กลางทราย ชายหาด “ป้าเอายากับข้าวต้มมาให้ค่ะ นายหญิงน้อย” ป้าบัวยกถาดข้าวต้มและยามาให้เฟร์ย่า ที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าดีขึ้นมากแล้ว “ขอแต่ข้าวได้ไหมคะป้า เฟร์หายแล้วไม่ต้องกินยาแล้วก็ได้” เฟร์ย่าบอกป้าบัว “ไม่ได้ค่ะ ถึงจะหายแล้วก็กินกันไว้ก่อน ไข้จะได้ไม่กลับมา” “เห้อออ ก็ได้ค่ะ ว่าแต่ป้าไม่ต้องเรียกเฟร์ว่านายหญิงน้อยหรอกค่ะ เฟร์มะ...” “กินเข้าไปอย่าพูดมาก!” บอมพ์ที่เดินเข้ามาจากการออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกมาเอ่ยขัดขึ้นมาก่อนที่เฟร์ย่าทันจะได้พูดแก้ไม่ให้ป้าบัวเรียกเธอว่านายหญิงน้อย เหมือนกับว่าเขาไม่ต้องการให้เธอแก้ตัวและต้องการให้ทุกคนเรียกเฟร์ย่าแบบนั้น “พี่บอมพ์” เฟร์ย่าเอ่ยชื่อคนที่เข้ามาใหม่ พร้อมกับทำหน้าบูดบึ้ง ตักข้าวต้มเข้าปากอย่างหิวๆ เพราะไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน ป้าบัวเห็นแบบนั้นก็ขอตัวออกไปเงียบๆ “กินให้อิ่ม แล้วกินยาซะ ไข้จะได้ไม่ขึ้น เดี๋ยวไข้ขึ้นจะลำบากฉันเช็ดตัวให้อีก” เขาบอก “เอ๊ะ นี่พี่เช็ดตัวให้เฟร์เหรอ ไม่ใช่ป้าบัวหรอกเหรอคะ” เฟร์ย่าไม่เคยรู้มาก่อนว่าทั้งหมดเขาเป็นคนทำ “ทำทุกอย่าง ถ้าเธอไม่กินยาอีก ฉันก็จะป้อนเธอแบบเมื่อคืน”
กลางทราย ชายหาด (ต่อ) บอมพ์ดึงผ้าม่านจากมือบางนั้นมาถือไว้ และปูมันลงไปบนพื้นทรายแล้วจับร่างบางนอนราบลงบนผ้า ประกบจูบนั้นอีกครั้งก่อนจะค่อยๆจูบไซร้ลงมาตามซอกคอหอม ต่ำลง ต่ำลงมาจนถึงเนินอกที่มีเม็ดประทุมถัน แข็งเป็นไตดันเสื้อเชิ้ตออกมาสู้รับสัมผัสของเขา ชายหนุ่มเลิกเสื้อเชิ้ตเหนือเนินอก จนเผยให้เห็นสองเต้ากลมสวยไร้อาภรณ์ปิดบัง บอมพ์ก้มลงตะโบมดูดหน้าอกสวยของหญิงสาวตรงหน้า ทั้งดูด ทั้งเลีย ร่างบางใต้ร่างแอ่นอกรับสัมผัสนั้นทุกครั้งที่ลิ้มอุ่นแตะสัมผัส ลิ้นของเขาจากดุดันเมื่อสักครู่แปลเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน ลิ้นอุ่นค่อยๆตวัดดูดเลียที่ยอดประทุมถันที่กำลังแข็งเป็นไตสู้กับลิ้นเขา “อื้ออออ” “อืม” เสียงครางทุ้มต่ำในลำคอ “ตะ...ตรงนี้เหรอคะ” เสียงถามออกมาจากปากบางของเฟร์ย่าด้วยเสียงกระเส่า ริมฝีปากแห้งผากจนเธอต้องแลบลิ้นเลียริมฝีปากนั้น “อืม ไม่มีใครมาหรอก” เขาละริมฝีปากจากอกสวย ก่อนจะยืดตัวขึ้นถอดเสื้อและปลดตะขอกางเกงของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นท่อนกายแกร่งขนาดใหญ่ที่เด้งตั้งชูชี้ขึ้น เมื่อจัดการเสื้อผ้าของตัวเองเสร็จแล้ว มือหนาก็เลื่อนไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตบนตัวเธอออกจนหมด
แผนร้าย เฟร์ย่า หญิงสาวตัวเล็กน่ารัก ผมยาวลอนน้ำตาลอ่อน ชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอสั้นเหนือเข่าขึ้นมา เสื้อนักศึกษาสีขาวสวมทับด้วยเสื้อช็อปสีแดงเข้ม รองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวเดินลงมาจากตึกของคณะวิศวะพร้อมกับชายร่างสูง สมาร์ท ผิวขาว หล่อเหลา ผมน้ำตาลอ่อน ของเบย์ ทั้งคู่เดินลงมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใส “ไปทะเลด้วยกันยังไงเอ่ย ไปด้วยกันแต่ไม่ได้เที่ยวด้วย ไม่ได้กลับพร้อมกัน” เบย์เอ่ยแซวเฟร์ย่าเพื่อนรุ่นน้องสมัยเด็กของเขา “ขอโทษน่า ก็เฟร์ตกทะเลอ่ะ พอขึ้นมาก็ไม่สบายตั้งหลายวัน ไม่ได้เที่ยวเลย” เฟร์ย่าโอดครวญ เธอไปเที่ยวทะเลตามคำชวนของเบย์ แต่พลาดท่าตกทะเล ทำให้จุดหมายไปคนละเกาะกับพวกของเบย์ ได้ใกล้ชิดกับบอมพ์ก็จริงแต่ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้เล่นน้ำทะเลเลย มัวแต่ไม่สบาย “ได้กินกันไหม” เบย์ถามออกมาอย่างตรงๆพร้อมกับยิ้มแซวน้อยๆ ทำเอาคนโดนถามเขินตีแขนเบย์ไปเผียะใหญ่ “ถามอะไรก็ไม่รู้” “น้องเฟร์ เบย์...” เสียงของคีย์ดังขึ้นจากด้านหลังของทั้งสอง ทั้งคู่หันควับไปทางต้นเสียงนั้นทันที “พี่คีย์ เลิกเรียนเหมือนกันเหรอคะ” เฟร์ย่าทักทายอย่างเป็นมิตร “ใช่ กำลังจะกลับคอนโดพอดี” คีย
รักหรือยัง “อะ.. เป็นอะไรของพี่เนี่ยพี่บอมพ์!” เฟร์ย่าที่ถูกกระชากลากขึ้นชั้นบน ในห้อง VIP เธอพยายามสะบัดมือเขาออกจากการ แต่ดูเหมือนแรงน้อยๆ ของเธอจะทำไม่สำเร็จ บอมพ์พาเฟร์ย่าเข้ามาในห้อง จับร่างบางกดแผ่นหลังเข้ากับกำแพงแล้วประกบปากหยักเข้ากับปากนิ่มอวบอิ่มทันที “อื้อออ” เสียงครางในลำคอเล็ดลอดออกมาอย่างเผลอไผล เขาใช้ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากหวานนั้นอย่างดูดดื่ม มือหนายกขึ้นลูบไล้ต้นขาขาว ออกแรงจับขาเรียวยกขึ้นพาดกับเอวสอบของเขาไว้ ปากของเขายังคงบดขยี้ดูดดื่มรุนแรงจนปากบางช้ำเป็นสีแดงเข้ม เสียงหอบหายใจและลมหายใจของทั้งสองเป่ารดกันเมื่อเขาถอนริมฝีปากออก เหมือนชายหนุ่มจะรู้สึกได้ว่ามีสายตาหนึ่งจ้องมองเขาอยู่ เขาหันไปด้านหลังของคนตัวเล็ก ผ่านมุมกำแพงไปเล็กน้อยเป็นประตูห้องที่พวกเขาเพิ่งผ่านมันเข้ามา แต่เขาไม่ได้ปิดประตู่นั้น บานประตูแง้มเล็กน้อย แสงสว่างในห้องและนอกห้องทำให้เขาสามารถเห็นด้านนอกประตูนั้นได้เป็นอย่างดี แคลแอบมองผ่านช่องประตูเข้ามาภายในห้องหลังจากตามทั้งสองขึ้นมา และก็พลันได้เห็นในสิ่งที่ทิ่มแทงจิตใจเธอ เธอเจ็บแค้นภายในใจ ทำไมนะ ทำไมคนที่อยู่
ด่ามา ด่ากลับ ตบมา ตบกลับ สตูดิโอถ่ายแบบเล็กๆ แห่งหนึ่งที่เฟร์ย่าหนีคุณย่าและแม่ของตัวเองมารับจ๊อบ ถึงแม้ว่าสตูแห่งนี้จะเล็ก ไม่ค่อยมีชื่อเสียงอะไร แต่เฟร์ย่าก็รับงานด้วยค่าตัวที่ไม่แพงมากนัก เพราะเธอเองก็รับจ๊อบพวกนี้เป็นงานอดิเรก ความจริงเธอเป็นนางแบบให้บริษัทคุณย่าของเธอที่รับเธอรับช่วงต่อจากแฟร์รี่แม่ของเธอที่วางมือจากการเป็นนางแบบแล้ว เพราะแฟร์รี่คิดว่าเธอมีอายุแล้ว มีลูกจนโตแล้ว แต่ความสวยของเธอยังไม่จาง เลยควรให้เด็กๆ รุ่นใหม่ทำงานดีกว่า อีกอย่างเธอยังเป็นนักศึกษาจึงไม่ได้รับงานถ่ายแบบเต็มตัว “น้องเฟร์ย่ามาแล้ว เข้าไปแต่งหน้าทำผมเลยนะ เดี๋ยวพี่เอาชุดที่ต้องใส่ถ่ายวันนี้ไปให้” ทีมงานมาบอกนางแบบสาว “ได้ค่ะพี่ วันนี้เฟร์ถ่ายคนเดียวหรือถ่ายคู่คะ” เฟร์ย่าถามตารางงานต่อ เพราะเธอต้องรู้ว่าเธอจะต้องถ่ายคนเดียวหรือถ่ายกับคนอื่นจะได้ทำหน้าที่ได้ถูกต้อง “ถ่ายคี่ค่ะ” ทีมงานตอบกลับแบบยิ้มๆ “ห๊ะ? อะไรนะคะ” เฟร์ย่าตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน และไม่รู้ว่าทีมงานเล่นมุก “5555 พี่หมายถึงว่า วันนี้เราถ่ายสามคนค่ะ มีน้องนายแบบหนึ่งคน นางแบบอีกหนึ่งคน และก็น้องเฟร์ย่านี่แหละ
เป็นเมียพี่ ห้ามตาย! รถสปอร์ตสีขาวแล่นทยานบนท้องถนนที่ค่อนข้างโล่ง ไม่ค่อยมีรถสวนไปมามากนัก เพราะเฟร์ย่าเลือกใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองเพื่อมุ่งหน้าไปมหาวิทยาลัยได้ไวกว่าการแล่นเข้าตัวเมืองที่มีรถวิ่งแออัด แม้ทางเลี่ยงเมืองจะไกลกว่านิดหน่อยแต่ก็ไม่ทำให้ เธอถึงมหาลัยช้า เพราะยิ่งรถว่างเธอก็ยิ่งขับเร็วมากขึ้นเท่านั้น รถแล่นมาสักพักห่างไกลตัวเมือง หญิงสาวสังเกตุเห็นได้ว่าท่ามกลางถนนโล่งนั้นมีรถคันหนึ่งขับตามเธอมา ตอนแรกเธอคิดว่าเธอนั้นคิดไปเอง แต่ความจริงน่าจะไม่ใช่แค่คิดแล้วเพราะตอนนี้รถคันนั้นวิ่งมาพุ่งตรงมาที่รถเธอโดยไม่มีทีท่าว่าจะเบรคเลยด้วยซ้ำ “อะไรเนี่ย รถคันนั้น” คลึง!!! เสียงรถคันที่เธอสงสัยขับตามรถของเธอมาได้ทัน มันถูกขับเบียดเสียดสีกับรถของเธออย่างตั้งใจ และหลายรอบเหมือนจะพยายามหยุดรถของเธอให้ได้ คลึง!! “ว้ายยย!” เสียงร้องตกใจในของเฟร์ย่าดังขึ้นภายในรถ เธอพยายามมองออกไปด้านนอกรถไปที่รถคันนั้นพบว่ามันมีกระจกสีดำ ไม่สามารถมองได้ว่าใครเป็นคนขับรถ เมื่อเห็นดังนั้นเฟร์ย่าไม่รู้จะหันไปพึ่งใคร คนที่เธอคิดถึงคนแรก...เบย์...คนที่เปรียบเสมือนพี่ชายของเธอ พอพบกับ
คนที่ใช่ ไม่ต้องพยายาม “เธอเป็นคนทำร้ายฉันเหรอ แคล?” เฟร์ย่าถามขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ผิดจากอาการที่เธอแสดงเมื่อสักครู่อย่างกับคนละคน “น้องเฟร์ พี่ขอ...” คีย์พูดขึ้น แทนน้องสาว เขาอยากช่วยน้อง แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน แคลจะถูกทำโทษไหมก็คงถูกลงโทษแหละ แต่จะหนักหรือเบาแค่นั้น “ทำไม...ด้วยเหตุผลอะไร ทำไมเธอถึงขั้นทำร้ายฉันร้ายแรงขนาดนี้ เราก็ไม่ได้สนิทกันถึงขั้นไปทำอะไรให้เธอแค้นมากขนาดนี้” “ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะฉันอิจฉาแกไงล่ะ อิจฉาแกที่ทำอะไรคนก็ชอบไปหมด แกชนะฉันทุกอย่าง ถ้าไม่มีคนอย่างแก ถ้าไม่มีคนอย่างแกสักคน พี่บอมพ์ก็ต้องยอมรับฉัน ถ้าไม่มีแกฉันก็เป็นดาวเด่น” แคลร่ายยาว “แล้วเธอคิดเหรอว่าถ้าฉันไม่เข้ามา พี่บอมพ์และคนอื่นๆ จะชื่นชมเธอขึ้น ถ้าเธอยังทำนิสัยแบบนี้” เฟร์ย่าตอบกลับ “ชอบสิ!! ตั้งแต่แกเข้ามา พี่บอมพ์ก็ไม่รับฉันเป็นน้องรหัส รุ่นพี่ที่คณะก็มีแต่คนพูดถึงแต่แก เจอหน้าพี่คีย์ก็ถามหาแต่น้องรหัส ทุกคนพร้อมจะปกป้องแก แกเอาทุกอย่างไปจากฉัน แม้กระทั่งถ่ายแบบชุดที่ฉันอยากใส่แกก็ได้ใส่ งานที่ฉันอยากได้เขาก็อยากได้แก ฉันล่ะอยากให้แกหายไปจากโลกนี้จร
เลิกได้ไหม? แคลตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ ไปอยู่กับพ่อและแม่ของพวกเขา โดยมีคีย์และเบย์ไปส่งที่สนามบิน แคลบอกแม่ว่าไม่อยากอยู่เมืองไทยแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนสู้หัวชนฝาว่าจะอยู่กับพี่ที่ไทย แม่ก็แปลกใจทำไมเปลี่ยนใจไม่อยากอยู่เอาตอนนี้ แล้วแม่ถามว่าจะเรียนที่นี่กี่ปี คำตอบของแคลคือ ตลอดไป... 3 วันต่อมา หลังจากที่แคลไปต่างประเทศแล้ว ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ เฟร์ย่าไม่ได้โกรธอะไรคีย์หรือแคล และยังแอบตกใจอยู่ไม่น้อยที่แคลไปอยู่ต่างประเทศ แต่ก็เข้าใจและยอมรับการตัดสินใจของแคล “นี่!!ยัยแสบ เย็นนี้อย่าลืมไปกินข้าวที่บ้านนะ เหมือนคนปากดีจะกลับบ้านด้วยวันนี้” เบย์พูดกับเฟร์ย่าขณะที่กำลังเดินลงบันไดลงมาจากคณะหลังเรียนจบ วันนี้ทั้งสองครอบครัวมีนัดเที่ยว กินข้าวประจำปีที่บ้านพักตากอากาศของตระกูลบูรณิมา ที่สร้างเอาไว้พักผ่อนอยู่ในพื้นที่เกือบ 50 ไร่ ท่ามกลางป่าเขา บ้านหลังโตสองชั้น มีหลายห้องนอน หลายห้องน้ำ ถูกสร้างสไตล์บ้านไร่บ้านสวน ด้านหน้าเป็นทุ่งหญ้ากว้าง ด้านหลังถูกรายล้อมด้วยภูเขา และมีลำธารน้ำตกธรรมชาติเอาไว้พักเล่น สถานที่นี้ แบล็คสร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้พักผ่อน และว
BEY PART (The End) สารภาพ...ขอเป็นผัว “ถ้าไม่เรียกผัว จะดูดแรงกว่านี้นะ” เขาถอนริมฝีปากพูดแกมขู่เจ้าของร่างที่บิดเร่าไปมา เสียงครางของของคนตัวเล็กกว่าเขากระตุ้นอารมณ์เบย์ให้พลุกพล่านอีกครั้ง เขาจ้องมองคีย์ที่สะบัดหัวไปมาอย่างสุดจะกลั้น ก่อนที่เขาจะก้มลงไปที่ท่อนกายแกร่งอีกครั้งเขาห่อปากตัวเองขยับขึ้นลงเป็นจังหวะรัวและเร็ว ผสมกับมือที่รูดแท่งนั้นขึ้นลงตามจังหวะของปากอุ่นด้วย “อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊ะ...บะ...เบย์” มือบางขยุ้มศีรษะของเบย์อย่างเผลอตัวเพื่อระบายความเสียวที่แผ่ไปทั่วร่าง “มะ...ไม่ไหว อ๊ะ...อ๊าาาา” เสียงครางของคีย์ดังลั่น ร่างกระตุกเกร็ง น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งเข้าปากเขาหมดทุกหยาดหยด เขาไม่รอช้ากลืนมันลงคอไป ก่อนจะยกมือขึ้นปาดคราบน้ำรักที่เลอะรอบริมฝีปากนั้นออกอย่างลวกๆ “เสร็จแล้วเหรอ” เบย์เอ่ยถามคนที่นอนอยู่ใต้ร่างด้วยเสียงหอบหายใจถี่รัว ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นยืนด้วยเข่า ก่อนจับคนตัวเล็กกว่าพลิกตัวให้นอนคว่ำหน้า ใช้สองมือหนายกสะโพกขึ้นสูง จัดแจงให้คีย์อยู่ในท่าหมอบคลาน เขารีบเอามือหนาป้ายน้ำรักที่เลอะขอบปากไปป้ายที่ประตูหลังของคีย์ทันที
BEY PART (The End) สารภาพ...ขอเป็นผัว “อื้ม” เสียงครางทุ้มต่ำในลำคอของเบย์เริ่มเล็ดลอดออกมาจากปากทั้งสองที่ยังคงประกบกัน ภายในลิ้นอุ่นตวัดรัดพันกันนัวเนีย ชายหนุ่มดูดควานหาน้ำหวาน ตักตวงมันจากปากบางอย่างพอใจ ทั้งคู่จูบดูดดื่มแลกเปลี่ยนลิ้นซึ่งกันและกันอยู่พักใหญ่ เบย์ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งเหมือนเสียดาย ดวงตาคู่คมจ้องมองที่ร่างของคนตรงหน้าด้วยสายตาหยาดเยิ้มอย่างลืมตัว ก่อนจะเอื้อมมือไปปรับเบาะตัวเองให้ถอยห่างจากพวงมาลัยจนสุดล็อค และดึงตัวของคีย์ขึ้นมานั่งค่อมบนตักเขาทันที จมูกโด่งคมสันเริ่มเข้าใกล้ซุกไซร้ไปที่ซอกคอขาวพรมจูบ ดูดดึงเบาๆ ลากไล้ผ่านลำคอเรียว ต่ำลง ต่ำลงเรื่อยๆ มือหนายกขึ้นปลดกระดุมเสื้อของคนบนตักออกอย่างช้าๆ จนหลุดหมดครบทุกเม็ด ริมฝีปากหนายังคงลากไล้ต่ำลงไปจนกระทั่งถึงตุ่มเล็กน่ารักสีชมพูระเรื่อบนแผ่นอกขาวๆ เบย์แลบลิ้นออกแตะปลายลิ้นลงสัมผัสตุ่มนั้นทีละน้อย เมื่อลิ้นอุ่นสัมผัสตุ่มนั้นครั้งใด ร่างบนตักกระกระตุกเล็กน้อยทุกครั้ง สร้างความพอใจให้กับเบย์ไม่น้อย ก่อนที่เขาจะอ้าปากงับยอดอกเล็กน่ารักนั้นทันที “อื้อออ” คีย์สะดุ้งเฮือก ความรู
BEY PART (Start) (2) สารภาพ...ขอเป็นแฟน BK CLUB “เบย์!! ทางนี้ๆ” เสียงของคีย์ที่กำลังโบกมือกวักมือเรียกเบย์ที่เพิ่งมาถึง เดินมาหยุดที่หน้าประตูทางเข้าคลับ มองซ้ายมองขวามองหากลุ่มเพื่อนๆ พี่ๆ คณะเดียวกันที่นัดกันมา โต๊ะที่พวกนั้นจองไว้รู้สึกจะอยู่หลบมุมของตัวคลับที่ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไป ผ่านมามากนัก และโต๊ะก็ค่อนข้างจะอยู่ห่างจากโต๊ะอื่นๆ พอสมควร “ทำไมมาช้านักล่ะ” คีย์ถามขึ้นเมื่อเบย์มาตามที่นัดช้าไปเกือบชั่วโมง จริงๆ เขาไปดูสินค้า ตรวจสินค้าแทนพี่ของเขาที่วันนี้มีนัดดินเนอร์กับเฟร์ย่า แล้วตั้งใจจะขอแต่งงานในคืนนี้ “ไปดูสินค้าแทนพี่มา” เบย์อธิบายเหตุผลให้กับคีย์ฟัง “อ่อๆ เอาเหล้าอะไร เดี๋ยวเราไปสั่งให้” คีย์บอกพร้อมกับเตรียมจะลุกไปสั่งให้ แต่กลับโดยมือหนาๆ ของเบย์คว้าแขนเอาไว้ก่อน “จะไปไหน ทำไมไม่เรียกเด็กเสิร์ฟมา” เบย์ถาม เพราะว่าที่นี่เป็นคลับของพ่อเขา ที่มีเขาและพี่ชายคอยดูแลรับช่วงต่อจากพ่อ “เอ้อ ลืมไป” คีย์หันมายิ้มให้ แล้วกลับไปนั่งลงที่เดิม “เมาแล้วหรือไง” เบย์ถามคีย์ แต่ดูเหมือนคีย์จะไม่ได้ยิน เขาจึงไม่ได้ตอบอะไรกลับมา “นี่ๆ น้องคีย์ กินให้เมาได้เลยนะ ถ
BEY PART (Start) สารภาพ...ขอเป็นแฟน หลังจากวันนั้น ที่บอมพ์และเฟร์ย่าได้ตกลงเป็นแฟนกันโดยการประกาศขอกันกลางลานหน้าคณะวิศวะ ท่ามกลางเหล่านักศึกษาเกือบทั้งคณะเลยก็ว่าได้ วันนี้พวกเราทั้งสองครอบครัวก็นัดเจอกันที่สุสานหลุมฝังศพประจำตระกูลของคุณน้าแฟร์รี่ ที่จะจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย มีเพียงแค่สองครอบครัวทุกปี “นี่ตาเบย์ ทำไมวันนี้มาคนเดียวล่ะ ทุกทีจะมากับน้องเฟร์” วินเซ่เอ่ยถามลูกชายคนเล็กที่เดินเข้ามาใต้ต้นจามจุรียักษ์ที่พวกเธอรวมตัวกันอยู่ หน้าหลุมฝังศพ 3 หลุม เบย์ในชุดนักศึกษา เสื้อช็อปสีแดงเลือดหมู กางเกงยีนส์สีดำขาเดฟ รองเท้าผ้าใบเท่ๆ “นี่แม่แกล้งถามหรือแม่อยากมีเรื่องกับผมกันแน่” เบย์พูดกับแม่แบบทีเล่นทีจริง “อ้าว แม่ถามจริงๆ นะเนี่ย” “ก็เวลาเพื่อนมีแฟน ก็มักจะลืมเพื่อนไม่ใช่เหรอ ยัยนั่นก็เหมือนกัน” เบย์บอกพร้อมกับเดินมานั่งข้างๆ แม่และพ่อตัวเอง “แล้วน้องจะมาไหมเนี่ย เรียนหนักกันหรือเปล่า” วินเซ่เอ่ยถามอีก “เรียนไม่หนักหรอก แต่เรื่องอื่นน่าจะหนักกว่า เดี๋ยวก็มากับลูกชายคนโตแม่อ่ะแหละ” เบย์พูดแล้วยิ้มกวนๆ พูดไม่ทันได้จบ รถสีดำขลับก็แล่นมาจอดยังสถานที่เอาไว้จอดรถ สองช
เกียร์อยู่ที่ใคร ใจอยู่ที่เธอ (จบ) เฟร์ย่า และบอมพ์ เดินทางกลับเข้าแผ่นดินใหญ่เพื่อกลับไปเรียนต่อ โดยมีนนนี่ย้ายมาอยู่ด้วย ในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัวของเฟร์ย่า ก่อนหน้านี้เฟร์ย่าจะไม่ยอมให้พ่อหาบอดี้การ์ดให้ เพราะว่าตัวเองยังเรียนอยู่ ไม่จำเป็นต้องมีคนคอยติดตาม แต่ตอนนี้ยอมให้มีคนคอยติดตามแล้ว เพราะรู้สึกถูกชะตาต้องใจ กับนนนี่เข้าให้ เธอรู้สึกได้ว่า นนนี่มีคุณสมบัติพร้อมทุกอย่าง ทั้งรู้ใจ ทั้งใส่ใจ เป็นทั้งเพื่อนสาว แม่บ้าน คนขับรถ หรือแม้กระทั่งคนคอยปกป้องเธอ เพราะว่านนนี่ได้รับการฝึกการป้องกันตัวมาจากคุณตาเจคอร์ปเป็นอย่างดี เมื่อบอมพ์ไปขอนนนี่กับคุณตาเจคอร์ปให้เฟร์ย่า แล้วบอกว่าจะให้มาเป็นคนคอยดูแลเฟร์ย่า คุณตาก็ยอมตอบตกลงทันที โดยไม่ถามอะไรเลย “นี่...นนนี่จะให้เฟร์เรียกว่าอะไรดี เรียกนนท์ หรือ นนนี่” เฟร์ย่าเอ่ยถามขึ้น ในขณะที่กำลังเดินลงมาจากตึกเรียน นนนี่เข้าเรียนคณะเดียวกับเฟร์ย่า เพราะนนนี่อายุเท่ากับเธอ เรียนอยู่มหาวิทยาลัยอื่น เฟร์ย่าให้พ่อของเธอทำการย้ายนนนี่มาเรียนด้วยกัน คณะเดียวกันเสียเลย “สภาพแบบนี้ เรียก นนนี่ น่าจะสวยกว่านะ” เบย์เอ่ยขึ้น เพราะเดินลงมาพร
รักษาคนแพ้อาหาร ร่างบางใต้ร่างหนาที่ทาบทับเธออยู่บนที่นอน คนตัวเล็กนอนหลับตาพริ้ม รอรับจูบอันหอมหวานที่เขาจะมอบให้ ปากหยักประกบจูบลงมาที่ริมฝีปากอวบอิ่มอย่างนุ่มนวลอ่อนโยน ไม่นานจูบที่อ่อนโยนเริ่มแปลเปลี่ยนดูดดื่มดุดัน ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากหวานควานหาน้ำหวานอย่างชอบใจจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบ “อื้อออ” มือบางยกขึ้นเกาะกำเสื้อเขาจนเกิดรอยยับ ชายหนุ่มถอนจูบดูดดื่มออกอย่างเสียดาย จมูกโด่งเป็นสันซุกไซ้ไล้ลูบลงตามซอกคอหอมขาว ผ่านไหปลาร้าบุ๋ม ลิ้นชุ่มน้ำลายจูบซับตามร่องอกเต่งตึง มือหนาสอดใต้ชุดมินิเดรสบาง เขาเลิกผ้าที่ปิดเรือนกายเธอขึ้นเหนืออกสวย เผยให้เห็นสองเต้าที่ถูกบราเซียสีขาวปกปิดไว้อย่างไม่มิดชิดมากนัก บอมพ์ยกยันตัวขึ้นมองเล็กน้อย ริมฝีปากหนากดจูบลงมาที่ริมฝีปากอวบอีกครั้ง บรรจงจูบอย่างดูดดื่ม ดุดันรุนแรง และเร่าร้อน เขาบดเบียดให้กลีบปากบางเผยอออก ส่งลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นอุ่นกวาดไปรอบๆโพรงปากดูดกลืนน้ำหวานจนทั่วทุกพื้นที่ในปากจนพอใจ จึงค่อยๆถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่งเสียดาย ร่างกายบางอ่อนปวกเปียกบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่านรัญจวน “พะ...พี่คะ ประตูยังไม่ได
รอฟังความจริง (ต่อ) “พี่ไม่อยากให้เราออกไปกับไอ้หน้าอ่อนนี่” ชายหนุ่มพูดเสียงอ่อยๆ ก่อนจะชำเรืองมองผ่านตัวเฟร์ย่าไปด้านหลัง ที่มีนนท์ยืนยิ้มให้อยู่ “ทำไมล่ะคะ เฟร์ไปกับนนท์แล้วจะเป็นอะไร” “ก็พี่หึง พี่หวงไม่เข้าใจหรือไงวะ!” บอมพ์พูดออกมาอย่างหงุดหงิด “55555 หึงเหรอคะ” เฟร์ย่าหัวเราะออกมาดังลั่นพลอยทำให้นนท์และคนอื่นๆ อดยิ้มไปด้วยไม่ได้ “หัวเราะอะไร ไม่ตลก!” บอมพ์พูดแล้วหันไปทางอื่นด้วยท่าทางงอนๆ “พี่ไม่ต้องหึงเฟร์กับนนท์หรอกค่ะ” “ทำไมจะหึงไม่ได้ ทำไมไม่ให้หึง เราเป็นเมียพี่” “ก็...นนนี่เขาไม่ชอบชะนีอย่างเฟร์หรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นพี่บอมพ์ก็ไม่แน่นะ นนนี่อาจจะชอบก็ได้” เฟร์ย่าพูดปนเสียงหัวเราะขำๆ คำพูดของเธอทำเอาบอมพ์ที่ได้ยินถึงกับอึ้ง ตอนแรกก็ไม่เชื่อหรอก แต่พอหันไปหานนท์ที่ยกมือขึ้นโบกเล็กน้อยระดับหน้าอก แสดงจริตจะกร้านออกมาแบบนั้น บอมพ์ก็ถึงบางอ้อทันที “แล้วทำไมไม่บอกพี่ตั้งแต่แรก และทำไมนายไม่บอกความจริงฉันห๊ะ?” บอมพ์หันไปคาดโทษนนท์หรือนนนี่ “ก็เฟร์ไม่ยอมให้นนนี่บอกนี่คะ บอกว่าอยากรู้อะไรบางอย่างก่อน” นนนี่จีบปากจีบคอพูดกับเจ้านาย “อยากรู้อะไร ทำไมไม
รอฟังความจริง เผียะ!! “อิพี่บอมพ์!!” เฟร์ย่าตื่นขึ้นมาในตอนเช้ารู้สึกเหมือนมีอะไรหนักๆ พาดอยู่ที่หน้าท้อง ตอนแรกเธอคิดว่าผีอำ พอลืมตาตื่นขึ้นมาก็พบกับใบหน้าหล่อที่หลับพริ้ม อยู่ใกล้กับใบหน้าหวานๆ ของเธอ ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาเป่ารดแก้มป่องเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเขากำลังหลับสนิท แขนแกร่งพาดทับที่หน้าท้องน้อยของเธอคล้ายกับว่ากำลังกอดเธอไว้อย่างหลวมๆ เฟร์ย่าตกใจเล็กน้อยทำไมเขาถึงได้มานอนกับเธอได้ แต่พอเห็นว่าเขากำลังหลับสนิทก็เลือกที่จะไม่ปลุก ปล่อยให้หลับอยู่แบบนั้นพักใหญ่ๆ จนกระทั่ง..เหน็บชาเริ่มกัดกินท่อนแขนของเธอ จะอดทนต่อไปก็ไม่ได้ เหน็บชาเล่นงานเธอจนเจ็บไปหมด จึงต้องแกล้งโวยวายให้เขาตื่นซะเลย “อื้ออ ตีพี่ทำไมเนี่ย” บอมพ์งัวเงียตื่น ใช้ศอกยันตัวขึ้นมาจากเตียง เขาตื่นเพราะแรงตบตีที่แขนของเขา “ทำไมพี่มานอนในห้องเฟร์ มาอยู่บนเตียงเฟร์ด้วย” เฟร์ย่าโวยวาย พอเป็นพิธี “แล้วทำไมพี่ถึงจะมานอนกับเมียของตัวเองไม่ได้ล่ะ” ชายหนุ่มยียวนกวนอารมณ์เธอในท่านอน ศอกตั้งเอามือค้ำใบหน้าหล่อฟ้าประทานเอาไว้ “แต่เมื่อคืนพี่อนุญาตให้เฟร์ไปรักคนอื่นแล้ว” คนตัวเล็กเถียงกลับแว้ดๆ
ฝันถึงไอ้หน้าอ่อนแค่คืนนี้ “เราหนีพี่ไม่พ้นหรอก ขอแค่ 5 นาทีพี่ก็หาเราเจอแล้ว” บอมพ์พูดออกไปด้วยรอยยิ้มอย่างผู้ชนะ เฟร์ย่าเห็นรอยยิ้มนั้นก็รู้สึกหมั่นไส้ขึ้นมาทันที รีบยกมือบางดันตัวเขาออกอย่างไม่แรงมากนัก แต่ก็สามารถออกห่างเขาได้นิดหนึ่ง “ตามมาทำไมคะ” ร่างบางพูดพร้อมกับทำปากบูดๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่า เหตุผลที่เธอต้องหนีเขามาที่นี่เพราะอะไร ก็เพราะเขาเห็นเธอเป็นของเล่น แล้วทีนี้จะตามเธอมาถึงที่นี่ทำไม “มาตามเมียกลับบ้าน” เขาตอบทันที “เมียที่ไหนคะ ที่นี่ไม่มีเมียพี่ค่ะ มีแต่ของเล่นกับของตาย” “อย่าประชด” “ไม่ได้ประชด เฟร์พูดจริงๆ พี่เป็นคนบอกเองว่าไม่ได้รัก ไม่ได้ชอบเฟร์ เห็นเฟร์เป็นแค่ของเล่น ของตายที่เลิกรักพี่ไม่ได้” เฟร์ย่าพรั่งพรูคำพูดที่รู้สึกอึดอัดออกมาให้เขารู้ว่าเธอได้ยินในสิ่งที่เขาพูดกับแม่ของเขา “ที่บอกว่า พี่เห็นเราเป็นของเล่น หรือของตายน่ะไม่จริงเลยนะ แต่ที่บอกว่าเธอเลิกรักพี่ไม่ได้น่ะ เรื่องจริง...หรือเธอว่าไม่จริง?” บอมพ์เอียงคอถามคนตรงหน้าแบบยิ้มๆ เจ้าเล่ห์และทะเล้นเหมือนตัวเองกำลังชนะอีกแล้ว “หลงตัวเอง!” “ไม่ได้หลงตัวเอง มีคนหลงพี่ด้วย” “วุ