33.ครอบครัวอบอุ่น•33•ไม่รู้ว่าช่วงชีวิตนี้ฉันเคยทำบาปกรรมอะไรมาหนักหนาสาหัสแค่ไหนกัน พอถึงช่วงเวลาสายหน่อย ดวงอาทิตย์เริ่มสว่างไสวจะเต็มที่แล้ว หลังจากพวกเราทานอะไรกันเสร็จเรียบร้อย พี่ไคโรบอกจะพากลับเพราะตกลงกันแล้ว ว่าเขาจะบินไปสู่ขอฉันอย่างเป็นทางการเองที่สำคัญฉันอยากจะรีบบินกลับไป เพื่อทำธุรกิจต่อให้มันสำเร็จด้วย รายการส่งของให้ลูกค้ายาวเป็นหางว่าว ถ้าขืนฝากยัยฟางทำแทน ฉันคงไม่อาจจะสงบใจได้ลงหรอก หรือขอร้องให้คุณพ่อทำแทนก็ไม่ใช่เรื่องอีกแต่ด้วยความที่แอบคิดไม่ดีอยู่นั้น เนื่องจากเขาเล่นมาบอกฉันช้าไปน่ะสิ เพราะได้แอบทำการวางยาสลบพรมเอาไว้ ภายในอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด เขาก็กินลงท้องอย่างเอร็ดอร่อย จนไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำยากจะเอ่ยห้ามปรามพี่เขาได้ทัน เมื่อพวกเรามาถึงบนเรือ ซึ่งพี่เขากำลังยืนไขกุญแจ เตรียมเปิดใช้งานเครื่องก็ล้มลงนอนหมดสติ นับว่าโชคยังมีอยู่ เขาได้บอกทิศทางเอาไว้ก่อนจะนอนหลับ ส่วนเรือฉันก็ขับไม่เป็นหรอกนะแต่ด้วยสมองอันชาญฉลาด พยายามจนสุดความสามารถ ฝืนขับไปยังทิศที่เขากำหนดให้ตั้งแต่แรก จึงกระเสือกกระสนมาถึงฝั่งได้สักที มีโซ่คอยยืนรอรับที่ท่าจอดเรืออยู่พอดี รู
34.ความลับกับไฟแค้น•34•ขณะระหว่างทางขากลับบ้าน จู่ๆ มีรถยนต์หลายคัน ขับมาตีวงล้อมพวกเราเอาไว้ คนขับซึ่งเป็นคนสนิทของคุณแม่คันศรได้พยายามเหยียบคันเร่งหนี แต่ไม่ว่าจะสะบัดทิ้งห่างไปไกลแค่ไหนกลับไม่พ้นกลุ่มคนหาเรื่องอยู่ดี"จอดเลย!" คุณแม่คันศรกดเสียงต่ำสั่งคนขับ พร้อมหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก ซึ่งเป็นเบอร์ฉุกเฉินหาโคล่า คนขับพอจอดลงคนพวกนั้นวิ่งล้อมรถยนต์ พร้อมยกปืนหลายกระบอกมาถือขู่"พวกเราจะทำอย่างไรดีคะคุณแม่" ทรายกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน เหงื่อไหลแตกพลั่กไม่รู้จะตั้งสติอย่างไร เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ยังไม่คุ้นชินมากพอ ตัวสั่นงันงกใบหน้าซีดเผือดลงกะทันหัน"พวกหมาลอบกัดไม่ต้องไปกลัว ถ้าแม่ยังอยู่ตรงนี้จะปกป้องหนูทรายเองลูก" คันศรกล่าวด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง เพราะสำหรับแม่คันศรเจอมาอย่างหนัก ทำได้แค่ต้องมีสติไปตกลงกับคนที่มาหาเรื่องคุณแม่เปิดประตูรถยนต์ออกมายืน พร้อมปรายหางตามองดุจนางพญา ฉันเดินตามเกาะแขนคุณแม่เอาไว้ด้วย แม้การต่อสู้ระยะประชิดตัวฉันจะติดลบหนักซึ่งเรื่องการยิงปืน พี่เขาฝึกซ้อมได้ไม่เสียเปล่า หากฉุกเฉินขึ้นมายังคงคลายวงล้อมได้บ้าง แต่พี่เขาเคยสอนว่าหากไม่จำเป็น ห้ามแสดงฝ
35.เกือบไม่รอด•35•บรรยากาศยังคงเงียบสงัดเหมือนเดิม เมื่ออีกฝ่ายโดนถามคำถามนั้นออกไป แสดงอาการเพียงหลบสายตาให้พ้นคนถาม สองมือก็ยังคงกำหมัดแน่นไม่ยอมปล่อย ฉันนั่งมองดูพวกเขาสลับไปมาอย่างมึนงง ครอบครัวเดียวกันแท้ๆ มีเรื่องบาดหมางใหญ่หลวงขนาดนี้เชียวจังหวะเดียวกันสมองก็นึกย้อนถึงเรื่องริบอาย เพราะเธอมีครอบครัวแบบนี้เองสินะ ทำให้เป็นคนขาดความอบอุ่นมากขนาดนั้น ทั้งอยากรักษาไคโรให้อยู่กับตัวเอง แถมยังไปนอนกับอิฐจนมีอะไรกันเลยเถิดความโกรธแค้นเคืองที่เคยมีต่อริบอาย เริ่มมอดไหม้พอรู้เรื่องราวที่น่าสมเพชนี้เข้า ถึงแม้ฉันจะเป็นลูกของบ้านรอง แต่พ่อก็ยังช่วยเหลือทุกอย่างเรื่องการเงิน ความรักแม้จะไม่มีเท่าฟางแต่ก็ไม่เคยน้อยใจเมื่อโตขึ้นมาท่านก็สั่งสอนหน้าที่การงานให้ ฉันอาจจะเหนื่อยเพราะต้องรับผิดชอบเยอะ แต่ท่านก็ยังยินดีจัดงานเลี้ยงฉลองให้ หลังจากที่ฉันเรียนจบการศึกษา และเห็นใจตอนฉันยามทุกข์ยากให้กับสิ่งที่เขาเคยตัดสินใจผิดพลาดไปที่ผ่านมานั้น.. เป็นฉันที่คอยปิดกั้นพ่อตัวเองเสมอมา พอถึงคราวนี้เริ่มเข้าใจอะไรได้มากขึ้นแล้ว เหมือนกำลังรู้สึกปลงตกเสียอย่างนั้น เพราะชีวิตนี้ใกล้จะรักษาเอาไว้ไม่ได้
36.ย้อนวัยเด็ก•36•หลังจากมาเยี่ยมคุณพ่อซึ่งบวชเป็นพระ ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มอายุวัย 19ปี กำลังเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยตามถนนเล็กๆ แต่ทว่าเห็นควันไฟออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากเกิน จึงรีบวิ่งไปยังสถานที่เป็นจุดเกิดเหตุ เจอกับไอ้คนลงมือจัดการ ซึ่งมีกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น"เฮ้ยทำอะไรกันอยู่วะ" โหวกเหวกโวยวายเสียงดังลั่น จนคนพวกนั้นเตรียมขับรถยนต์หนีหายไป เป็นเพราะคงกลัวความผิดที่ตนเองก่อน่ะสิ ผมวิ่งจ้ำอ้าวมาแต่ไกลจากจุดที่ตะโกน ยืนชะเง้อชะแง้ส่องภายในบ้านหลังนี้ทันทีกำลังจะล้วงลงกระเป๋ากางเกง เพื่อเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์หาสถานีตำรวจ เนื่องจากมาประเทศนี้แค่เพียงไม่กี่ครั้ง จึงไม่รู้ว่าสถานีดับเพลิงใช้เบอร์อะไร แต่ก็ได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ ทำให้หยุดชะงักตั้งใจฟัง"กรี๊ด~ ใครก็ได้ช่วยหนูด้วยค่ะ มีใครอยู่ข้างนอกไหมคะ มีคนติดอยู่ข้างในได้ยินไหมคะ" เสียงกรีดร้องลั่นบ้านราวกับตกใจกลัวมากเพราะเวลาตอนนี้มันมืดค่ำแล้ว บังเอิญบ้านเดี่ยวหลังนี้ มันตั้งตระหง่านอยู่แค่เพียงหลังเดียวเท่านั้น ทำให้ผมต้องรู้สึกร้อนใจหนักจนต้องตัดสินใจ ปีนรั้วเข้าไปภายในบ้านช่
37.เจอของที่หายไป•37•หลังโทรไปหาทางบ้านทุกคน ล้วนเตรียมตัวจะมาเยี่ยมเยียนเธอกัน เพราะยามนี้ทราย ได้คล้ายดั่งคนภายในครอบครัวไปแล้ว เธอหลับเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง ก็ลืมตาตื่นเอ่ยปากขึ้นมา"ขอน้ำหน่อยค่ะ" เสียงแหบแห้งกล่าวผมจึงรีบไปเทน้ำเปล่า รินใส่แก้วเพื่อให้เธอดื่มกินประมาณหกแก้วได้ ราวกับตัวเองเป็นต้นไม้อยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง กำลังขาดน้ำมากมายเสียอย่างนั้นแหละ"พอหรือยังครับดื่มอีกไหม" น้ำเสียงดุดันกล่าวถาม เธอส่ายศีรษะเงียบอยู่นานเหมือนมีบางสิ่ง ที่ยังอยากจะรู้แต่ไม่กล้าถามออกมาตรงๆ อาจจะเพราะความทรงจำยังไม่กลับมาน่ะสิ สุดท้ายเธอก็อ้าปากได้สักที"สองคนนั้นในนิทานเป็นอย่างไรคะ ตอนจบหนูหลับไปไม่ทันได้ฟังเลย เขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้งไหมคะ" ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวถาม"ใช่บทสรุปคือพวกเขาได้เจอกันครับ" น้ำเสียงดุดันกล่าวพร้อมฉีกยิ้มกว้างมาให้"ใครเป็นคนไปหากันก่อนเหรอคะ" ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวถามอย่างสงสัย"แน่นอนว่าเป็นสาวน้อยคนนั้นเอง เธอได้รักษาสัญญาที่เคยพูดเอาไว้น่ะสิ" น้ำเสียงดุดันกล่าวตอบ"มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ เหตุใดพี่ผู้ชายเขาถึงไม่ตามหาเธอก่อนล่ะคะ" ซุ่มเสียงไพเราะเสนา
38.สับสนไปชั่วขณะ•38•เขาทำหน้างอคอหักอย่างไม่พอใจ เพราะโดนผู้เป็นแม่กล่าวตักเตือน เนื่องจากความโมโหร้ายจากเขา มันช่างน่ากลัวมากจริงๆ"แม่ครับผมสืบมาแล้วถึงได้กล้าลงมือ แม้จะยั้งมือไม่ค่อยอยู่ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็คำนวณผลได้ผลเสียอยู่แล้ว ยอมรับว่าใจเย็นได้ทุกเรื่อง แต่เรื่องของเธอผมควบคุมไม่ได้" น้ำเสียงดุดันกล่าวแย้งแม่ตัวเองทันควัน"อย่ามาทำพูดดีไปหน่อย ลูกค้าประจำที่แลกเงินบ่อยชื่ออะไรนะ น้องของตาบิลลี่น่ะ" คันศรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง"ชื่อบูเก้ครับ" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมถอนหายใจแรง เพราะรู้ตัวว่าแม่จะต้องบ่นเรื่องนี้แน่นอน"นั่นแหละ! หึงเมียจนต้องไปยิงขาเขาเลยน่ะ แม่จึงไปเจรจากับตาบิลลี่เอง เพราะรู้ว่าลูกคงไม่มีทางขอโทษอยู่แล้ว ซึ่งแม่เองก็แค่เจรจาเพื่อรักษาลูกค้าคนนี้เอาไว้ แต่ไม่ได้ขอโทษว่าเราทำผิดอะไร แค่บอกฐานะของทรายให้คนพวกนั้นรู้อย่างชัดเจน จะได้ไม่ต้องมีเรื่องค้างคาใจกันอีก" คันศรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบปรายหางตามอง"ครับ! ผมรู้ความผิดนี้แล้วคุณหญิงคันศร ฟังผมเล่าต่อดีกว่านะครับจะออกไปไกลแล้ว" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันให้แม่ฟัง ส่วนฉัน
39.ฟังแค่เสียงหัวใจ•39•วันที่เธอโดนยาสลบผมได้แอบทำการ ให้เธอลงนามเซ็นสัญญาหย่าขาดกับไอ้สามีเวรนั่น แต่เปลี่ยนมาเซ็นสัญญาใหม่กับผมแทนครับ เพราะรู้ว่าเธอกำลังจากผมไปแล้วจริงๆ มีเพียงแค่ปล่อยมือแยกห่างกันช่วงหนึ่งแต่รั้งเธอด้วยฐานะตามเอกสารเพียงแค่แผ่นเดียว โดยที่เธอเองยังไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เหตุผลแค่ไม่อยากให้เธอ.. ต้องมาเจอกับภัยอันตรายอยากปกป้องคุ้มครองให้เธอมีชีวิตรอดได้อย่างอิสระและมีความสุข ทำอะไรมาตั้งมากขนาดนั้น แต่ก็ไม่อยากจะอธิบายหรือพูดให้เธอฟัง แกล้งแสดงเป็นคนใจร้ายเหมือนเย็นชาแต่ก็ยังควบคุมอารมณ์หึงหวงไม่ไหวช่วงหลังสิ่งที่กังวลจิตใจสุด จนไม่มีสมาธิตั้งใจทำงานได้อย่างสงบ คือเธอกำลังจากผมไปเพราะพ่อเธอขะมักเขม้นทำธุรกิจหามรุ่งหามค่ำทุกวัน แต่ยิ่งเก็บสะสมเงินมากเท่าไหร่ กลับยังไม่พอจะรวบรวมมันให้ครบ จำนวนตั้งหนึ่งหมื่นล้านผมตั้งดอกเบี้ยสูง เพียงแค่อยากยืดเวลาให้อยู่กับเธอได้นาน แต่กลายเป็นทำให้เธอต้องมารู้สึกผิดหวัง หมดความเชื่อใจคนอย่างผมอีก พ่อทรายถึงขั้นกู้ยืมเงินจากแก๊งสิงโตเพื่อซื้ออิสระลูกคืนกลับไปดังเดิม คุณดนัยปรารถนาอยากช่วยทรายจริงๆตอนนั้นผมแค่อยากรู้สายสัมพันธ
40.ขอแต่งงานอย่างจริงใจ•40•ศิลาพอยืนทรงตัวได้แล้ว เขาก็เอื้อมฝ่ามือหนามาจับฝ่ามือเล็ก ไปกอบกุมลูบละไล้เบาๆ ราวกับคิดถึงกันมากเสียอย่างนั้น ก่อนจะพูดคล้ายเป็นห่วงใยอีกด้วย ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ สถานการณ์บีบบังคับกันเช่นนี้ ฉันก็ไม่รู้จะเอาตัวรอดอย่างไรดีเหมือนกันนะเนี่ย เฮ้อ~"คุณเป็นอย่างไรบ้างเหรอครับ ผมด่ากราดไล่ลูกน้องออกตามหาคุณไปทั่วเมืองเลยนะ สุดท้ายมารู้ข่าวทีหลังว่าคุณแม่ผม.. เขาแอบลักพาตัวคุณไปเองผมขอโทษด้วย พวกเรายังคบกันอยู่เหมือนเดิมใช่ไหมครับ" ศิลากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมพร้อมฉีกยิ้มกว้าง เนื่องจากเห็นเธอปลอดภัยดีแล้ว อยากไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลไอ้ไคโรก็กันท่าไม่ให้เจอ แต่ก็ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีแต่ทวงคำตอบคนสวยตรงหน้า เพราะใจรู้สึกชอบเธอมากจนไม่อยากให้เธอไปเป็นของใครทั้งนั้น"ขอโทษด้วยนะคะฉันมีคนรักอยู่แล้ว จริงๆ ตอนนั้นฉันเคยคิดจะเปิดใจให้คุณอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะแต่งงานแล้วค่ะ" ทรายกล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู รีบก้มลงมองพื้นถนนหัวคิ้วผูกชนกันทันที แกล้งโกหกเพื่อรักษาน้ำใจ รู้ว่าไม่สมควรทำอย่างนี้มันไม่ดี แต่หากพูดว่าฉันหลอกใช้เขาคงจะได้มีเรื่องขุ่นเคือ
- ตอนพิเศษ -เข้าสู่ปีที่ 5 หลังจากแต่งงานกันพวกเราทั้งคู่ มีบุตรกันแล้วห้าคน ฉันเฝ้ารอคนที่หกอยู่ไม่รู้จะมาตอนไหน โคล่าและแคนดี้ชอบมาอวดประจำ ทำให้ต้องขยันผลิตลูกตามเลยทีนี้ แต่กลัวสุดตรงประสิทธิภาพรังไข่มากกว่า อายุยิ่งเลยเลขสามมาไกลโพ้นฉันกังวลจริงๆ มัวเสียเวลาตีกับพี่ไคโรเกือบ 7ปีเต็ม คนที่หกวันนี้ต้องเข้าแล้วแหละตอนนี้ฉันสวมชุดแม่บ้านสุดเซ็กซี่เพื่อยั่วยวนพี่เขาโดยเฉพาะ เนื่องจากลูกหลับกันหมดแล้วเวลาสะดวกช่างหาได้ยากยิ่งกว่าอะไรดี สองขาเรียวเล็กย่างก้าว เข้ามาสู่หน้าห้องออกกำลังกายด้วยความเร็วเป้าหมายชอบมาออกกำลังกาย หลังจากเล่นกับลูกและจัดการเอกสารจนเรียบร้อย ฉันค่อยๆ เอื้อมมือแตะลูกบิดประตูหมุนเปิดเข้าไป พร้อมกดลงกลอนเพื่อไม่ให้ใครมาก่อกวน ส่วนพวกเด็กน้อยมีพี่เลี้ยงคอยนอนเป็นเพื่อน ทุกสิ่งอย่างเป็นใจไปหมดเหลือแค่คนเท่านั้นกวาดสายมองหาคุณพ่อสุดหล่อ เขายังคงนอนบนม้านั่งยกน้ำหนักซึ่งมีคานให้วางบาร์เบลได้ เขาชอบเล่นท่าทางฉบับ Bench Press ท่าทางนี้จะเป็นการออกแรงในส่วนของ กล้ามเนื้อหน้าอกซึ่งจะเป็นมัดหลักและส่วนของมัดรองหรือมัดที่ใช้สนับสนุน จะเป็นส่วนของกล้ามเนื้อหัวไหล่และตรงหล
40.ขอแต่งงานอย่างจริงใจ•40•ศิลาพอยืนทรงตัวได้แล้ว เขาก็เอื้อมฝ่ามือหนามาจับฝ่ามือเล็ก ไปกอบกุมลูบละไล้เบาๆ ราวกับคิดถึงกันมากเสียอย่างนั้น ก่อนจะพูดคล้ายเป็นห่วงใยอีกด้วย ได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ สถานการณ์บีบบังคับกันเช่นนี้ ฉันก็ไม่รู้จะเอาตัวรอดอย่างไรดีเหมือนกันนะเนี่ย เฮ้อ~"คุณเป็นอย่างไรบ้างเหรอครับ ผมด่ากราดไล่ลูกน้องออกตามหาคุณไปทั่วเมืองเลยนะ สุดท้ายมารู้ข่าวทีหลังว่าคุณแม่ผม.. เขาแอบลักพาตัวคุณไปเองผมขอโทษด้วย พวกเรายังคบกันอยู่เหมือนเดิมใช่ไหมครับ" ศิลากล่าวถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมพร้อมฉีกยิ้มกว้าง เนื่องจากเห็นเธอปลอดภัยดีแล้ว อยากไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลไอ้ไคโรก็กันท่าไม่ให้เจอ แต่ก็ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีแต่ทวงคำตอบคนสวยตรงหน้า เพราะใจรู้สึกชอบเธอมากจนไม่อยากให้เธอไปเป็นของใครทั้งนั้น"ขอโทษด้วยนะคะฉันมีคนรักอยู่แล้ว จริงๆ ตอนนั้นฉันเคยคิดจะเปิดใจให้คุณอยู่ค่ะ แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะแต่งงานแล้วค่ะ" ทรายกล่าวด้วยซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหู รีบก้มลงมองพื้นถนนหัวคิ้วผูกชนกันทันที แกล้งโกหกเพื่อรักษาน้ำใจ รู้ว่าไม่สมควรทำอย่างนี้มันไม่ดี แต่หากพูดว่าฉันหลอกใช้เขาคงจะได้มีเรื่องขุ่นเคือ
39.ฟังแค่เสียงหัวใจ•39•วันที่เธอโดนยาสลบผมได้แอบทำการ ให้เธอลงนามเซ็นสัญญาหย่าขาดกับไอ้สามีเวรนั่น แต่เปลี่ยนมาเซ็นสัญญาใหม่กับผมแทนครับ เพราะรู้ว่าเธอกำลังจากผมไปแล้วจริงๆ มีเพียงแค่ปล่อยมือแยกห่างกันช่วงหนึ่งแต่รั้งเธอด้วยฐานะตามเอกสารเพียงแค่แผ่นเดียว โดยที่เธอเองยังไม่ทันรู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เหตุผลแค่ไม่อยากให้เธอ.. ต้องมาเจอกับภัยอันตรายอยากปกป้องคุ้มครองให้เธอมีชีวิตรอดได้อย่างอิสระและมีความสุข ทำอะไรมาตั้งมากขนาดนั้น แต่ก็ไม่อยากจะอธิบายหรือพูดให้เธอฟัง แกล้งแสดงเป็นคนใจร้ายเหมือนเย็นชาแต่ก็ยังควบคุมอารมณ์หึงหวงไม่ไหวช่วงหลังสิ่งที่กังวลจิตใจสุด จนไม่มีสมาธิตั้งใจทำงานได้อย่างสงบ คือเธอกำลังจากผมไปเพราะพ่อเธอขะมักเขม้นทำธุรกิจหามรุ่งหามค่ำทุกวัน แต่ยิ่งเก็บสะสมเงินมากเท่าไหร่ กลับยังไม่พอจะรวบรวมมันให้ครบ จำนวนตั้งหนึ่งหมื่นล้านผมตั้งดอกเบี้ยสูง เพียงแค่อยากยืดเวลาให้อยู่กับเธอได้นาน แต่กลายเป็นทำให้เธอต้องมารู้สึกผิดหวัง หมดความเชื่อใจคนอย่างผมอีก พ่อทรายถึงขั้นกู้ยืมเงินจากแก๊งสิงโตเพื่อซื้ออิสระลูกคืนกลับไปดังเดิม คุณดนัยปรารถนาอยากช่วยทรายจริงๆตอนนั้นผมแค่อยากรู้สายสัมพันธ
38.สับสนไปชั่วขณะ•38•เขาทำหน้างอคอหักอย่างไม่พอใจ เพราะโดนผู้เป็นแม่กล่าวตักเตือน เนื่องจากความโมโหร้ายจากเขา มันช่างน่ากลัวมากจริงๆ"แม่ครับผมสืบมาแล้วถึงได้กล้าลงมือ แม้จะยั้งมือไม่ค่อยอยู่ก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็คำนวณผลได้ผลเสียอยู่แล้ว ยอมรับว่าใจเย็นได้ทุกเรื่อง แต่เรื่องของเธอผมควบคุมไม่ได้" น้ำเสียงดุดันกล่าวแย้งแม่ตัวเองทันควัน"อย่ามาทำพูดดีไปหน่อย ลูกค้าประจำที่แลกเงินบ่อยชื่ออะไรนะ น้องของตาบิลลี่น่ะ" คันศรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง"ชื่อบูเก้ครับ" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันพร้อมถอนหายใจแรง เพราะรู้ตัวว่าแม่จะต้องบ่นเรื่องนี้แน่นอน"นั่นแหละ! หึงเมียจนต้องไปยิงขาเขาเลยน่ะ แม่จึงไปเจรจากับตาบิลลี่เอง เพราะรู้ว่าลูกคงไม่มีทางขอโทษอยู่แล้ว ซึ่งแม่เองก็แค่เจรจาเพื่อรักษาลูกค้าคนนี้เอาไว้ แต่ไม่ได้ขอโทษว่าเราทำผิดอะไร แค่บอกฐานะของทรายให้คนพวกนั้นรู้อย่างชัดเจน จะได้ไม่ต้องมีเรื่องค้างคาใจกันอีก" คันศรกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบปรายหางตามอง"ครับ! ผมรู้ความผิดนี้แล้วคุณหญิงคันศร ฟังผมเล่าต่อดีกว่านะครับจะออกไปไกลแล้ว" ไคโรกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันให้แม่ฟัง ส่วนฉัน
37.เจอของที่หายไป•37•หลังโทรไปหาทางบ้านทุกคน ล้วนเตรียมตัวจะมาเยี่ยมเยียนเธอกัน เพราะยามนี้ทราย ได้คล้ายดั่งคนภายในครอบครัวไปแล้ว เธอหลับเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง ก็ลืมตาตื่นเอ่ยปากขึ้นมา"ขอน้ำหน่อยค่ะ" เสียงแหบแห้งกล่าวผมจึงรีบไปเทน้ำเปล่า รินใส่แก้วเพื่อให้เธอดื่มกินประมาณหกแก้วได้ ราวกับตัวเองเป็นต้นไม้อยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง กำลังขาดน้ำมากมายเสียอย่างนั้นแหละ"พอหรือยังครับดื่มอีกไหม" น้ำเสียงดุดันกล่าวถาม เธอส่ายศีรษะเงียบอยู่นานเหมือนมีบางสิ่ง ที่ยังอยากจะรู้แต่ไม่กล้าถามออกมาตรงๆ อาจจะเพราะความทรงจำยังไม่กลับมาน่ะสิ สุดท้ายเธอก็อ้าปากได้สักที"สองคนนั้นในนิทานเป็นอย่างไรคะ ตอนจบหนูหลับไปไม่ทันได้ฟังเลย เขาได้กลับมาเจอกันอีกครั้งไหมคะ" ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวถาม"ใช่บทสรุปคือพวกเขาได้เจอกันครับ" น้ำเสียงดุดันกล่าวพร้อมฉีกยิ้มกว้างมาให้"ใครเป็นคนไปหากันก่อนเหรอคะ" ซุ่มเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวถามอย่างสงสัย"แน่นอนว่าเป็นสาวน้อยคนนั้นเอง เธอได้รักษาสัญญาที่เคยพูดเอาไว้น่ะสิ" น้ำเสียงดุดันกล่าวตอบ"มันเป็นเพราะอะไรกันแน่ เหตุใดพี่ผู้ชายเขาถึงไม่ตามหาเธอก่อนล่ะคะ" ซุ่มเสียงไพเราะเสนา
36.ย้อนวัยเด็ก•36•หลังจากมาเยี่ยมคุณพ่อซึ่งบวชเป็นพระ ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ชายหนุ่มอายุวัย 19ปี กำลังเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อยตามถนนเล็กๆ แต่ทว่าเห็นควันไฟออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง ด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากเกิน จึงรีบวิ่งไปยังสถานที่เป็นจุดเกิดเหตุ เจอกับไอ้คนลงมือจัดการ ซึ่งมีกันอยู่แค่สองคนเท่านั้น"เฮ้ยทำอะไรกันอยู่วะ" โหวกเหวกโวยวายเสียงดังลั่น จนคนพวกนั้นเตรียมขับรถยนต์หนีหายไป เป็นเพราะคงกลัวความผิดที่ตนเองก่อน่ะสิ ผมวิ่งจ้ำอ้าวมาแต่ไกลจากจุดที่ตะโกน ยืนชะเง้อชะแง้ส่องภายในบ้านหลังนี้ทันทีกำลังจะล้วงลงกระเป๋ากางเกง เพื่อเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์หาสถานีตำรวจ เนื่องจากมาประเทศนี้แค่เพียงไม่กี่ครั้ง จึงไม่รู้ว่าสถานีดับเพลิงใช้เบอร์อะไร แต่ก็ได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ ทำให้หยุดชะงักตั้งใจฟัง"กรี๊ด~ ใครก็ได้ช่วยหนูด้วยค่ะ มีใครอยู่ข้างนอกไหมคะ มีคนติดอยู่ข้างในได้ยินไหมคะ" เสียงกรีดร้องลั่นบ้านราวกับตกใจกลัวมากเพราะเวลาตอนนี้มันมืดค่ำแล้ว บังเอิญบ้านเดี่ยวหลังนี้ มันตั้งตระหง่านอยู่แค่เพียงหลังเดียวเท่านั้น ทำให้ผมต้องรู้สึกร้อนใจหนักจนต้องตัดสินใจ ปีนรั้วเข้าไปภายในบ้านช่
35.เกือบไม่รอด•35•บรรยากาศยังคงเงียบสงัดเหมือนเดิม เมื่ออีกฝ่ายโดนถามคำถามนั้นออกไป แสดงอาการเพียงหลบสายตาให้พ้นคนถาม สองมือก็ยังคงกำหมัดแน่นไม่ยอมปล่อย ฉันนั่งมองดูพวกเขาสลับไปมาอย่างมึนงง ครอบครัวเดียวกันแท้ๆ มีเรื่องบาดหมางใหญ่หลวงขนาดนี้เชียวจังหวะเดียวกันสมองก็นึกย้อนถึงเรื่องริบอาย เพราะเธอมีครอบครัวแบบนี้เองสินะ ทำให้เป็นคนขาดความอบอุ่นมากขนาดนั้น ทั้งอยากรักษาไคโรให้อยู่กับตัวเอง แถมยังไปนอนกับอิฐจนมีอะไรกันเลยเถิดความโกรธแค้นเคืองที่เคยมีต่อริบอาย เริ่มมอดไหม้พอรู้เรื่องราวที่น่าสมเพชนี้เข้า ถึงแม้ฉันจะเป็นลูกของบ้านรอง แต่พ่อก็ยังช่วยเหลือทุกอย่างเรื่องการเงิน ความรักแม้จะไม่มีเท่าฟางแต่ก็ไม่เคยน้อยใจเมื่อโตขึ้นมาท่านก็สั่งสอนหน้าที่การงานให้ ฉันอาจจะเหนื่อยเพราะต้องรับผิดชอบเยอะ แต่ท่านก็ยังยินดีจัดงานเลี้ยงฉลองให้ หลังจากที่ฉันเรียนจบการศึกษา และเห็นใจตอนฉันยามทุกข์ยากให้กับสิ่งที่เขาเคยตัดสินใจผิดพลาดไปที่ผ่านมานั้น.. เป็นฉันที่คอยปิดกั้นพ่อตัวเองเสมอมา พอถึงคราวนี้เริ่มเข้าใจอะไรได้มากขึ้นแล้ว เหมือนกำลังรู้สึกปลงตกเสียอย่างนั้น เพราะชีวิตนี้ใกล้จะรักษาเอาไว้ไม่ได้
34.ความลับกับไฟแค้น•34•ขณะระหว่างทางขากลับบ้าน จู่ๆ มีรถยนต์หลายคัน ขับมาตีวงล้อมพวกเราเอาไว้ คนขับซึ่งเป็นคนสนิทของคุณแม่คันศรได้พยายามเหยียบคันเร่งหนี แต่ไม่ว่าจะสะบัดทิ้งห่างไปไกลแค่ไหนกลับไม่พ้นกลุ่มคนหาเรื่องอยู่ดี"จอดเลย!" คุณแม่คันศรกดเสียงต่ำสั่งคนขับ พร้อมหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก ซึ่งเป็นเบอร์ฉุกเฉินหาโคล่า คนขับพอจอดลงคนพวกนั้นวิ่งล้อมรถยนต์ พร้อมยกปืนหลายกระบอกมาถือขู่"พวกเราจะทำอย่างไรดีคะคุณแม่" ทรายกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน เหงื่อไหลแตกพลั่กไม่รู้จะตั้งสติอย่างไร เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ยังไม่คุ้นชินมากพอ ตัวสั่นงันงกใบหน้าซีดเผือดลงกะทันหัน"พวกหมาลอบกัดไม่ต้องไปกลัว ถ้าแม่ยังอยู่ตรงนี้จะปกป้องหนูทรายเองลูก" คันศรกล่าวด้วยน้ำเสียงเอาจริงเอาจัง เพราะสำหรับแม่คันศรเจอมาอย่างหนัก ทำได้แค่ต้องมีสติไปตกลงกับคนที่มาหาเรื่องคุณแม่เปิดประตูรถยนต์ออกมายืน พร้อมปรายหางตามองดุจนางพญา ฉันเดินตามเกาะแขนคุณแม่เอาไว้ด้วย แม้การต่อสู้ระยะประชิดตัวฉันจะติดลบหนักซึ่งเรื่องการยิงปืน พี่เขาฝึกซ้อมได้ไม่เสียเปล่า หากฉุกเฉินขึ้นมายังคงคลายวงล้อมได้บ้าง แต่พี่เขาเคยสอนว่าหากไม่จำเป็น ห้ามแสดงฝ
33.ครอบครัวอบอุ่น•33•ไม่รู้ว่าช่วงชีวิตนี้ฉันเคยทำบาปกรรมอะไรมาหนักหนาสาหัสแค่ไหนกัน พอถึงช่วงเวลาสายหน่อย ดวงอาทิตย์เริ่มสว่างไสวจะเต็มที่แล้ว หลังจากพวกเราทานอะไรกันเสร็จเรียบร้อย พี่ไคโรบอกจะพากลับเพราะตกลงกันแล้ว ว่าเขาจะบินไปสู่ขอฉันอย่างเป็นทางการเองที่สำคัญฉันอยากจะรีบบินกลับไป เพื่อทำธุรกิจต่อให้มันสำเร็จด้วย รายการส่งของให้ลูกค้ายาวเป็นหางว่าว ถ้าขืนฝากยัยฟางทำแทน ฉันคงไม่อาจจะสงบใจได้ลงหรอก หรือขอร้องให้คุณพ่อทำแทนก็ไม่ใช่เรื่องอีกแต่ด้วยความที่แอบคิดไม่ดีอยู่นั้น เนื่องจากเขาเล่นมาบอกฉันช้าไปน่ะสิ เพราะได้แอบทำการวางยาสลบพรมเอาไว้ ภายในอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด เขาก็กินลงท้องอย่างเอร็ดอร่อย จนไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำยากจะเอ่ยห้ามปรามพี่เขาได้ทัน เมื่อพวกเรามาถึงบนเรือ ซึ่งพี่เขากำลังยืนไขกุญแจ เตรียมเปิดใช้งานเครื่องก็ล้มลงนอนหมดสติ นับว่าโชคยังมีอยู่ เขาได้บอกทิศทางเอาไว้ก่อนจะนอนหลับ ส่วนเรือฉันก็ขับไม่เป็นหรอกนะแต่ด้วยสมองอันชาญฉลาด พยายามจนสุดความสามารถ ฝืนขับไปยังทิศที่เขากำหนดให้ตั้งแต่แรก จึงกระเสือกกระสนมาถึงฝั่งได้สักที มีโซ่คอยยืนรอรับที่ท่าจอดเรืออยู่พอดี รู