมือถือที่สั่นไม่หยุดเพราะมีสายเรียกเข้าจาก แม่ของเขา ชายหนุ่มกดรับสายทันที เพราะแม่อาจจะแจ้งเรื่องที่อยู่ของแฟร์รี่ “ฮัลโหลครับคุณหญิง” ชายหนุ่มรับสายด้วยเสียงทะเล้นอย่างอารมณ์ดี คิดว่าจะได้รับข่าวดีวันนี้ ‘เรียกแบบนี้ ฉันวางสาย!’ รัญดาตอบกลับอย่างไวไม่สบอารมณ์ “โอ๋ๆๆ ล้อเล่น” ‘เรียกแบบนั้นมันดูแก่ ไม่ชอบ’ “ล้อเล่นน่าา” ชายหนุ่มรีบโอ๋แม่ ‘จะโทรมาแจ้งข่าว เล่นแบบนี้ไม่ต้องเอาละ’ “อย่าใจร้าย ถ้าใจร้าย ง้อแฟร์ได้จะไม่ให้ไปเป็นนางแบบชุดให้นะ” มิวนิคพูดขู่แม่ของเขา เพราะตอนนี้เขารู้ว่าแม่ของเขากำลังต้องการแฟร์รี่เป็นนางแบบมาก งานที่แฟร์ถ่ายไว้ให้ คอลเล็กชั่นนั้นขายดีที่สุดกว่าคอลเล็กชั่นอื่น ‘แกอย่ามาขู่ฉัน ไม่มีสิทธิ์ต่อรอง ชีวิตแกอยู่ในมือฉันนะ ถ้าฉันไม่บอกแกจะไม่มีทางได้เจอน้องแฟร์แน่นอน’ รัญดาขู่กลับ “เคๆ เราดีกันเถอะ บอกมาๆ” มิวนิครบเร้า ‘ก็ได้ จะยอมครั้งเดียว’ “คร้าบ บอกมาสักที” ‘แฟร์รี่และแม่ของเธอตอนนี้ อยู่ที่...’ รัญดาเว้นวรรคไว้แค่น
คำขอโทษที่จริงใจ “ทำไมปฏิเสธเฮีย ไม่รักเฮียบ้างเหรอ ไม่สงสารกันเลยเหรอหือ?” มิวนิคเอ่ยถามพร้อมกับยกมือสองข้างกุมแก้มป่องๆ ไว้ “ยังไม่ไป ไม่ได้บอกว่าจะไม่ไปนี่คะ” แฟร์รี่พูดพร้อมกับส่งยิ้มทั้งน้ำตาให้กับเขา “ยังไม่ไป แปลว่าไม่ไปวันนี้ ไปวันอื่นเหรอ รออะไรครับ” เขาถามเสียงเพราะ ทำเอาแฟร์รี่ที่ไม่ค่อยได้ยินเกิดขนลุกขนพองทันที “แฟร์เป็นห่วงแม่” “ไม่ต้องห่วงแม่หรอกแฟร์ แม่อยู่ได้ แม่ชอบความสงบร่มเย็นที่นี่ และกำลังสนุกกับการรีโนเวทบ้านของตาทีละเล็ก ทีละน้อย” เสียงของวีณาดังขึ้นด้านหลังของคนตัวเล็ก “แต่แม่ต้องอยู่คนเดียว” แฟร์รี่พูดด้วยความเป็นห่วง “คนเดียวที่ไหน ป้าจีก็อยู่ข้างๆ บ้าน ก้อยลูกสาวป้าจีก็อยู่ด้วย ไม่ต้องห่วง” วีณาอธิบายให้ลูกสาวฟัง จะได้ไม่ต้องห่วงว่าเธอจะอยู่คนเดียว เธอมีเพื่อนบ้าน ที่เป็นเพื่อนบ้านเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นของชัยยศ ที่เป็นพ่อของวีณา ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด “อยู่ได้จริงๆ นะแม่” แฟร์รี่ลุกขึ้นจากเปลเดินไปจับมือทั้งสองของแม่อย่างเป็นห่วง “แม่อยู่ได้ กลับไปกับพี่เขา ไปทำหน้าที่ตัวเองให้เสร็จ ให้จบสัญญา อย่าเป็นคนที่ชอบผิดสัญญาไม่ว่าจะสัญญาเรื่องอะไรท
ไม่ถึงบ้าน คลับ TW เสียงเพลงเปิดกระหึ่มดังทั่วทั้งคลับ ผู้คนมากมายทั้งนั่งดื่มสบายๆ ทั้งยืนเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกเบาๆ ไปกับเสียงเพลง ท่ามกลางผู้คนมากมายไม่ว่าคนจะเยอะแค่ไหน แต่มิวนิคที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะเพื่อดูแลหญิงสาวคนสำคัญทั้งสอง แม่และเมียของเขาอยู่ห่างๆ ท่ามกลางวงล้อมของคนมากมาย สาวในชุดมินิเดรสเกาะอกเกือบหลุด ชุดรัดรูปสีขาวไข่มุกเลื่อม สะท้อนแสง ผมสั้นประบ่า ลอนสวยสีน้ำตาลอ่อน รับกับใบหน้ารูปไข่ ปากนิดจมูกหน่อย แบบฉบับสาวเกาหลี แต่งตัวค่อนข้างน้อยกว่าผู้หญิงคนอื่น กลับดูเด่นมีออร่าที่สุดในคลับ หรืออาจจะเป็นเพราะเธอคือเมียเขา ตั้งแต่ได้เธอเป็นเมีย ผู้หญิงคนไหนก็ไม่เคยสวยในสายตาเขาอีกเลย “น้องแฟร์ๆ มาเต้นๆๆ ลูก” รัญดาตะโกนชวนแฟร์รี่เต้นแข่งกับเสียงเพลงที่ดังมาก “คุณน้าเต้นก่อนเลยค่ะ แฟร์ยังไม่กล้า น้องคะพี่ขอเหล้าเพิ่ม” แฟร์รี่ตอบรัญดา ก่อนหันไปสั่งเหล้าอีก เธอยังรู้สึกเขินอายที่จะเต้นเพราะคลับที่นี่ไม่เหมือนที่เกาหลี เธอจึงต้องใช้ความเมาเป็นที่เสริมความกล้าและความมั่นใจให้ตัวเอง เมื่อเริ่มมึนเมาได้ที่แล้ว แฟร์รี่ลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินไปหารัญดาที่เต้นโยกย้ายอยู่กลางคล
ไม่เลือกเธอ “อะไรนะคะคุณน้า คุณน้าเซ็นสัญญา กับ ยัยฟะ...เอ้ย นางแบบชื่อแฟร์รี่ ให้เป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ RD เหรอคะ” เสียงแหลมเล็กของมาร์กี้ถามรัญดา เมื่อรู้เรื่องว่ารัญดาเปลี่ยนนางแบบเซ็นสัญญาพรีเซนเตอร์แบรนด์เสื้อผ้าที่รัญดาออกแบบเป็นแฟร์รี่คู่แข่งแทนที่จะเป็นตัวเธอ “ใช่จ้ะ หนูมาร์กี้มีปัญหาอะไรไหมจ๊ะ” รัญดาถามมาร์กี้กลับเมื่อเห็นอีกฝ่ายตกใจ คงมั่นใจว่าต้องเป็นตัวเอง ก่อนหน้านี้เธอเอ็นดูอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้แทนแฟร์รี่ที่เธอไม่ชอบ แต่ตอนนี้เธอรู้พฤติกรรมหลายๆ อย่างของเธอจากองศา ลูกน้องคนสนิทของมิวนิคแล้ว จึงเห็นสมควรว่าเธอคนนี้ยังเด็กเกินไป ยังไม่เหมาะที่จะเป็นภรรยาของมิวนิค อีกอย่างตอนนี้เธอเองเข้าใจอะไรในตัวแฟร์รี่หมดแล้ว “เอ่อ กี้คิดว่า...” “อ่อ สำหรับหนูกี้ใช่ไหมจ๊ะ น้าให้หนูกี้ไปถ่ายให้อีกแบรนด์หนึ่ง เป็นแบรนด์ของเพื่อนน้าเอง” รัญดาบอกมาร์กี้ แล้วเตรียมจะเดินออกไป แต่มาร์กี้ไม่ต้องการแบบนั้น เธออยากถ่ายของแม่มิวนิค อยากสนิท อยากให้แม่ของเขาเชียร์เธอให้ได้ใกล้ชิดกับมิวนิค เพื่อนของพี่ชายที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่เด็กๆ “คะ...ค่ะ” มาร์กี้รับคำอย่างจำใจ ในใจแอบโกรธและเสียดายที่
ต้อนรับเข้าสู่ สมาคมพ่อบ้าน หลังจากที่วินเซ่และแบล็คเกอร์ได้แต่งงานกันไปแล้ว 3 เดือน “ห้ามใส่ชุดที่โป๊เกินไป ชุดว่ายน้ำก็ห้ามใส่ บิกินี่ ทูพีช วันพีช อะไรก็ห้ามทั้งนั้นเข้าใจไหม” เสียงของมิวนิคสั่งกำชับแฟนสาว น้ำเสียงจริงจัง สั่งไว้เมื่อแฟร์รี่กำลังจะลงจากรถไปถ่ายแบบให้กับแบรนด์เสื้อผ้าของรัญดาในวันนี้ ความจริงแล้ววันนี้ไม่มีถ่ายงาน แต่เขาขอร้องให้แม่บอกแฟร์รี่ว่าให้มาถ่ายงานให้แม่หน่อย เป็นตรีมชุดแต่งงานแบบริมทะเลที่แม่ออกแบบ เพราะเขาตั้งใจจะขอแฟร์รี่แต่งงาน “แต่...แบรนด์ของคุณน้าเป็นชุดว่ายน้ำนะคะ” แฟร์รี่ตอบเขา ชุดของรัญดาส่วนมากเป็นชุดว่ายน้ำ และที่แฟร์รี่ถ่ายๆ มาก็ชุดว่ายน้ำมีทั้งแบบน่ารัก ทั้งเซ็กซี่ และทั้งวาบหวิว “เออจริงว่ะ ไม่รู้แหละ เลือกชุดที่ไม่โป๊ เดี๋ยวเฮียบอกเชอรี่ไว้อีกที ว่าถ้าโป๊ห้ามให้หนูใส่” มิวนิคบอก เขากดต่อสายหาเชอรี่ ที่ตอนนี้มาเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับแฟร์รี่แล้ว สั่งงานเรียบร้อยเขาก็ส่งคนตัวเล็กขึ้นไปชั้นบนของบริษัทแม่เขา “โอเคค่ะ แฟร์ไปทำงานก่อนนะ” “เสร็จแล้วรออยู่นี่กับแม่ เดี๋ยวเฮียมารับ ห้ามกลับก่อน ห้ามหนีเที่ยวที่ไหนเด็ดขาด” เขากำชับ “
ของเขาคนเดียว คนเดียวเท่านั้น มิวนิคอาบน้ำแต่งตัว ด้วยชุดสบายๆ เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ขาเดฟสีดำ วันนี้เขาตั้งใจจะไปเช็คของที่โกดัง เพื่่อรับสินค้าล็อตใหม่ที่เพิ่งส่งมาถึงกับพวกมังกรและซันที่ไปรออยู่ที่โกดังแล้ว ก่อนออกจากห้องเขาหันไปหาคนตัวเล็กที่นอนหลับใหลอยู่บนที่นอนนุ่ม จึงอดใจไม่ไหว เดินไปก้มกดริมฝีปากหนาลงบนหน้าผากนวล ไล่ลงจมูก เปลือกตาบางและจุมพิตที่ปากบางอมชมพูอ่อนอย่างนุ่มนวล แต่แม้จะนุ่มนวลแค่ไหนการกระทำนั้นก็ยังปลุกให้หญิงสาวบนที่นอนตื่นได้อยู่ดี “อื้อออ” แฟร์รี่งัวเงียลืมตาตื่นมองใบหน้าคมที่กำลังก้มมาใกล้ใบหน้าหวาน “ตื่นแล้วเหรอ ไอดื้อ” “ตื่นแล้ว เฮียจะไปไหนอ่ะ” คนตัวเล็กถามชายหนุ่ม ก่อนจะยกแขนเรียวขึ้นโอบรอบคอหนาไว้ “เฮียจะไปเช็คของที่โกดังกับพวกไอ้ซันกับไอ้มังกร” “จะกลับตอนไหน” “ยังไม่รู้เลย หนูไม่ต้องรอนะ สั่งอะไรมาทานเลย เฮียอาจจะกลับดึกหน่อย” ชายหนุ่มบอกเธอ แกมสั่งไว้ “ได้ค่ะ รีบกลับมานะ แฟร์เหงา” “ห้ามหนีเที่ยวรู้ไหม ห้ามดื้อ บ้านแม่ บริษัทแม่ก็ไม่ต้องไป รอเฮียกลับมาก่อนค่อยไป” เขาสั่ง “ถ้าพี่เชอรี่มารับก็ไปไม่ได้เหรอ” “ไม่ได้ อันตราย รอไปพร้
ขอเอาแลกเบอร์โทร มิวนิคพาแฟร์รี่มายืนหยุดที่หน้าตึกแห่งหนึ่งใกล้กับบริษัทของเขา ตึกหรูหรา10 ชั้นกลางเมือง ภายในตึกเงียบเหมือนกับว่าไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ มีเพียงลูกน้องของมิวนิคหลายสิบคนเท่านั้นที่ยืนอยู่โดยรอบ “บริษัทของเฮียเหรอคะ ทำไมเงียบจัง ไม่เห็นมีพนักงานเลย” แฟร์รี่เอ่ยถามอย่างสงสัย “ไม่ใช่บริษัท ที่นี่เป็นบ้าน” เขาตอบ พร้อมกับดันหญิงสาวให้เดินเข้าไปด้านใน “บ้านเหรอคะ บ้านใคร แล้วเฮียพาแฟร์มาที่นี่ทำไม” “บ้านของเรา เฮียซื้อไว้ให้หนูอยู่ จะได้อยู่ใกล้ๆ บริษัท” “ค่ะ แล้วอยู่ชั้นไหนคะ เฮียซื้อห้องชั้นไหน ไม่เห็นจะมีคนอยู่เลย” แฟร์รี่ถามพร้อมกับมองเข้าไปด้านในตึก “ทุกชั้น!” มิวนิคพูดหน้าตาย “ห๊ะ? เมื่อกี้เฮียว่าอะไรนะ” “ก็ทุกชั้น บ้านเราอ่ะทุกชั้น” “อย่าบอกนะ ว่าเฮียซื้อทั้งตึกเลยอ่ะ” “ตามนั้นแหละ” มิวนิคพูดแบบไม่รู้สีกรู้สาเดือดร้อนอะไร แล้วเดินนำเข้าตึกไปสำรวจความเรียบร้อย “เฮียบ้าไปแล้วใช่ไหมเนี่ย ซื้อทั้งตึก เงินเยอะเหรอคะ” ร่างบางวิ่งตามพร้อมกับพูดบ่นอุบอิบไปด้วย “อือ เงินเยอะ เหลือใช้ อยู่กับเฮียช่วยเฮียใช้ด้วยนะ” ชายหนุ่มหันมาพูดและส่งยิ้มเท่ๆ ให้กับ
แต่งงานกับเฮียไหม? รถสีขาวปรอทแล่นออกจากโกดัง พุ่งทะยานไปบนถนนโล่งด้วยความเร็ว ภายในรถเงียบสนิทไม่มีแม้แต่ใครพูดสักคำ แฟร์รี่เงียบเพราะยังรู้สึกไม่ดีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มิวนิคเงียบเพราะเขากำลังคิดอะไรบางอย่าง หลายครั้งหลายหนที่แฟร์รี่อยู่ห่างเขาแล้วเขาไม่สามารถดูแลเธอได้ ขนาดเขาให้เธออยู่บ้านอย่างเดียวก็ยังไม่วายที่จะโดนลอบทำร้าย เขาจะทำอย่างไรให้เธออยู่กับเขาตลอดเวลา และจะทำยังไงให้เธอได้ปลอดภัย “แฟร์...” มิวนิคเรียกชื่อคนข้างๆ เบาๆ “คะ?” “แต่งงานกันไหม?” มิวนิคถามเอาดื้อๆ ทำเอาคนฟังและคนได้ยินอย่างองศาที่ขับรถอยู่ชะงักกึกไปพักหนึ่ง เจ้านายเขาจะสุดโต่งอะไรขนาดนั้น ขอแต่งงานกับสาวง่ายๆ แบบนี้เลยหรือ “อะ...เอ่อ” แฟร์รี่ตกใจเล็กน้อย อ้ำๆ อึ้งๆ แบบ งงๆ กับสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่เคยถูกขอแต่งงาน และการขอแต่งงานที่เธอเคยเห็น เคยรู้จักมันไม่เหมือนแบบนี้ เขาต้องขอแบบโรแมนติกไม่ใช่หรือ เลยทำให้เธอไม่รู้จะต้องตอบเขายังไง “ไม่แต่งกับเฮียเหรอ” มิวนิคถามย้ำ เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ยอมตอบ องศาลอบมองทั้งคู่ผ่านกระจกแวบหนึ่ง ‘จะตอบได้ยังไงก่อนครับเจ้านาย ใครเขาสอนให้ถามผู้หญิงแบบน
บทลงโทษของเพื่อนใหม่ “ใช่ ฉันเอง” รัญดาเปลี่ยนสรรพนามที่เคยใช้แทนตัวเธอกับหญิงสาวตรงหน้าที่เธอเคยเอ็นดูเหมือนลูก เหมือนหลานคนหนึ่ง แต่มาวันนี้เด็กคนนี้กลับกำลังจะทำร้ายคนในครอบครัวเธอ “คุณน้ามาได้ยังไง...” มาร์กี้ยังคงตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่ารัญดาจะอยู่และมาที่นี่ “ทำไม? แปลกใจมากเหรอที่เห็นฉันอยู่ที่นี่” “กี้...” มาร์กี้ไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไรดีให้ฟังขึ้น จะบอกว่ามาช่วยแฟร์รี่ก็คงไม่ทัน สถานการณ์ที่แฟร์รี่ถูกจับมัดและมีเธอกับลูกน้องยืนล้อมเต็มไปหมดมันบ่งบอกว่าเธอคือ คนสั่งการ “ไม่ต้องหาคำแก้ตัวหรอก เพราะฉันได้ยินหมดแล้ว ตอนแรกก็กะว่าจะรอตามิวมาจัดการเอง แต่ได้ยินเสียงปืนเมื่อกี้ กับรอยเลือดที่ปากน้องแฟร์ ฉันคงไม่ต้องถามอะไรแล้วมั้งว่าใครเป็นคนทำ ฉันคงต้องถามว่า เธออยากจะตายแบบไหน ที่กล้ามาทำร้ายคนในครอบครัวฉัน!” รัญดาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยือกพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก ทำเอาคนฟังขนลุกไปทั่วทั้งตัว “คนในครอบครัว?” มาร์กี้ถามออกมาเบาๆ เหมือนยังไม่เชื่อหูตัวเอง “ก็คงไม่ต้องบอกว่าเป็นอะไรกับลูกชายฉัน ถึงเข้ามาเป็นคนในครอบครัวฉันได้!” “ไม่! ไม่จริงอ่ะ ไหนค
ไม่เลือกเธอ “อะไรนะคะคุณน้า คุณน้าเซ็นสัญญา กับ ยัยฟะ...เอ้ย นางแบบชื่อแฟร์รี่ ให้เป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์ RD เหรอคะ” เสียงแหลมเล็กของมาร์กี้ถามรัญดา เมื่อรู้เรื่องว่ารัญดาเปลี่ยนนางแบบเซ็นสัญญาพรีเซนเตอร์แบรนด์เสื้อผ้าที่รัญดาออกแบบเป็นแฟร์รี่คู่แข่งแทนที่จะเป็นตัวเธอ “ใช่จ้ะ หนูมาร์กี้มีปัญหาอะไรไหมจ๊ะ” รัญดาถามมาร์กี้กลับเมื่อเห็นอีกฝ่ายตกใจ คงมั่นใจว่าต้องเป็นตัวเอง ก่อนหน้านี้เธอเอ็นดูอยากได้มาเป็นลูกสะใภ้แทนแฟร์รี่ที่เธอไม่ชอบ แต่ตอนนี้เธอรู้พฤติกรรมหลายๆ อย่างของเธอจากองศา ลูกน้องคนสนิทของมิวนิคแล้ว จึงเห็นสมควรว่าเธอคนนี้ยังเด็กเกินไป ยังไม่เหมาะที่จะเป็นภรรยาของมิวนิค อีกอย่างตอนนี้เธอเองเข้าใจอะไรในตัวแฟร์รี่หมดแล้ว “เอ่อ กี้คิดว่า...” “อ่อ สำหรับหนูกี้ใช่ไหมจ๊ะ น้าให้หนูกี้ไปถ่ายให้อีกแบรนด์หนึ่ง เป็นแบรนด์ของเพื่อนน้าเอง” รัญดาบอกมาร์กี้ แล้วเตรียมจะเดินออกไป แต่มาร์กี้ไม่ต้องการแบบนั้น เธออยากถ่ายของแม่มิวนิค อยากสนิท อยากให้แม่ของเขาเชียร์เธอให้ได้ใกล้ชิดกับมิวนิค เพื่อนของพี่ชายที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่เด็กๆ “คะ...ค่ะ” มาร์กี้รับคำอย่างจำใจ ในใจแอบโกรธและเสียดายที่
ไม่ถึงบ้าน คลับ TW เสียงเพลงเปิดกระหึ่มดังทั่วทั้งคลับ ผู้คนมากมายทั้งนั่งดื่มสบายๆ ทั้งยืนเต้นโยกย้ายส่ายสะโพกเบาๆ ไปกับเสียงเพลง ท่ามกลางผู้คนมากมายไม่ว่าคนจะเยอะแค่ไหน แต่มิวนิคที่นั่งอยู่มุมหนึ่งของโต๊ะเพื่อดูแลหญิงสาวคนสำคัญทั้งสอง แม่และเมียของเขาอยู่ห่างๆ ท่ามกลางวงล้อมของคนมากมาย สาวในชุดมินิเดรสเกาะอกเกือบหลุด ชุดรัดรูปสีขาวไข่มุกเลื่อม สะท้อนแสง ผมสั้นประบ่า ลอนสวยสีน้ำตาลอ่อน รับกับใบหน้ารูปไข่ ปากนิดจมูกหน่อย แบบฉบับสาวเกาหลี แต่งตัวค่อนข้างน้อยกว่าผู้หญิงคนอื่น กลับดูเด่นมีออร่าที่สุดในคลับ หรืออาจจะเป็นเพราะเธอคือเมียเขา ตั้งแต่ได้เธอเป็นเมีย ผู้หญิงคนไหนก็ไม่เคยสวยในสายตาเขาอีกเลย “น้องแฟร์ๆ มาเต้นๆๆ ลูก” รัญดาตะโกนชวนแฟร์รี่เต้นแข่งกับเสียงเพลงที่ดังมาก “คุณน้าเต้นก่อนเลยค่ะ แฟร์ยังไม่กล้า น้องคะพี่ขอเหล้าเพิ่ม” แฟร์รี่ตอบรัญดา ก่อนหันไปสั่งเหล้าอีก เธอยังรู้สึกเขินอายที่จะเต้นเพราะคลับที่นี่ไม่เหมือนที่เกาหลี เธอจึงต้องใช้ความเมาเป็นที่เสริมความกล้าและความมั่นใจให้ตัวเอง เมื่อเริ่มมึนเมาได้ที่แล้ว แฟร์รี่ลุกขึ้นจากโต๊ะ เดินไปหารัญดาที่เต้นโยกย้ายอยู่กลางคล
คำขอโทษที่จริงใจ “ทำไมปฏิเสธเฮีย ไม่รักเฮียบ้างเหรอ ไม่สงสารกันเลยเหรอหือ?” มิวนิคเอ่ยถามพร้อมกับยกมือสองข้างกุมแก้มป่องๆ ไว้ “ยังไม่ไป ไม่ได้บอกว่าจะไม่ไปนี่คะ” แฟร์รี่พูดพร้อมกับส่งยิ้มทั้งน้ำตาให้กับเขา “ยังไม่ไป แปลว่าไม่ไปวันนี้ ไปวันอื่นเหรอ รออะไรครับ” เขาถามเสียงเพราะ ทำเอาแฟร์รี่ที่ไม่ค่อยได้ยินเกิดขนลุกขนพองทันที “แฟร์เป็นห่วงแม่” “ไม่ต้องห่วงแม่หรอกแฟร์ แม่อยู่ได้ แม่ชอบความสงบร่มเย็นที่นี่ และกำลังสนุกกับการรีโนเวทบ้านของตาทีละเล็ก ทีละน้อย” เสียงของวีณาดังขึ้นด้านหลังของคนตัวเล็ก “แต่แม่ต้องอยู่คนเดียว” แฟร์รี่พูดด้วยความเป็นห่วง “คนเดียวที่ไหน ป้าจีก็อยู่ข้างๆ บ้าน ก้อยลูกสาวป้าจีก็อยู่ด้วย ไม่ต้องห่วง” วีณาอธิบายให้ลูกสาวฟัง จะได้ไม่ต้องห่วงว่าเธอจะอยู่คนเดียว เธอมีเพื่อนบ้าน ที่เป็นเพื่อนบ้านเก่าแก่ตั้งแต่รุ่นของชัยยศ ที่เป็นพ่อของวีณา ต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด “อยู่ได้จริงๆ นะแม่” แฟร์รี่ลุกขึ้นจากเปลเดินไปจับมือทั้งสองของแม่อย่างเป็นห่วง “แม่อยู่ได้ กลับไปกับพี่เขา ไปทำหน้าที่ตัวเองให้เสร็จ ให้จบสัญญา อย่าเป็นคนที่ชอบผิดสัญญาไม่ว่าจะสัญญาเรื่องอะไรท
เด็กมีปัญหาขาดความอบอุ่น ครืดดดดด ครืดดดดด เสียงมือถือเครื่องสีดำสั่นสะเทือนกับพื้นโต๊ะทำงาน มิวนิคละสายตาจะเอกสารมองมือถือที่สั่นไม่หยุดเพราะมีสายเรียกเข้าจาก แม่ของเขา ชายหนุ่มกดรับสายทันที เพราะแม่อาจจะแจ้งเรื่องที่อยู่ของแฟร์รี่ “ฮัลโหลครับคุณหญิง” ชายหนุ่มรับสายด้วยเสียงทะเล้นอย่างอารมณ์ดี คิดว่าจะได้รับข่าวดีวันนี้ ‘เรียกแบบนี้ ฉันวางสาย!’ รัญดาตอบกลับอย่างไวไม่สบอารมณ์ “โอ๋ๆๆ ล้อเล่น” ‘เรียกแบบนั้นมันดูแก่ ไม่ชอบ’ “ล้อเล่นน่าา” ชายหนุ่มรีบโอ๋แม่ ‘จะโทรมาแจ้งข่าว เล่นแบบนี้ไม่ต้องเอาละ’ “อย่าใจร้าย ถ้าใจร้าย ง้อแฟร์ได้จะไม่ให้ไปเป็นนางแบบชุดให้นะ” มิวนิคพูดขู่แม่ของเขา เพราะตอนนี้เขารู้ว่าแม่ของเขากำลังต้องการแฟร์รี่เป็นนางแบบมาก งานที่แฟร์ถ่ายไว้ให้ คอลเล็กชั่นนั้นขายดีที่สุดกว่าคอลเล็กชั่นอื่น ‘แกอย่ามาขู่ฉัน ไม่มีสิทธิ์ต่อรอง ชีวิตแกอยู่ในมือฉันนะ ถ้าฉันไม่บอกแกจะไม่มีทางได้เจอน้องแฟร์แน่นอน’ รัญดาขู่กลับ “เคๆ เราดีกันเถอะ บอกมาๆ” มิวนิครบเร้า ‘ก็ได้ จะยอมครั้งเดียว’ “คร้าบ บอกมาสักที” ‘แฟร์รี่และแม่ของเธอตอนนี้ อยู่ที่...’ รัญดาเว้นวรรคไว้แค่น