ลิลินสูดหายใจเข้าลึกๆเรียกขวัญกำลังใจ ก่อนจะตัดสินใจเดินไปหยุดที่ประตูห้องแรกและกดกริ่งกริ่ง กริ่ง~แอด..... แต่เมื่อประตูเปิดออกมาเท่านั้นแหละ เธอก็ต้องพบกับความงุนงงเป็นสองเท่าเพราะห้องนั้นมีผู้หญิงคนนึงเปิดประตูออกมา พร้อมกระดาษโปสเตอร์ที่เขียนว่า ..."Will""เอ่อ ขอโทษนะคะ คือฉันอยากขอเบอร์นิติคอนโดหน่อย"ผู้หญิงในห้องฉีกยิ้ม ก่อนจะชี้ให้ลิลินมองไปที่ห้องตรงข้ามแทนและแน่นอนเมื่อเธอหันตาม ประตูห้องตรงข้ามก็เปิดออกมาพร้อมกับผู้ชายคนนึงที่ถือโปสเตอร์เขียนว่า.."You""คืออะไรคะ?" หญิงสาวงุนงง ทุกคนเล่นบ้าอะไร?! ไฟดับอยู่นะและเมื่อเธอหันมองสองห้องสลับไปมา สักพัก.. ไฟคอนโดก็ติดพรึบ!ขึ้นมาสว่างจ้าทั้งทางเดินก่อนที่ประตูห้องข้างหน้า..ข้างหน้า มันจะทยอยเปิดออกทีละห้อง พร้อมกับคนที่ถือโปสเตอร์เขียนว่า "Marry"และ..."Me"เจ้าของคำสุดท้ายลดกระดาษโปสเตอร์ลงยิ้มจนตาหยี และเมื่อเห็นใบหน้าเจ้าของคำว่า "Me" ลิลินก็ตื้นตันใจจนน้ำตาไหลออกมาเธอก้าวเดินไปที่ทางเดินช้าๆ อ่านคำว่า "Will You Marry Me" ทีละคำๆ จนไปหยุดหน้าหมอณภัทรและเงยขึ้นมองหน้าเขา.."Me..คนนี้เหรอคะ ที่ขอฉันแต่งงาน ฮึกๆ^^" ทั
"อุแหวะ..."แค่รู้สึกตัวว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ ลิลินก็ลุกขึ้นมาอ้วกเอาสิ่งที่พะอืดพะอมในคอออกทันที ก่อนที่จะล้มตัวลงไปนอนอีกครั้ง และสูดหายใจเข้าลึกๆ ลึกๆจนเปิดตาตื่นขึ้นมาพรึบ!"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด""ลิลินจะกรี๊ดทำไม!""แล้วทุกคนจะมาจ้องหน้าลินทำไม!!>[]หญิงสาวหยัดลุก และมองทุกคนที่ยืนจ้องเป็นตาเดียว เธอทั้งตกใจ ทั้งงง มาได้ไง? ใครเชิญ? แล้วทำไมต้องมายืนจ้องครบทีมซะขนาดนี้"ก็ลินเป็นลมน่ะลูก^^" มาม๊าตอบยิ้มๆ "ลินเป็นลมแล้วไงคะ ไม่เห็นต้องมาเลย มันขัดจังหวะ วันนี้หมอณภัทรขอลินแต่งงาน ลินต้องการอยู่กับเขาแค่สองคน!"ทุกคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก สำหรับลิลินผู้ชายที่หนึ่งยังไง..ก็อย่างงั้น และเธอเองก็พึ่งถูกขอแต่งงาน ควรได้สวีทหวานกับหมอณภัทรสิ ญาติโกโหติกาจะมาที่นี่ทำไม! "แต่พวกเรามาแสดงความยินดีนะ นี่..ลิน มีอะไรจะบอกพวกเรารึป่าว" มาม๊าพยายามถามหญิงสาว และลูบเบาๆที่แขนของเธอจนตอนนี้...ลิลินไล่มองทุกคนที่ยืนอยู่ทีละคน..ทีละคน จนไปมองที่ปลายฝนที่ก้มหน้าก้มตา และข้างๆเธอก็คือหมอณภัทร ที่ยืนพิงกระจกฉีกยิ้ม และถือซองยาอะไรบางอย่างอยู่แต่เอ๊ะ..ยา?!!"หมอ...นั่น ยะ..ยาใคร?O_O"และแล้ว..
ซีอีโอหนุ่มพยักหน้าเบาๆยอมรับ เขาเข้าใจ..ว่าเรื่องบางเรื่องมันก็ต้องลุ้นกันบ้าง และเมื่อตกลงกันเสร็จสรรพ ผู้ไม่พลาดโอกาสทอง ก็หลอกล่อปลายฝนไปอาบน้ำ ก่อนจะทำกิจกรรมอย่างว่าและคลอเคลียเธออยู่นาน ตั้งแต่ห้องน้ำ..ยันเตียงนอน"พอแล้ว ถ้าฉันท้อง..มันไม่ดีกับเด็กนะคะ>\\\ปลายฝนดันอกกว้างลงไปนอนอีกครั้ง เมื่อซีอีโอหนุ่มเสร็จสมเป็นรอบที่สอง และทำท่าจะโน้มลงมาจัดการเธออีกแต่ติณห์นอนลงไม่ทันไร เขาก็หยัดตัวลุกขึ้นมาทันทีก่อนที่จะไล่ระดมจูบตามแก้ม ตามริมฝีปากของปลายฝน"อื้อ~~ คุณติณห์""ขออีกนะ""อื้อ~ ไม่เอาค่ะ ฉันไม่ไหวแล้ว...เพลีย""ก็อยู่เฉยๆไง ฉันทำเอง" ปลายฝนเบือนหน้าหลบ แล้วอมยิ้ม เพราะตอนนี้สู้แรงและฤทธิ์หื่นกระหายของติณห์ไม่ไหวเพราะเขาทั้งพร่ำอ้อนวอนทั้งซุกไซร้ คลอเคลียปลายจมูกซ้ายทีขวาทีไปตามซอกคอของเธอจนตอนนี้หญิงสาวที่หมดแรงขัดขืน..ต้องสมยอมเขาเป็นครั้งที่สามของค่ำคืนนี้ปลายฝนโอบกอดร่างโตที่ขยับเขยื้อนทันที ก่อนที่จะลูบไล้ตามแผ่นหลังของเขาไปด้วยเพราะใจจริง..เธอก็อยากโอบกอดติณห์ อยากเสพสมกับความสุขนี้นานๆ ปลายฝนจึงเชิดหน้ารับความวาบหวามนั้นอีกครั้ง ปล่อยให้สองมือที่ลูบคลำ..สำรว
"ไม่เห็นหน้าเห็นตานานเลยนะ-_-"ทันทีที่ติณห์ลงจากรถสปอร์ตคันหรู อดีตแพทย์หญิงแม่ของเขา ก็เดินกอดอกออกจากบ้านมาทักทาย ซึ่งตอนนี้รถตู้อาลพาสสีดำสามคันและคนขับรถ กำลังสแตนบายรอเขาอยู่คนเดียว"ผมแค่อยากมีเวลาส่วนตัว -_-" ติณห์ตอบเรียบๆ และไม่ยอมสบตาแม่ของเขา"ทำไมต้องทำหน้าตึงใส่แม่ ที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะตัวเองทั้งนั้น ติณห์ต้องบริหารคนตั้งกี่คน แต่เที่ยววิ่งตามผู้หญิงไม่รับผิดชอบงาน จำไว้นะ..แม่พูดคำไหนคำนั้น ถึงติณห์จะประชดแม่...แม่ก็ไม่ใจอ่อนหรอก""ผมรู้ครับและผมก็ไม่ได้ประชด ผมก็มาแล้ว..มาทำตามคำสั่งแม่ทุกอย่าง เราจะไปกันเมื่อไหร่? ใครจะไปกับผมบ้าง""พ่อจะไปส่ง ส่วนอันติง.." แม่ของติณห์เว้นช่วง และหันไปมองสาวร่างเล็ก ที่เดินถือกระเป๋าเป้ออกมาพอดีจนเธอตอบว่า.."อันติงไม่ไปค่ะ ไม่ว่าง พี่ติณห์ไปกับพ่อเถอะ ฝากหอมแก้มคุณปู่คุณย่าด้วยนะ""ฝากอย่างอื่นไม่ได้รึไง?" ซีอีโอหนุ่มถามน้องสาว ที่ตอนนี้เธอเดินไปใส่รองเท้าผ้าใบแล้ว จนรายนั้นหันกลับมายิ้มแฉ่ง และตอบเขาว่า.."งั้นฝากขอตังค์ค่ะ ขอมาให้ได้นะคะ!^^""อืมโอเค แต่ทำไมพักนี้ดูอ้วนขึ้น? ได้ออกกำลังกายบ้างรึป่าวอันติง?"เท่านั้นแหละ..หญิงส
อันติงมองปลายฝน และมองลิลิน มองจนไปหยุดจ้องที่สมุดสีชมพูที่ปลายฝนถือออกมาด้วยและเธอก็เงยขึ้นถามด้วยความตกใจว่า.."นะ..นี่พี่ปลายฝนท้องเหรอคะ?O_O"ปลายฝนพยักหน้าช้าๆ เธอไม่กลัวว่าอันติงจะเอาเรื่องนี้ไปบอกใครสักนิด เพราะสิ่งที่สงสัยมันมากกว่านั้นอีก และลิลินที่รู้ทุกอย่าง ก็ได้แต่ยืนกอดอกมองอันติง เพราะถามเสร็จรายนั้นเลิ่กลั่ก ไม่ยอมสบตาใครเลย"ทำไมลีอองไม่มาด้วย-_-" ลิลินถาม และนั่นมันก็ทำให้ปลายฝนที่ไม่รู้เรื่องราว หันขวับมองหน้าลิลินทันทีอันติงกับลีอองมีอะไรกันหรอ?ทำไมลิลินถึงถามแบบนั้น?"หนูไม่อยากรบกวนเขาหน่ะค่ะ""แต่มันเป็นพ่อเด็ก!"O_O ว่าที่พี่สะใภ้ตาเบิกกว้าง ในขณะที่หญิงสาวที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกตรงหน้า กำลังเงยขึ้นจ้องเธออันติงมองปลายฝนตาละห้อย ใจที่มันเต้นรัวกลัวความลับเเตก ตอนนี้มันเต้นแรงมากกว่าเดิม เธอไม่อยากให้พี่สะใภ้เอาเรื่องนี้ไปบอกกับพี่ชายของเธอเลยไม่งั้นเธอต้องตายแน่ๆ "พี่ปลายฝนอย่าบอกพี่ติณห์นะคะ อันติงขอ เดี๋ยวอันติงจัดการเรื่องนี้เอง""แต่อันติงท้องนะ...ท้องมันก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บอกเถอะค่ะ อย่าเก็บไว้คนเดียวเลย""อันติงบอกแน่นอนค่ะ แต่อันติงขอจัดการเรื่องน
"หนูหมายถึง...ให้ติณห์กลับมาจากราชบุรีก่อนกำหนดเหรอ?"แม่ของติณห์ถาม แล้วรีบดึงสมุดสีชมพูจากมือพ่อมาดูด้วยเพราะท่านเอง ก็ตื่นเต้นที่จะมีหลานตัวน้อยเช่นกัน แต่ที่เงียบขรึมนั้น..แค่หมั่นไส้ลูกชายที่ทำอะไรไม่ถูกไม่ควร"ค่ะ..ถ้าแบบนั้น จะเป็นการรบกวนคุณพ่อคุณแม่เกินไปมั้ยคะ ถ้าไม่ได้..เอ่อไม่เป็นไรค่ะ^^""ได้สิ ได้...หนูจะไปตามกลับเองใช่มั้ย แม่จะได้จัดการเรื่องรถ ไม่ก็ให้คนขับรถที่บ้านไปส่ง"เมื่อเป็นไปตามหวัง..ปลายฝนก็ยิ้มกว้างออกมาทันที ก่อนที่เธอจะรีบตอบตกลง และยกมือไหว้ขอบคุณพ่อแม่ของติณห์ สุดท้ายแม่ก็ใจดีอย่างที่ลิลินพูด เพราะหลังจากบอกเรื่องหลานและท่านรู้ความต้องการของปลายฝนปุ๊บ พ่อกับแม่ติณห์..ก็ยอมตามใจว่าที่ลูกสะใภ้ เข้าอกเข้าใจเธอทุกอย่างท่านให้คนตามดูแลปลายฝนไปส่งถึงบ้าน แถมยังจัดการเรื่องรถ และหาคนขับที่ดีที่สุดพาปลายฝนไปราชบุรีด้วยจนวันต่อมา..หลังปลายฝนจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ เธอก็กลับบ้านมาจัดกระเป๋า และเตรียมตัวออกเดินทางที่บ้าน"ไปราชบุรีเหรอปลายฝน ไปทำไมลูก? ลิลินไปด้วยรึป่าว"แม่บุญธรรมเดินมาถามตกใจ เพราะปลายฝนพึ่งบอกท่านปุบปับไม่ทันข้ามวัน เธอก็ลากกระเป๋าออกมาจัดซะ
"หยุดก็ได้ค่ะ อิอิ..ว่าแต่จะพาฉันไปปั่นจักรยานเที่ยวที่ไหนคะ^^?"ปลายฝนถาม แล้วเดินไปยืนข้างหลังเตรียมซ้อน ซึ่งเธอก็แอบกังวลนิดหน่อย กับฝีมือการปั่นจักรยานของติณห์แต่คงไม่เป็นไรหรอก ไหนๆมาทั้งที โอกาสรื่นรมย์แบบนี้มันก็มีไม่มาก ถ้าได้ซ้อนจักรยานซีอีโอเที่ยวชมท้องนาและสวนผัก มันคงโรแมนติกไม่น้อย"ฉันจะพาไปฆ่า โทษฐานที่หัวเราะเยาะฉัน-_-"แต่ดูเขาประชดสิ... "ใจร้ายจัง ไหนบอกว่าจะไม่ใจร้ายกับฉันแล้วไงคะ?^^""หึช่างเถอะ เธอขึ้นสิ...ขึ้นได้มั้ย?"เมื่อติณห์ขึ้นประจำการจักรยานตระกร้าสานคู่ใจ เขาก็หันเอี้ยวไปจับแขนปลายฝน ขึ้นเบี่ยงซ้อนท้ายตัวเอง ฉากหนุ่มสาวซ้อนจักรยานเซซ้ายทีขวาที บอกเลยว่ามันทำคุณย่ากับคุณปู่มองตามตาละห้อย ก็ท่านอดเป็นห่วงเหลนตัวน้อยๆในท้องปลายฝนไม่ได้น่ะสิ!ติณห์ปั่นจักรยานเก่งที่ไหน ขนาดไปสวนใกล้ๆเขายังล้มและตกคลอง ถ้ามีคนซ้อนท้ายล่ะ...ไม่อยากจะนึก...!!"ติณห์ ปั่นดีๆนะลูก ถ้าหนูปลายฝนมีรอยช้ำกลับมา ย่าจะตี!"คุณย่าตะโกนตามหลัง เมื่อซีอีโอหนุ่มออกแรงปั่นจักรยานออกไปไกลเรื่อยๆ บรรยากาศยามเย็น..แสงสีส้มกลิ่นดินและกลิ่นสวนนาไร่ มันคลุ้งรอบๆกายทำให้ปลายฝนชื่นใจเป็นอย่างม
มื้อค่ำกับคุณปู่คุณย่าอบอุ่นกว่าที่คิด..ถึงแม้คนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองแพ้ท้องแทนเมียอย่างติณห์จะอ้วกแล้วอ้วกอีกก็ตามจนตอนนี้เขารู้ว่าเขาไม่ได้ตรอมใจหรือประชดใครทั้งนั้น เขาป่วยแน่ๆและเขาก็ไม่ไหวแล้ว!"ขอตัวนะครับ! อ้วกกกกกกกก""ไหวมั้ยนั่น.." คุณปู่ถามตามหลังคนวิ่งดุ่มๆเข้าไปคะย่อนในห้องน้ำ ติณห์เอาทุกอย่างที่พึ่งยัดเข้าไปหมาดๆออกมาหมดเกลี้ยง"อ้วกกกกกกกก""ดีขึ้นมั้ยติณห์?""ผมต้องไม่สบายแน่ๆปู่ แพ้อากาศหรือแพ้อาหารแน่ๆ อ้วกกกกก~~!!"แพ้ท้องต่างหาก!ปลายฝนคิดในใจ ก่อนจะหันกลับไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กลับคุณย่าและเมื่อติณห์เดินกลับมา..ทุกคนก็เข้าสู่โหมดเงียบและทานอาหารต่อ ซึ่งที่เงียบก็เพราะส่วนนึงปลายฝนกำลังคิดแผนการบอกเรื่องท้อง ทำยังไงดี..บอกแบบไหนดีนะ..."อ้วกกกกกกก" นั่นแหละ..ขณะที่ปลายฝนครุ่นคิด ติณห์ก็วิ่งไปอ้วกอีกรอบ มันเป็นมื้อที่เต็มไปด้วยความสงสารปนสะใจ แต่ทั้งนี้..ก็ไม่มีใครกล้าหัวเราะออกมาหรอก ปล่อยให้ซีอีโอหนุ่มคนนั้น เขารับชะตากรรมแพ้ท้องไปคนเดียวจนทุกคนกินข้าวเสร็จแยกย้ายกันเข้าห้องพัก ห้องที่นี่ไม่ใหญ่มาก มีเตียงตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานไม้สักตามสไตล์บ้านสวนและเมื่อติ
พรวิเศษที่ตัวเองได้มา เด็กน้อยไม่รู้ตัวเลยสักนิด เขาเอาแต่คิดว่าตัวเองเป็นฮีโร่ โม้กับปาป๊าว่าตัวเองเก่งที่สามารถช่วยอันอันไม่ให้วิ่งชนโต๊ะได้จนกลับมาจากเกาะของครอบครัว ลิลินก้พาพร้อมไปทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ ต่อให้มันจะเป็นพรวิเศษที่ได้มา...แต่เธอก็ไม่สบายใจอยู่ดี "หนูกังวลอะไรอยู่เหรอ?" เมื่อถวายสังฆทานเสร็จ พระสงค์ที่รับไปก็ไถ่ถามขึ้นมา ทั้งที่ลิลินเอง..ยังไม่ได้บอกเล่าเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับลูกชายเธอเลยด้วยซ้ำ"คะ?..ถามหนูเหรอคะ?" หญิงสาวถามและชี้ที่ตัวเองงุนงง"ใช่ หนูนั่นแหละ""ค่ะกังวลนิดหน่อย คือ..อยู่ๆลูกชายหนูก็แปลกๆ เขาหายตัวได้ ไม่สิ..หนูไม่รู้จะอธิบายยังไงค่ะหลวงพ่อ พูดไม่ถูก""หลวงพ่อรู้แล้ว ถึงได้ถาม..ว่าทำไมหนูต้องกังวลกับเรื่องนี้ ลูกชายหนูเป็นคนดี วาสนาดีและมีบุญมหาศาล เขาได้พรวิเศษนั้นมา มันจะช่วยปกป้องเขาและคนอื่นๆอีกมาก"ลิลินเม้มปากบางๆของเธอแล้วพยักหน้าตาม ก่อนจะพนมมือขึ้นอีกครั้ง และตัดสินใจพูดบางสิ่งบางอย่าง ที่เธอกำลังอัดอั้นกับหลวงพ่อ"แต่หนูห่วงว่าเขาจะแวบไปตรงนู้นตรงนี้ แล้วเกิดอันตราย ถ้าเลือกได้...หนูอยากให้ลูกชายเป็นคนธรรมดาปกติ หลวงพ่อพอจะช่วยได้มั้ยคะ?""ไ
3 ปีต่อมา..เสียงคลื่นกระทบฝั่ง แสงแดดยามเช้า กลิ่นอายของทะเลที่พัดเข้ามากระทบหน้าตามแรงลม ทำให้หญิงสาวที่นอนกินลมชมบรรยากาศ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขลิลินทอดมองไปที่ทะเลกว้าง...มองไปที่เกลียวคลื่นกระทบฝั่ง...ซ่า ซ่าแต่ระหว่างนั้นหางตาของเธอ ก็มองลูกชายและหลานๆ ที่กำลังนั่งก่อกองทรายกันริมหาดด้วย"ห้ามโยนทรายนะลูก ยังไม่ทานมื้อเช้าเลย เดี๋ยวอาบน้ำใหม่นะ-_-""ได้เลยๆมาม๊า^^"แหมะ! หมดกัน ไม่ทันขาดคำ..ลินินก็กุมขมับ และลุกขึ้นจากเตียงชายหาดทันที เพราะพอบอกจบเท่านั้น..ลูกชายวัยสามขวบของเธอ ก็ปั้นทรายก้อนโต โปะ!เข้าที่หัวสาวๆที่นั่งเล่นอยู่จนหมอณัทร..ที่กำลังเดินออกมาจากตัวบ้าน เห็นหญิงสาวก้าวสามขุมไปหาลูก เขารีบตะโกนตามหลังทันที"ลิน! ไม่ว่าลูกนะ..ค่อยๆสอน~~""รู้แล้วหมอ! โอ๋กันจริงๆเลย" ลิลินบ่นอิบ ก็เดินไปหยุดที่ลูกชายและหลานสาว ก่อนที่ทั้งสามจะเงยขึ้นทำตาปริบๆมองลิลินราวกับเธอเป็นนางพันธุรัตน์ "พร้อม เล่นแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะลูก ไปแกล้งอันอันกับปลายฝันได้ยังไง ม๊าบอกเมื่อกี้ไม่ได้ยินใช่มั้ย>ลิลิน ไม่ดุลูก~" หมอณภัทรตะโกนบอกอีกครั้ง"เออ รู้แล้วหมอ! ไม่ได้ดุ!""ก็..ก็มาม๊าบอกช้
ตอนนี้รอยยิ้มของติณห์กำลังจางหายไป เพราะน้ำตาลูกผู้ชายของเขา..กำลังเอ่อออกมาท่วมท้นพิธีกร : เห็นมั้ยคะ..ว่าบางครั้งความรักก็ไม่ได้เริ่มต้นด้วยความสวยงามเสมอไป แต่ตอนนี้เจ้าบ่าวของเราดูท่าจะไม่ไหวแล้วนะคะ คุณติณห์คะ..ว่าไงบ้าง^^แล้วปลายฝนก็ส่งไมค์ให้ทันที ก่อนที่จะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาของซีอีโอหนุ่มดูซิ คุณซีอีโอเขาอ่อนไหวอีกแล้ว...ร้องไห้อีกแล้ว..ติณห์ : ผมก็..อยากขอบคุณปลายฝนที่ให้โอกาสผม แล้วผมสัญญาครับ ผมจะรักษาโอกาสนี้ให้ดี...หลังจากวันนี้จะไม่มีใครมาแทนที่ปลายฝน และผมสัญญาว่าจะเป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดี เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี จะรักและดูแลเธอคนนี้จนแก่เฒ่า ขะ..ขอบคุณครับมีคำพูดมากมายที่เขาอยากพูด แต่หลังๆเสียงติณห์เริ่มสั่นเครือจวนไม่ไหว เขาจึงรีบตัดบทไว..ทิ้งท้ายด้วยคำขอบคุณพิธีกร : หวานชื่นมากเลย อิจฉา~ แต่งานวันนี้มีโยนช่อดอกไม้ด้วยนะคะ เพื่อนเจ้าสาวคนไหนอยากได้ช่อดอกไม้บ้างเอ่ย^^ไม่มีใครตอบ เพราะเพื่อนเจ้าสาวที่มาก็ท้องกันหมด และถ้าได้มาแย่งชิงช่อดอกไม้ของปลายฝน มีหวังได้ล้มตึงกันแน่ แต่เมื่อช่อดอกไม้ ถูกยื่นให้เจ้าสาวอย่าปลายฝนโยนเท่านั้นแหละเธอก็ถือมันเด
"เกี่ยวอะไรกับลีออง!" คนเป็นแม่ถามลูกทั้งสอง แต่ไม่มีใครตอบ เพราะติณห์กับอันติงเอาแต่จ้องหน้ากันตั้งแต่เกิดมาจนโต ทั้งคู่ไม่เคยมีปากเสียงกันเลยด้วยซ้ำ...ครั้งนี้ครั้งแรก และที่ผ่านมา..ติณห์รักน้องห่วงน้องแค่ไหน..ใครๆก็รู้"ไม่ใช่มัน แล้วจะเป็นใคร?! อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะ! ว่าอันติงชอบมัน"อันติงเบิกตากว้าง มองหน้าพี่ชายตกใจมาก แต่สักพักก็รีบเก็บอาการ โดยยกมือกอดอกเชิดหน้าขึ้นทันที"ทำไมคะ?! แค่เคยชอบเคยปลื้มเท่านั้น! แต่เราไม่ได้มีอะไรกัน พี่ติณห์คิดว่าชีวิตหนูจะไม่มีผู้ชายคนอื่นเลยรึไง ไม่ได้ลีอองผู้ชายคนอื่นก็มีตั้งเยอะ!""อันติง!!"เสียงตวาดลั่น ทำให้หญิงสาวที่ยืนกรานเถียงถึงกับนิ่ง เธอไม่ได้ตกใจหรอก แต่ใครดุด่าว่ายังไง..มันก็ไม่รู้สึกปวดใจเท่ากับพี่ติณห์ของเธอจนตอนนี้อันติงน้ำตาไหลออกมาอาบแก้ม และค่อยๆลดมือสองข้างไปกำแน่นข้างลำตัวเธอเหนื่อยกับปัญหาเหลือเกิน และมันจะไม่ไหวแล้ว"ฮึกๆอันติงขอโทษ...อันติงคิดว่ามันแค่สนุก ขำๆ ฮือๆแต่ทั้งหมดอันติงป้องกันนะคะ ไม่รู้ว่าพลาดได้ไง อันติงขอโทษค่ะพี่ติณห์ ขอโทษนะคะ ฮือๆ"หญิงสาวยกมือไหว้พี่ชายสะอื้นไห้ตัวงอ จนซีอีโอหนุ่มที่เดือดดาลเริ่มใจอ
"ปลอมมาก-_-^""อะไรเหรอคะ? เพชรปลอมเหรอคะ?" เมื่อปลายฝนถาม ลิลินก็วางมือถือที่เปิดแอพพลิเคชันเฟสบุ๊คลงบนโต๊ะ ก่อนเธอจะเขี่ยมันด้วยปลายนิ้วชี้ จนโทรศัพท์จนไถล~ฟรึบ! ไปหยุดตรงหน้าปลายฝนแล้วตอนนี้หญิงสาวที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็งุนงง หยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัยอ๋อ รูปถ่าย..หมอณภัทรกับติณห์ ที่ทำตัวเผลอๆและอุ้มตุ๊กตาเด็กอาบน้ำที่โรงพยาบาล"เธอดูสิ..ปลอมมาก ทำเป็นเผลอถ่าย..แต่อัพรูปลงเฟสตัวเอง หึหึ-_-" ลิลินบอกย้ำแล้วหัวเราะเบาๆออกมาจนปลายฝนเงยขึ้นถามว่า.."ถ้าไม่ปลอม..มันจะเป็นยังไงเหรอคะ?" "เธอเนี่ย ไม่ทันผู้ชายเลยนะ..ฉันน่ะแปลกใจตั้งแต่ท้องแล้ว หมอณภัทรเคยลงรูปที่ไหน? แต่ทุกวันนี้ทำอะไรก็ลง แถมยังอ้อนฉันว่าอยากมีลูกตั้งสี่คนอีก! ""สี่คน!! พี่ณภัทรที่โลภมากขนาดนั้นเลยเหรอคะO_O""ระวังไว้เถอะ สองคนนั้นอยู่ด้วยกัน..ต้องย้ายมาอยู่อุดมการ์ณเดียวกันแน่ ฉันสี่คนเธออาจจะแปด เพราะพี่ติณห์เวอร์จะตาย"เวอร์...เวอร์....สุดจะเวอร์เลย แค่เห็นรูปที่ลิลินให้ดูไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อปลายฝนเลิกงานกลับถึงบ้านติณห์ เธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็นในห้องโถงลังสีน้ำตาลเกือบยี่สิบกล่องวางเรียงเป็นตับ! ขณะที่แม่
เมื่อได้รับอนุมัติจากธนาคารประจำบ้าน ติณห์ก็จัดการดิวบริษัทแอร์บัสทีี่ฝรั่งเศษทันที ซึ่งบริษัทแอร์บัสนี้เป็นบริษัทผลิตเครื่องบินยักษ์ใหญ่ จากการรวมทุนของกลุ่มประเทศฝั่งยุโรป ซีอีโอหนุ่มสั่งเครื่องบินเพิ่มสองลำ เป็นเครื่องบินAirbus-A320(-200) รุ่นฮิตบินภายในประเทศหรือแถบเอเชีย Rangeหรือพิสัยการบินราวๆ6,150 กิโลเมตร แลนด์ที่แดนอาทิตย์อุทัยอย่างญี่ปุ่นได้สบายซึ่งติณห์วุ่นวายเจรจากับบอร์ด และบริษัททางฝรั่งเศสจนถึงเย็น ก่อนที่จะสั่งให้โรงงานพ่นสีพิเศษที่เขาจะทำเซอร์ไพรส์ปลายฝนอีกด้วย"เรียบร้อย! ช่วยก็อปปี้เอกสารสั่งซื้อส่งให้บอร์ดบริหารทุกคนด้วยนะ^^""ได้ค่ะคุณติณห์^^" เลขารับแฟ้มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเดินออกไปหลังจากมีเป้าหมาย..ทุกๆวันของติณห์ก็ทำงานอย่างหนัก อาจจะมีแพ้ท้องบ้างเวียนหัวบ้าง แต่อาการเหล่านั้นมันก็ค่อยๆทุเลา เมื่อเขามองผ่านและพยายามอุดอู้อยู่กับงานอย่างเดียวและที่เป็นแบบนี้ ซีอีโอหนุ่มไม่ได้เฉยเมยต่อลูกและเมียอะไรทั้งนั้น เขาแค่อยากให้ของขวัญปลายฝนกับลูก และเร่งทุกอย่างให้เสร็จทัน เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมงานแต่งงานที่ใกล้จะมาถึงนี้"เหนื่อยชิบ" ทันทีที่ติณห์ถึ
อันติงคิดแบบนั้น ก็รีบลุกขึ้นคว้ากระเป๋าสะพายข้าง ก่อนจะหันไปบอกกับแม่ที่นั่งงุนงงฝั่งตรงข้ามทันที"พอดีคืนนี้มีติวหนังสือค่ะ ไว้เรืิ่องชุดอันติงจัดการเอง ขอตัวไปโรงพยาบาลก่อนนะ สวัสดีค่ะ""อ้าวอันติง รีบไปไหนลูก" ขณะที่อันติงกำลังวิ่งออกไปจากห้องอาหาร พ่อก็เดินลงบันไดมาพอดี แต่ทั้งนี้หญิงสาวไม่ตอบ เธอรีบไปที่โรงรถและขับรถมินิคันเล็กนั้นออกไป"คุณเต้ ฉันว่าอันติงแปลกๆ""อืม..ผมก็คิดว่าแปลก ลูกอ้วนขึ้น..สงสัยอ่านหนังสือดึกกินดึก^^""ไม่ใช่แค่นั้นน่ะสิ แต่ลูกสติสตังไม่มีเลย ไม่รู้ว่ามีเรื่องเครียออะไรรึป่าว-_-?""เครียดที่อ้วนมั้งครับ" แล้วทุกคนก็หันมองไปที่พี่ชายคนโตของบ้านที่เดินเข้ามาร่วมโต๊ะอีกคน ขณะที่เขาพาดเสื้อสูทไว้ที่เก้าอี้ และนั่งลงข้างๆปลายฝนด้วย"ก็น่าจะใช่ พักนี้อันติงอ้วนจริงๆ...สงสัยต้องเร่งให้ลดก่อนวันงานแต่งแล้วล่ะ"เท่านั้นแหละซีอีโอหนุ่มก็วางแก้วกาแฟลงทันที ก่อนที่จะมองหน้าแม่กับปลายฝนสลับกันก็เขายังไม่รู้เรื่องฤกษ์ ไม่รู้อะไรสักอย่าง!"เดี๋ยวนะ..แล้วงานแต่ง ได้ฤกษ์แล้วเหรอครับ?""อืม..อีกสองเดือน เราก็เตรียมตัวได้แล้ว-_-"บนรถ"ตั้งสองเดือน มันนานเกินไป!" ที่โต๊ะอ
พิธีกร : แสดงว่าคุณลิลินก็ไม่ได้ปรับอะไรเลยใช่มั้ยคะลิลิน : ไม่หรอก..ฉันปรับค่ะ พอหมอเขาพูดแบบนั้นฉันเองก็ไม่อยากให้เขาเหนื่อยใจ ฉันพยายามปรับอะไรที่ปรับได้ เช่นเรื่องเข้าครัว เรื่องนิสัยใจร้อนของตัวเอง ฉันก็พยายามปรับๆลดๆมันลงบ้าง พิธีกร : แหม ก็เพราะรักและแคร์ใช่มั้ยคะ? เอาล่ะค่ะ เรามาฝั่งเจ้าบ่าวบ้าง..^^พิธีกรเว้นช่วงครู่นึง เมื่อลิลินก้มเช็ดน้ำตาและส่งไมค์คืนให้หมอณภัทร ก่อนที่จะเปิดกระดาษสคริปต์อ่าน และถามเขาว่า..พิธีกร : คุณหมอ...พูดจริงหรือเปล่าคะ? ที่บอกว่ารับได้และไม่ให้คุณลิลินเปลี่ยนอะไร?ลิลินหันขวับมองหน้าพิธีกรทันที ที่เธอพูดไปเมื่อกี้มันไม่มีความหมายเลยรึไง เดี๋ยวเถอะ.. หมอณภัทร : พูดจริงครับ แต่มันก็เป็นคำพูดที่เป็นจิตวิทยาด้วย การที่เราจะเปลี่ยนใครสักคนจริงๆมันไม่จำเป็นต้องพูดหรือสั่ง เราแค่ทำให้เธอรู้สึกรัก..จนรู้ว่าต้องทำเพื่อเราเท่านั้น แต่ทั้งนี้ผมก็รับได้จริงๆนะครับ เพราะผมรักผู้หญิงคนนี้ไปแล้ว..ไม่ว่าเธอจะบอกว่าตัวเองนิสัยไม่ดี หรือไม่เป็นงานบ้าน ผมก็รัก^^ทุกคำ..ทุกประโยค..ลิลินตื้นตันมาก เธอมองชายหนุ่มที่ตัวเองรักทั้งน้ำตา และตอนนี้ก็ไม่สนว่าเครื่องสำอา
"ผมไม่รู้ น้ำตามันไหลเองTT""อะไรเนี่ย" หมอณภัทรงงงวยขนาดหนัก เขาหันซ้ายหันขวามองคนอื่นๆทำตัวไม่ถูกที่ติณห์เป็นแบบนี้เขาเคยเห็นคนไข้บางคน..สามีแพ้ท้องแทนก็จริง แต่ไม่คิดว่าจะเห็นว่ามีคนอ่อนไหว ถึงขั้นร้องไห้แทนเมียได้ตลกดีว่ะ"หมอทำอะไรพี่ติณห์น่ะ-_-"ลิลินเดินมาถาม เมื่อเห็นซีอีโอหนุ่มพยายามเช็ดน้ำตาตัวเอง และถ้าแฟนของทั้งคู่ไม่ท้องไส้.. มองเผินๆเธอคิดว่าคู่รักชายชายกำลังทะเลาะกันนะเนี่ย"ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย" หมอณภัทรตอบ แล้วเหลือบมองติณห์เป็นระยะ เพราะชายหนุ่มเป็นเอามากเหลือเกิน ถึงป่านนี้น้ำตาก็ยังไม่หยุดไหล"ไม่มีอะไรลิน น้ำตาพี่ไหลเอง..พี่แพ้ท้องแทนปลาย ฝนน่ะ ""อ๋อ..ค่ะ แหมแพ้ท้องอ่อนไหวแทนขนาดนี้ ปลายฝนสบายเลยเนอะ""อืม T_T"ตอบทั้งน้ำตาก็ว่าได้ ไม่ว่าจะได้ยินประโยคอะไรที่กระทบกับความรู้สึก ซีอีโอหนุ่มก็น้ำตาไหลพราก จนผ่านไปสักพักผู้ใหญ่มาครบ ทุกคนก็ได้มานั่งรวมตัวกัน และเขากับปลายฝนก็นั่งพับเพียบต่อหน้าผู้ใหญ่ทั้งสี่ที่ตอนนี้...มีพ่อแม่ของติณห์ พ่อแม่บุญธรรมของปลายฝน และสักขีพยานก็คือลิลินกับหมอณภัทร รวมถึงพี่สาวคนโตอย่างพี่ปลายฟ้าด้วย"ผมอยากขอโทษที่ล่วงเกินปลายฝนครับ