มิลินพยายามรวบรวมสติ แต่ก็เหมือนกับจับสายลมที่ลอยอยู่ไกล ความรู้สึกพุ่งพล่านในใจเธอเปรียบเสมือนพายุที่ไม่อาจหยุดยั้ง และในขณะเดียวกันเธอกลับรู้สึกว่าเธอกำลังจมลึกลงไปในโลกที่ไม่มีวันกลับขึ้นมาได้
‘จะเสียวเกินไปแล้ววววววว~!!’ ลมหายใจของไรอันสัมผัสกับผิวเนื้ออ่อนเบา ๆ ราวกับกระแสน้ำที่ไหลเอื่อย แต่กลับทิ้งความรู้สึกวูบวาบราวไฟสุมในใจ กลิ่นเหงื่อจาง ๆ ผสมกับกลิ่นกายของพวกเขาทั้งสามโอบล้อมรอบตัวเธอ สร้างบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยแรงปรารถนา เสียงลมหายใจที่ติดขัดของอเล็กซ์และเซนผสานเข้ากับเสียงครางแผ่วของเธอ ทุกสัมผัสราวกับคลื่นที่ถาโถมเข้าใส่เธอจากทุกทิศทาง ผิวเนียนละเอียดของเธอชุ่มเหงื่อ สั่นสะท้านไปด้วยความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน มิลินหลับตาลง ล่องลอยอยู่ในโลกที่มีเพียงเสียงและสัมผัสจากพวกเขาที่แทรกซึมลึกลงไปในหัวใจของเธอ เมื่อริมฝีปากที่แนบแน่นถอนออกจากกัน ร่องรอยของความหลงใหลยังคงชัดเจนอยู่บนใบหน้าของมิลิน ริมฝีปากของเธอเปล่งประกายด้วยหยาดน้ำลายที่ไหลซึมออกมาเลอะขอบปาก ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความมั่นใจเริ่มพร่ามัวด้วยแรงอารมณ์ เธอพยายามรวบรวมแรงเพื่อห้ามปราม แต่สิ่งที่หลุดออกมามีเพียงเสียงที่สั่นสะท้าน “ไอ้อั้น...อร๊าง...ไอ้เหี้ยอั้น...กูจะเสร็จแล้ว...อ๊า...ออกไปก่อนไปไหม...ไม่งั้นกู...” เสียงครางของเธอแตกพร่าเหมือนเปลวเทียนที่กำลังสั่นไหวในสายลม พยายามจะดึงตัวเองออกจากวังวนของความรู้สึกที่เธอควบคุมไม่ได้ มิลินใช้มือเรียวจิกลงไปบนเส้นผมของไรอัน พยายามจะผลักเขาออกด้วยแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่ แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งกดแนบแน่นลงไปอีก เขาไม่สนใจการต่อต้านอันแผ่วเบานั้น กลับยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ ขณะที่ละเลงลิ้นต่อไปอย่างไร้ความปราณี ความมุ่งมั่นในดวงตาของเขาเหมือนผู้ล่า ที่ไม่ยอมปล่อยให้เหยื่อหนีรอด ร่องรักสีชมพูหวานได้รับการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง “อย่าได้ห้ามมันเลย...” เสียงทุ้มต่ำของอเล็กซ์ดังขึ้นพร้อมกับการถอดเสื้อออก เผยให้เห็นผิวขาวอมชมพูที่สะท้อนแสงไฟในห้อง กล้ามเนื้อที่เรียงตัวแน่นหนาและเส้นเลือดที่ปรากฏชัดเจนทั่วเรือนร่างทำให้เขาดูน่าหลงใหลอย่างไม่มีที่ติ ร่างกายที่สมบูรณ์แบบของเขาเหมือนงานศิลปะที่รังสรรค์ขึ้นด้วยมือของเทพเจ้า ดวงตาของมิลินเลื่อนขึ้นไปสบกับอเล็กซ์ ความรู้สึกที่ทั้งอับอายและหวามไหวผสมปนเปจนยากจะอธิบาย เธอพยายามเบือนหน้าหนี แต่เสียงหัวเราะเบา ๆ ของเซนที่ยืนอยู่ไม่ไกลทำให้เธอสะดุ้ง “ใช่...มันก็แค่พยายามจะช่วยมึงเท่านั้นเอง...ด้วยลิ้นของมัน...ฮ่าฮ่าฮ่า” เซนพูดด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความเย้ยหยัน มือของเขายื่นไปสัมผัสมือเล็ก ๆ ของมิลินอย่างร้อนแรง เพื่อประคองจังหวะให้เธอยังคงดำเนินการปรนเปรอให้เขาต่อไปได้อย่างไม่ขาดช่วง ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความสนุกสนานราวกับกำลังเล่นเกมที่เขารู้ว่าตนเองจะเป็นฝ่ายชนะ มิลินมองเขาด้วยความรู้สึกที่ปนเปไปหมด หัวใจของเธอเต้นถี่รัวเหมือนกลองศึกที่กำลังเร่งจังหวะ เธอพยายามที่หยุดพักในบางครั้ง แต่สัมผัสจากเซนก็แนบแน่นเกินกว่าที่เธอจะหลีกหนีได้ สุดท้ายเธอก็ต้องรูดถูท่อนเนื้อนี้ต่อไป แสงไฟในห้องสะท้อนผิวเนียนละเอียดของทั้งสามคน ความร้อนในบรรยากาศเหมือนเปลวไฟที่ลุกไหม้ในคืนอันมืดมิด เสียงหายใจถี่กระชั้นและเสียงกระซิบที่แผ่วเบาทำให้ทุกอย่างดูเหมือนความฝันที่หลุดพ้นจากความจริง ความสับสนในใจของมิลินเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นแรงปรารถนาที่เธอไม่อาจต้านทาน ‘ชักจะคิดอะไรไม่ออกแล้วสิ...อา...ความรู้สึกเหมือนเข้ามาในภวังค์แบบนี้เหมือนกับตอนที่ช่วยตัวเองมาก ๆ จนสมองเบลอไม่มีผิด...แต่มันต่างกันตรงที่ตอนนี้เรามีเพื่อน ๆ สุดหล่อแถมหุ่นล่ำทั้งสามคนมาช่วยเร้าโรมเราแทนที่จะเป็นแค่นิ้ว...หรือดิลโด้แท่งเย็น ๆ ’ สายตาของมิลินพลันเลื่อนไปทางซ้าย สบเข้ากับเซนที่นั่งอยู่ด้วยร่างเปลือยเปล่าโดยไร้ซึ่งความอาย กล้ามเนื้อที่ได้สัดส่วนและผิวสีขาวคล้ำแดดเนียนละเอียดสะท้อนแสงไฟในห้องให้ดูโดดเด่นน่าหลงใหล แต่ก่อนที่เธอจะปล่อยให้ความคิดหลุดลอยไปกับภาพตรงหน้า สายตาของเธอพลันเหลือบไปทางขวา ที่นั่น...อเล็กซ์ยืนอยู่ในสภาพเดียวกัน กล้ามเนื้อที่ล่ำสันของเขาโดดเด่นท่ามกลางแสงสลัว ผิวขาวอมชมพูของเขาเหมือนกระเบื้องเคลือบที่เปล่งประกายสะอาดตา แม้ว่าใบหน้าของเขาจะดูนิ่งเรียบ แต่แววตากลับเปี่ยมด้วยความปรารถนาอย่างไม่ปิดบัง ความสมบูรณ์แบบของเขาเหมือนกับวีรบุรุษในตำนานที่เพิ่งก้าวออกจากจิตรกรรมฝาผนัง มิลินกลืนน้ำลายด้วยความกระอักกระอ่วน แต่ก่อนที่เธอจะทันได้ตั้งตัว ร่างสูงใหญ่ของอเล็กซ์ก็ขยับเข้ามาใกล้ เธอรู้สึกถึงน้ำหนักของโซฟาที่ยุบลงเมื่อเขานั่งลงข้าง ๆ ร่างของเธอ ความใกล้ชิดของเขาทำให้ลมหายใจเธอสะดุด เสียงกระซิบที่แผ่วเบาดังขึ้นข้างหู เสียงนั้นทั้งนุ่มนวลและเจือความเจ้าเล่ห์ราวกับผู้ล่าที่กำลังปลอบใจเหยื่อก่อนลงมือ “ช่วยเข้าใจหน่อยนะ...” เสียงของเขายืดยาว แต่กลับดึงดูดให้เธอต้องฟังต่ออย่างช่วยไม่ได้ “ในเมื่อมึง...แม่งโคตรจะน่าอร่อย ถ้าจะให้อดแล้วทนหิวเอาไว้มันก็คงจะลำบากสำหรับพวกกู...” คำพูดของเขาชวนให้ใจเต้นแรงเหมือนเสียงกลองที่ตีถี่รัวในอก มิลินไม่ทันได้ตอบกลับ ก่อนที่สัมผัสร้อนแรงจากริมฝีปากของอเล็กซ์จะประทับลงบนยอดประทุมถันสีชมพูหวานของเธอ “นมยั่ว ๆ ของมึงกูขอชิมหน่อยก็แล้วกัน...” อเล็กซ์ว่างั้น และเขาก็ไม่ได้เพียงสัมผัส...แต่กลับดูดดื่มราวกับต้องการดื่มด่ำให้ลึกซึ้งไปถึงจิตวิญญาณ ลิ้มรสความหวานมันจากเธออย่างเพลิดเพลิน เสียงหัวใจของมิลินเต้นแรงราวกับจะหลุดออกจากอก ร่างกายเธอเริ่มสั่นไหวเหมือนใบไม้ที่ต้องลม เธอพยายามจะควบคุมตัวเอง แต่ความรู้สึกวาบหวามที่ถูกปลุกขึ้นกลับยากเกินต้าน “ขอด้วยคนสิ...ปล่อยให้มิลชักให้อย่างเดียวดูเหมือนว่ามันจะไม่พอ...” เสียงของเซนดังขึ้นแผ่วเบา แต่หนักแน่นพอที่จะดึงความสนใจของเธอกลับไป ร่างสูงใหญ่ของเซนเข้ามาใกล้ เขาไม่ได้พูดคำใดต่อ แต่กลับทำสิ่งเดียวกับอเล็กซ์ ลิ้นอุ่นของเขาไล่เล็มสัมผัสบนผิวเธอจากอีกด้านหนึ่ง รวมถึงยอดประทุมถันข้างนั้นด้วย การกระทำของเขานั้นละเอียดอ่อน แต่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ราวกับเขากำลังพยายามจารึกทุกความรู้สึกลงบนผิวของเธอ มิลินรู้สึกราวกับถูกล้อมรอบด้วยเปลวไฟที่แผดเผาแต่กลับอบอุ่น ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่ว เธอไม่อาจปฏิเสธหรือหลีกหนีจากสัมผัสของทั้งสองคนได้ ความวาบหวามในร่างกายเหมือนระลอกคลื่นที่ซัดสาดอย่างไม่หยุดหย่อน เธอรู้ตัวว่ากำลังถูกดึงเข้าสู่ห้วงแห่งความปรารถนา แต่ทุกครั้งที่พยายามจะตั้งสติ เสียงกระซิบและสัมผัสที่อ่อนโยนกลับพาเธอกลับเข้าสู่วังวนเดิมอีกครั้ง—เป็นวงจรที่ไม่มีที่สิ้นสุด “พวกมึงนี่มัน...” เสียงของมิลินแผ่วเบา แต่แฝงไว้ด้วยความอ่อนแรง เธอพยายามจะพูดต่อ แต่กลับถูกขัดจังหวะด้วยแรงอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามาแทน “กูหมดคำจะพูดแล้วจริง ๆ...อร๊างงง~!” น้ำตาไหลรินจากหางตาของเธอโดยไม่รู้ตัว ขณะที่ร่างกายของเธอสั่นระริกราวกับปลาเกยตื้น ชักดิ้นชักงอพยายามควานหาแหล่งน้ำ ความรู้สึกซาบซ่านจากสัมผัสของพวกเขาพุ่งพล่านไปทั่วร่าง เธอใกล้จะถึงขีดสุดแล้ว แต่ก็ไม่อาจหนีจากความรู้สึกนี้ได้ ทั้งสามหนุ่มดูเหมือนจะเข้าใจถึงจุดอ่อนไหวของเธออย่างถ่องแท้ แต่ละคนสลับกันใช้ลิ้นและฟันประทับรอยสัมผัสลงบนตัวเธอในแบบที่แตกต่างกันออกไป ราวกับพวกเขากำลังแต่งบทเพลงแห่งความเสน่หาบนเรือนร่างของเธอ ไรอันเป็นคนที่ดูเหมือนจะมุ่งมั่นที่สุด เขาดูดดื่มไปกับทุกอณูของเธอด้วยท่วงทำนองที่ช่ำชองและละเอียดอ่อน ลิ้นของเขาเคลื่อนไหวอย่างเชี่ยวชาญ พุ่งเป้าไปยังจุดที่บอบบางที่สุดของเธอ ราวกับว่าเขารู้จักร่างกายของเธอมากกว่าเจ้าตัวเองเสียอีก มิลินพยายามจะต่อต้านความรู้สึกที่ท่วมท้น เธอกัดฟันแน่น ร่างกายเกร็งสะท้านเหมือนพยายามหยุดยั้งคลื่นอารมณ์ที่กำลังจะระเบิดออก แต่สุดท้าย... “อ๊ะ...อร๊าง!!” เสียงครางของเธอดังขึ้นพร้อมกับแรงสั่นสะเทือนของร่างกาย “พวกมึง...กูไม่ไหวแล้ว...กูจะเสร็จแล้ว!” เสียงที่หลุดออกจากปากเธอเต็มไปด้วยความวิงวอนและความยอมจำนน น้ำเสียงของเธอสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ ขณะที่ร่างกายของเธอกำลังถึงจุดสูงสุดของความสุข และแล้วมันก็เกิดขึ้น... “กูเสร็จแล้ว...อร๊าาางงงงงง~!!” เสียงครางของมิลินดังสะท้านไปทั่วห้อง ร่างกายของเธอสั่นเทิ้มตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ราวกับถูกไฟฟ้าช็อต เธอรู้สึกถึงกระแสความสุขที่แผ่ซ่านไปทั่วเรือนร่าง ปลายเท้าของเธอกระตุกถี่ราวกับตอบสนองต่ออารมณ์ที่ถาโถมเข้ามา ดวงตาของเธอหลับพริ้ม น้ำตาไหลอาบแก้ม ริมฝีปากเผยอออกเหมือนพยายามจะสูดลมหายใจ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมได้ ไรอันจ้องมองเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน เขาไม่ปล่อยให้เธอสูญเสียสิ่งใดไปโดยเปล่าประโยชน์ ความอ่อนโยนที่เขาแสดงออกทำให้มิลินรู้สึกเหมือนตกอยู่ในห้วงแห่งความสุขที่ไร้จุดสิ้นสุด ‘นั่นเขาจะทำอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ...คิดว่ามีแต่ผู้หญิงอย่างเดียวเสียอีกที่กินน้ำของผู้ชาย...แต่ผู้ชายเองก็...’ มิลินปลดปล่อยตัวตนของเธอออกมาอย่างหมดสิ้นผ่านทุกหยาดน้ำที่พวยพุ่งออกมาจากร่องรักของเธอ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอเก็บกดไว้ได้รับการปลดปล่อยออกมาในวินาทีนั้น ความรู้สึกของเธอพุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน ราวกับว่าเธอกำลังถูกพัดพาไปสู่ดินแดนแห่งความสุขที่ไม่เคยมีใครไปถึง ขณะเดียวกัน ไรอันที่ประกบปากไปตรงรูร่องของเธอ ก็ทำการกลืนกินของเหลวที่อัดฉีดเข้ามาในช่องปากและลำคอเข้าไปทั้งหมด เสียงอึก ๆ ดังขึ้นแผ่วเบาในลำคอ กระทั่งหมดจนไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว ‘เขาทำได้...’ ความคิดของมิลินล่องลอย ขณะที่ดวงตาสั่นไหวจับจ้องไรอันที่เพิ่งกลืนกินทุกหยดของเธออย่างไม่เหลือหลอ ความร้อนซ่านในใจเธอพุ่งพล่านเมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาเร่าร้อนจากชายหนุ่มตรงหน้า ‘ไอ้อั้นเก่งจังที่กินน้ำของเราเข้าไปจนไม่เหลือเลย...อา...ดูเหมือนว่าจะถึงตาของเราบ้างแล้วสิ...’ เธอคิดพลางหอบหายใจแรง หน้าอกของเธอไหวกระเพื่อมตามจังหวะการเต้นของหัวใจที่ยังคงเต้นระรัวเหมือนกลองศึก ขณะที่มิลินพยายามจะควบคุมอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เซนและอเล็กซ์ก็ละริมฝีปากออกจากผิวกายที่แดงซ่านของเธอ ยอดประทุมถันที่เต่งตึงเต็มไปด้วยคราบน้ำเหนียวหนืด รอยน้ำลายเหล่านั้นหยาดเยิ้ม หลงเหลือเป็นประกายบนผิวที่ชุ่มเหงื่อ ทั้งคู่สบตากันพร้อมแสยะยิ้มราวกับนักล่า “มามะ...” เซนกระซิบเสียงต่ำข้างหูเธอ นิ้วของเขาไล้ไปตามแนวไหล่ที่บอบบางของมิลินอย่างแผ่วเบา ความรู้สึกของสัมผัสนั้นคล้ายจะปลอบโยนแต่กลับจุดประกายความเร่าร้อนขึ้นมาอีกครั้ง “มึงเสร็จแล้วก็จริง...แต่พวกกูยังไม่เลย...เพราะงั้นเราจะต่อกันเลยนะ...ไหวรึเปล่า?” To be continued...น้ำเสียงท้าทายของเซนเต็มไปด้วยความเย้าแหย่ แต่มันทำให้มิลินรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่เกมที่พวกเขาเป็นฝ่ายกำหนดกติกา “ไม่ไหวก็บอกได้นะ” อเล็กซ์กล่าวขึ้น น้ำเสียงของเขาแฝงความอบอุ่น แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้ากลับฟ้องชัดว่าเขากำลังเพลิดเพลินกับการหยอกล้อเธอ “ถึงจะดูเหมือนว่าพวกกูรุกหนักไปหน่อย...แต่พวกกูก็ยังเอ็นดูมึงอยู่นะมิล...” คำพูดนั้นคล้ายจะปลอบใจ แต่กลับทำให้มิลินรู้สึกเหมือนถูกท้าทายเข้าไปอีก ทุกสายตาที่จับจ้องมาทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกจับอยู่ในกรงแห่งความปรารถนา ไรอันที่ยืนอยู่ตรงหน้าเช็ดริมฝีปากช้า ๆ ก่อนจะยืนเต็มความสูง ดวงตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นและความปรารถนาอันลึกล้ำ เขาค่อย ๆ ถอดเสื้อออก เผยให้เห็นผิวขาวผ่องที่ตัดกับกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและเส้นเลือดที่เด่นชัดอย่างน่าหลงใหล “มิล...” ไรอันเอ่ยชื่อเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แต่หนักแน่น “ถ้าไม่อยากก็บอกได้...แต่ถ้าอยาก...กูอยากได้ยินมึงพูดออกมาตรง ๆ” คำพูดของเขาทำให้มิลินสะดุ้งเล็กน้อย ความเขินอายแผ่ซ่านทั่วใบหน้า ริมฝีปากบางของเธอสั่นเล็กน้อยขณะพยายามจะพูดบางสิ่งออกมา แต่กลับไม่มีคำพูดใดหลุดรอดออกมา ภาพชายหนุ
มิลินกัดริมฝีปากแน่น พยายามตั้งสติและรวบรวมความกล้า เธอขยับตัวแรงขึ้นตามคำท้าทายนั้น แต่ยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกถึงความจุกเสียดที่ทวีความเข้มข้น“แบบนี้เหรอ? อึ๊ก...อร๊า~!” เสียงครางกระเส่าของเธอสะท้อนอยู่ในห้องแคบ ๆ ดวงตาของเธอเริ่มพร่ามัวจากน้ำตาที่คลอเบ้า ความอิ่มเอมและความทรมานผสมผสานกันจนเธอไม่อาจหยุดยั้งตัวเองได้‘ถึงมันจะทรมาน...แต่มันก็โคตรจะรู้สึกดีเลย...นี่เราพึ่งจะขย่มเองนะ...แต่ชักจะติดใจควยเขาแล้วสิ...ทั้งใหญ่ทั้งยาว..แถมเจ้าตัวยังเป็นหนุ่มแว่นสุดหล่ออีกต่างหาก...อา...รู้สึกภูมิใจจริง ๆ ที่ได้มีอะไรครั้งแรกกับคนอย่างไอ้อั้น...’มิลินคิดในใจพลางกัดริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงครางที่พร้อมจะเล็ดรอดออกมาตลอดเวลา ความร้อนวูบวาบในท้องน้อยเหมือนคลื่นไฟฟ้าที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาค่อย ๆ เอ่อออกมาช้า ๆ ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวด แต่เป็นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่รุนแรงเกินจะทานทน ความสุขสมที่ไม่อาจบรรยายได้มันเหมือนเกลียวคลื่นที่ซัดกระหน่ำเธอจนแทบหายใจไม่ออก เสียงกระซิบแผ่วเบาของไรอันดังขึ้นใกล้ใบหู พร้อมกับลมหายใจอุ่นร้อนที่แตะสัมผัสผิวเนียนของเธอ “ใช่...อา...พอได้กุมบังเ
เสียงนั้นดังออกมาจากในลำคอของมิลิน เป็นเสียงที่ฟังดูน่าหวาดเสียวซึ่งมาพร้อมกับน้ำลายจำนวนมากที่กระเฉอะออกจากริมฝีปากของเธออ๊อก! อ๊อก! อ๊อก!ของเหลวสีใสเหนียวหนืดยืดเยิ้ม มันหยาดย้อยลงจากปลายคางจรดหน้าอกอวบอิ่มของเธอ ไล่เลื้อยลงไปเรื่อย ๆ ผ่านหน้าท้องแบนราบและหน้าขาขาวเนียน ก่อนที่จะไปรวมกันอยู่ตรงใต้หว่างขาของเธอ มันดูยั่วยวนชวนใคร่อย่างน่าเหนือเชื่อ แม้มุมหนึ่งมันจะดูเหนอะหนะไปบ้างก็ตามอเล็กซ์ที่ได้รับการรูดถูท่อนเนื้อด้วยมือเล็ก ๆ จากมิลินครวญครางเสียงทุ้มต่ำ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงท้าทาย “อา~มือเองก็อย่างพริ้ว…ชักต่อไปเรื่อย ๆ อย่างนั้น...ไหนแรงขึ้นอีกสิ...” เขาไม่เพียงสั่ง แต่ยังจับมือเธอและสอนเธอด้วยว่าควรเพิ่มความเร็วมากแค่ไหน ใส่น้ำหนักมากขึ้นอย่างไร เพื่อให้ความเร่าร้อนนี้เป็นไปตามที่ใจเขาปรารถนาอเล็กซ์ที่เฝ้ามองมิลินใช้ปากให้เซนอย่างเมามัน เมื่อพบกับโอกาสที่เฝ้ารอเขาก็แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพึงพอใจ โดยไม่รอช้า...ทันทีที่มิลินขย้อนท่อนเนื้อของเซนออกจากปากของเธอพร้อมด้วยน้ำลายที่ตามติดมาเป็นพรวน หนุ่มลูกครึ่งคนนี้ก็ทำการกุมศีรษะเธอไว้มั่นด้วยสองมือ จากนั้นก็กระชากหัวเล็ก ๆ ข
หญิงสาวที่ได้รับการกระทบกระทั่งโดยของเหลวเหล่านี้ที่ประเดประดังเข้ามาหาตัว ทั้งภายในและภายนอก พวกมันมีสัมผัสร้อนและเหนียวหนืด แปดเปื้อนไปทั่วร่าง และซาบซ่านทั้งท้องน้อย ลุกลามไปทั้งตัว มอบความรู้สึกอึดอัด เหนอะหนะ และขยะแขยง แต่ในมุมหนึ่งมันก็ลื่นไหล และทำให้เธอตื่นเต้นเร้าใจไม่น้อยที่ได้กลายเป็นที่ระบายความใคร่ให้กับเหล่าหนุ่ม ๆ เพื่อนชายสุดที่รักของเธอมิลินสั่นกระตุกอย่างรุนแรงอยู่พักใหญ่ราวกับคนเป็นโรคลมชัก เนื่องจากความเสียวซ่านที่ท่วมท้นมันทำให้ร่างกายของเธอไม่อาจจะแบกรับได้ไหว แต่ในขณะเดียวกันความสุขก็ก่อตัวขึ้นมาจากก้นบึ้งของจิตใจ และแพร่กระจายไปทั่วในทุกอณูรูขุมขน เมื่อทุกอย่างสงบลง ปลายเท้าที่เกร็งแน่นและสั่นระริกก็หยุดการเคลื่อนไหวร่างอรชรของมิลินนอนอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของไรอัน หน้าอกกระเพื่อมแรง หอบหายใจอย่างหนัก เหงื่อชุ่มไปทั้งร่าง ดวงตาเธอพร่ามัวไปหมด ทั้งด้วยน้ำตาและความมึนเมาหลังถึงจุดสุดยอด แต่เธอก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งความสุข—ทว่าความรู้สึกเหล่านี้ยังไม่จบลงแค่นี้“อย่าพึ่งทนไม่ไหวสิ...” ไรอันกล่าวเย้ยหยัน น้ำเสียงของเขาเจือความขบขันและความกระหายที่ยังไม่ถู
“งั้นเหรอ...?” เธอย้ำด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก ราวกับน้อมรับคำท้าทายที่อีกฝ่ายมอบให้ ทว่าเสียงนั้นก็ยังเจือไปด้วยความสั่นเทาอยู่ดี จากร่างกายที่ถูกเขย่าโดยคนสามคน ขณะนั้นเอง ไรอันก็ยื่นท่อนเนื้อออกมาท้าทายเธอโดยไม่มีคำพูดใดอย่างไรก็ตาม มิลินไม่รีรอเลยแม้แต่วินาทีเดียว ปลายลิ้นสีชมพูแตะสัมผัสที่หัวปลีของเขา ก่อนที่เธอจะอ้าปากรับท่อนเนื้อนี้เข้าไปในโพรงปากที่ชื้นแฉะและอบอุ่น ราวกับเชิญชวนให้หลงใหล เธอกัดเบา ๆ จากนั้นก็ดูดดื่มมันอย่างเร่าร้อนจนเสียงน้ำลายหยาดเยิ้มสะท้อนอยู่ภายในใจของทั้งสามหนุ่ม‘การอมควยที่ผ่านหีมามันได้รสชาติอีกแบบเลย...แต่ก็ไม่แย่เพราะหีที่ควยแท่งนี้เข้าไปก็หีเราเอง...’ เมื่อถอนริมฝีปากออกมา น้ำลายหยดย้อยเป็นเส้นสาย เธอปรายสายตาไปที่ไรอันพร้อมเอ่ยด้วยเสียงที่แหบพร่า “ก็ได้...กูยอมรับชอบพวกมึง...ชอบในแบบที่ไม่ใช่แค่เพื่อน....” แม้สติจะเลอะเลือน แต่เธอก็พยายามตอบให้รู้ความ “...และกูอยากได้พวกมึงมาเป็นผัวกูพร้อมกันทุกคนเลย...หึหึ...โลภมากใช่ไหมล่ะ...?”น้ำเสียงของเธอหนักแน่นและเจือไปด้วยความเย้ายวน มิลินกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ “พอดีว่าคนเดียวมันไม่พอ...ที่
ยอดประทุมถันสีชมพูหวานขยับไหวตามแรงสั่นสะเทือนเซนถอนริมฝีปากออกจากผิวเนียนของมิลิน ทิ้งร่องรอยแห่งความหลงใหลไว้ราวกับลายพู่กันบนผืนผ้าใบ ริมฝีปากที่บวมช้ำจากแรงกดคลายออกเอ่ยคำพูดที่สั่นสะเทือนอารมณ์ “อา...กูว่ากูจะไม่ไหวแล้วว่ะแบบนี้...มิล...หีมึงดียิ่งกว่าอะไรเลยจริง ๆ ถึงกูจะไม่อยากหยุดเย็ด...แต่กูว่า...กูใกล้จะแตกแล้วว่ะ...”ร่างกายของเซนเกร็งแน่นขณะขยับสะโพกเร็วขึ้น แรงขึ้น ทุกจังหวะเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความปรารถนาที่ไม่อาจหยุดยั้ง เสียงลมหายใจหนักหน่วงสะท้อนความรู้สึกที่ท่วมท้น ความร้อนที่แผ่กระจายจากเขาเข้าถึงมิลินทุกอณู ความรู้สึกที่รุนแรงราวกับคลื่นทะเลที่โถมเข้ากระแทกชายฝั่ง ซัดสาดเข้าหากันจนไม่อาจแยกแยะระหว่างความสุขและความทรมาน ร่างกายของทุกคนสั่นสะท้านอย่างกลมกลืนในจังหวะเดียวกันทางฝั่งไรอันเอง เขาก็ร้อนรนยิ่งขึ้นทุกที “ใครจะอยากหยุดเย็ดวะ...อีนี่ยั่วซะขนาดนี้...กูเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกมึงถึงได้แย่งกันเย็ดคอแม่ง...อืม...ตอนนี้กูเองก็ใกล้จะเสร็จแล้วเหมือนกัน...” เขาไม่เพียงแต่กระชากหัวเธอเข้าหาตัวเท่านั้น แต่ยังขยับสะโพกด้วย เพื่อปล่อยให้ท่อนเนื้อของตัวเองกระแทกลึกลงไปใ
เราชื่อ มิลิน เพื่อน ๆ ชอบเรียกเราว่ามิล แบบสั้น ๆ จำง่ายดี เราอายุ 21 ปี ตอนนี้เรียนอยู่ปีสาม คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ เป็นคณะที่หลายคนมองว่าเรียนยาก แต่สำหรับเรา มันคือสิ่งที่เราอยากทำมาตั้งแต่เด็กส่วนตัวเราสูง 160 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 49 กิโลกรัม ไม่ได้สูงมาก แต่ก็พอใจในตัวเองนะ ที่สำคัญคือสายตาค่อนข้างสั้น ต้องใส่แว่นตลอดเวลา เลยกลายเป็นเอกลักษณ์ของเราไปซะแล้วเราอาจจะดูเป็นคนเรียบร้อยในสายตาคนอื่น แต่จริง ๆ แล้วเราก็มีมุมซน ๆ ของตัวเองเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาที่มีอารมณ์...ในห้องนอนที่เงียบสงบ เราเริ่มจัดกล้องอย่างพิถีพิถัน มุมภาพต้องสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนและดึงดูดที่สุด ทุกครั้งที่ขยับขาตั้งกล้อง เสียงเล็ก ๆ ที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบยิ่งทำให้เรารู้สึกตึงเครียด เรารู้ดีว่ากำลังจะทำอะไร และมันไม่ใช่สิ่งที่เราฝันถึงเลย แต่ความจำเป็นกดดันเราจนไม่มีทางเลือก เสียงหัวใจเต้นแรงเหมือนกลองที่ถูกตีซ้ำ ๆ ทุกการเคลื่อนไหวดูหนักอึ้ง เพราะเรารู้ว่ากล้องตัวนั้นกำลังรอจับภาพของเราในสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าจะทำ... ย้อนกลับไปในวันนั้น วันที่กำหนดจ่ายค่าเทอมใกล้เข้ามาเต็มที เราไม่มีเ
ผมชื่อเซน อายุ 21 ปี ตอนนี้เรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวะโยธา ถ้าจะบอกว่าชีวิตผมธรรมดาก็คงไม่ถูกนัก เพราะที่ผ่านมา ผมเคยเป็นนักบาสของโรงเรียน ตอนนั้นชีวิตเต็มไปด้วยเสียงเชียร์ ความกดดัน และความภาคภูมิใจ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้อยู่ในทีมบาสแล้ว แต่ผมก็ยังมีความทรงจำดี ๆ เกี่ยวกับมันอยู่ ที่สำคัญก็ยังคงเล่นบาสอยู่กับเพื่อน ๆ ตามเดิมครอบครัวผมไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก แต่พ่อแม่ก็มีธุรกิจอพาร์ทเมนต์หลายแห่ง พูดได้ว่าเราก็อยู่กันได้แบบไม่ขัดสนเท่าไหร่ ถึงจะไม่ได้ล้นเหลือเหมือนไอ้เล็ก (อเล็กซ์) เพื่อนลูกครึ่งที่พ่อมันเป็นนักธุรกิจระดับโลก แต่ผมก็ภูมิใจในตัวเองที่สามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน และฝรั่งเศส ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่ผมมักใช้สร้างความประทับใจให้คนอื่นความสามารถอีกอย่างที่ผมชอบอวดก็คือการร้องเพลง ผมมั่นใจว่าเสียงของผมดีกว่าใครในกลุ่มแน่นอน ไอ้อั้น (ไรอัน) ไอ้เล็ก และอีมิล (มิลิน) พวกนั้นร้องเพลงแย่จนแทบจะทำให้ลำโพงระเบิดแต่ในเรื่องความสัมพันธ์ ผมคงไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงดีนัก ผมเคยคบกับผู้หญิงสวย ๆ ระดับดาวคณะหรือเน็ตไอดอลหลายคน แต่ก็มักจบไม่สวย พวกเธอมักนอกใจ และผมก็เลือก
Special : 4ผมชื่ออเล็กซ์ อายุ 21 ปี กำลังเรียนอยู่คณะวิศวกรรมเครื่องกล ชีวิตของผมอาจฟังดูหรูหราเหมือนในละคร บ้านที่ผมอยู่ใหญ่โตจนเหมือนคฤหาสน์ ครอบครัวเรามีฐานะร่ำรวยจากธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะหุ้นในบริษัทเหล้าและบุหรี่ที่ทำให้พ่อของผมกลายเป็นคนทรงอิทธิพลในแวดวงอุตสาหกรรมนี้ แต่ความหรูหรานั้นมาพร้อมกับกฎระเบียบที่เข้มงวด ผมถูกคาดหวังให้เป็นแบบอย่างที่ดีเสมอ การเรียนในคณะวิศวกรรมเครื่องกลไม่ใช่เรื่องหนักหนาสำหรับผม แต่การต้องติดตามพ่อไปดูงานธุรกิจต่าง ๆ นี่สิ มันเป็นสิ่งที่บั่นทอนอิสระของผมในแบบที่ไม่มีใครเข้าใจ ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้ ไม่ค่อยยุ่งกับเรื่องผู้หญิงมากนัก แต่ถ้าเป็นเหล้า เบียร์ หรือบุหรี่ ผมยอมรับว่าจัดเต็ม พ่อเองก็สนับสนุนเสียด้วยซ้ำ เพราะมันคือธุรกิจที่ทำรายได้มหาศาลให้กับครอบครัว การใช้ชีวิตของผมเลยเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างความเคร่งครัดและการปลดปล่อย ผมเป็นคนรักความสะดวกสบาย ชอบอยู่บ้านมากกว่าออกไปไหนไกล ๆ หรือไม่ก็หาโอกาสไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ในสถานที่ที่พ่อแนะนำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสถานที่ที่มีความลับซ่อนอยู่ ทั้งคลับหรูและโรงแรมลับที่มีไว้สำหรับคนในแวดวงของเรา หร
ผมชื่อไรอัน อายุ 21 ปี กำลังเรียนคณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ ซึ่งบังเอิญเป็นสาขาเดียวกันกับมิล หญิงสาวที่ชีวิตของผมเกี่ยวข้องกับเธออย่างไม่ทันตั้งตัว ผมเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่เป็นหมอ ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องที่ใครหลายคนฝันถึง แต่ผมกลับไม่ได้อยากเดินบนเส้นทางเดียวกันนั้นความคาดหวังจากครอบครัวไม่ได้หนักหนาเกินไป เพราะผมเรียนได้ดีเสมอ แม้จะมีพี่สาวที่เป็นหมออีกคน แต่เราไม่ค่อยสนิทกันนัก ครอบครัวเราอาจจะไม่ได้ร่ำรวยล้นฟ้า แต่ผมคิดว่าผมโชคดีที่มีบ้านที่อบอุ่นชีวิตผมเรียบง่าย ไม่หวือหวา ผมรู้ตัวเองดีว่าหน้าตาดี เป็นจุดแข็งที่ทำให้ผมใช้มันเป็นโอกาสในการหาเงินจากการถ่ายภาพลงโซเชียล มีคนติดต่อให้ผมรับงานโฆษณาอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพและการดูแลผิวพรรณ อาจจะเป็นเพราะผิวผมดี หน้าตาเข้าที และรูปร่างล่ำสันจากการออกกำลังกายสม่ำเสมอในโลกที่มีคนมารายล้อม ผมกลับเลือกจะเก็บตัว แม้จะมีผู้หญิงเข้ามาจีบ หรือแม้กระทั่งผู้ชาย แต่ผมปฏิเสธไปหมดทุกคน ผมอาจดูเหมือนคนเย็นชาในสายตาคนอื่น แต่ความจริงแล้ว ผมแค่รอใครสักคนที่ทำให้ใจผมเต้นแรงขึ้นมาจริง ๆจนกระทั่งวันหนึ่ง...ชีวิตของผมได้พัวพันกับมิล หญิง
ผมชื่อเซน อายุ 21 ปี ตอนนี้เรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวะโยธา ถ้าจะบอกว่าชีวิตผมธรรมดาก็คงไม่ถูกนัก เพราะที่ผ่านมา ผมเคยเป็นนักบาสของโรงเรียน ตอนนั้นชีวิตเต็มไปด้วยเสียงเชียร์ ความกดดัน และความภาคภูมิใจ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้อยู่ในทีมบาสแล้ว แต่ผมก็ยังมีความทรงจำดี ๆ เกี่ยวกับมันอยู่ ที่สำคัญก็ยังคงเล่นบาสอยู่กับเพื่อน ๆ ตามเดิมครอบครัวผมไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก แต่พ่อแม่ก็มีธุรกิจอพาร์ทเมนต์หลายแห่ง พูดได้ว่าเราก็อยู่กันได้แบบไม่ขัดสนเท่าไหร่ ถึงจะไม่ได้ล้นเหลือเหมือนไอ้เล็ก (อเล็กซ์) เพื่อนลูกครึ่งที่พ่อมันเป็นนักธุรกิจระดับโลก แต่ผมก็ภูมิใจในตัวเองที่สามารถพูดได้ถึง 4 ภาษา ไทย อังกฤษ จีน และฝรั่งเศส ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่ผมมักใช้สร้างความประทับใจให้คนอื่นความสามารถอีกอย่างที่ผมชอบอวดก็คือการร้องเพลง ผมมั่นใจว่าเสียงของผมดีกว่าใครในกลุ่มแน่นอน ไอ้อั้น (ไรอัน) ไอ้เล็ก และอีมิล (มิลิน) พวกนั้นร้องเพลงแย่จนแทบจะทำให้ลำโพงระเบิดแต่ในเรื่องความสัมพันธ์ ผมคงไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงดีนัก ผมเคยคบกับผู้หญิงสวย ๆ ระดับดาวคณะหรือเน็ตไอดอลหลายคน แต่ก็มักจบไม่สวย พวกเธอมักนอกใจ และผมก็เลือก
เราชื่อ มิลิน เพื่อน ๆ ชอบเรียกเราว่ามิล แบบสั้น ๆ จำง่ายดี เราอายุ 21 ปี ตอนนี้เรียนอยู่ปีสาม คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ เป็นคณะที่หลายคนมองว่าเรียนยาก แต่สำหรับเรา มันคือสิ่งที่เราอยากทำมาตั้งแต่เด็กส่วนตัวเราสูง 160 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 49 กิโลกรัม ไม่ได้สูงมาก แต่ก็พอใจในตัวเองนะ ที่สำคัญคือสายตาค่อนข้างสั้น ต้องใส่แว่นตลอดเวลา เลยกลายเป็นเอกลักษณ์ของเราไปซะแล้วเราอาจจะดูเป็นคนเรียบร้อยในสายตาคนอื่น แต่จริง ๆ แล้วเราก็มีมุมซน ๆ ของตัวเองเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาที่มีอารมณ์...ในห้องนอนที่เงียบสงบ เราเริ่มจัดกล้องอย่างพิถีพิถัน มุมภาพต้องสมบูรณ์แบบ เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนและดึงดูดที่สุด ทุกครั้งที่ขยับขาตั้งกล้อง เสียงเล็ก ๆ ที่ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบยิ่งทำให้เรารู้สึกตึงเครียด เรารู้ดีว่ากำลังจะทำอะไร และมันไม่ใช่สิ่งที่เราฝันถึงเลย แต่ความจำเป็นกดดันเราจนไม่มีทางเลือก เสียงหัวใจเต้นแรงเหมือนกลองที่ถูกตีซ้ำ ๆ ทุกการเคลื่อนไหวดูหนักอึ้ง เพราะเรารู้ว่ากล้องตัวนั้นกำลังรอจับภาพของเราในสิ่งที่เราไม่เคยคิดว่าจะทำ... ย้อนกลับไปในวันนั้น วันที่กำหนดจ่ายค่าเทอมใกล้เข้ามาเต็มที เราไม่มีเ
ยอดประทุมถันสีชมพูหวานขยับไหวตามแรงสั่นสะเทือนเซนถอนริมฝีปากออกจากผิวเนียนของมิลิน ทิ้งร่องรอยแห่งความหลงใหลไว้ราวกับลายพู่กันบนผืนผ้าใบ ริมฝีปากที่บวมช้ำจากแรงกดคลายออกเอ่ยคำพูดที่สั่นสะเทือนอารมณ์ “อา...กูว่ากูจะไม่ไหวแล้วว่ะแบบนี้...มิล...หีมึงดียิ่งกว่าอะไรเลยจริง ๆ ถึงกูจะไม่อยากหยุดเย็ด...แต่กูว่า...กูใกล้จะแตกแล้วว่ะ...”ร่างกายของเซนเกร็งแน่นขณะขยับสะโพกเร็วขึ้น แรงขึ้น ทุกจังหวะเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความปรารถนาที่ไม่อาจหยุดยั้ง เสียงลมหายใจหนักหน่วงสะท้อนความรู้สึกที่ท่วมท้น ความร้อนที่แผ่กระจายจากเขาเข้าถึงมิลินทุกอณู ความรู้สึกที่รุนแรงราวกับคลื่นทะเลที่โถมเข้ากระแทกชายฝั่ง ซัดสาดเข้าหากันจนไม่อาจแยกแยะระหว่างความสุขและความทรมาน ร่างกายของทุกคนสั่นสะท้านอย่างกลมกลืนในจังหวะเดียวกันทางฝั่งไรอันเอง เขาก็ร้อนรนยิ่งขึ้นทุกที “ใครจะอยากหยุดเย็ดวะ...อีนี่ยั่วซะขนาดนี้...กูเข้าใจแล้วว่าทำไมพวกมึงถึงได้แย่งกันเย็ดคอแม่ง...อืม...ตอนนี้กูเองก็ใกล้จะเสร็จแล้วเหมือนกัน...” เขาไม่เพียงแต่กระชากหัวเธอเข้าหาตัวเท่านั้น แต่ยังขยับสะโพกด้วย เพื่อปล่อยให้ท่อนเนื้อของตัวเองกระแทกลึกลงไปใ
“งั้นเหรอ...?” เธอย้ำด้วยน้ำเสียงนุ่มลึก ราวกับน้อมรับคำท้าทายที่อีกฝ่ายมอบให้ ทว่าเสียงนั้นก็ยังเจือไปด้วยความสั่นเทาอยู่ดี จากร่างกายที่ถูกเขย่าโดยคนสามคน ขณะนั้นเอง ไรอันก็ยื่นท่อนเนื้อออกมาท้าทายเธอโดยไม่มีคำพูดใดอย่างไรก็ตาม มิลินไม่รีรอเลยแม้แต่วินาทีเดียว ปลายลิ้นสีชมพูแตะสัมผัสที่หัวปลีของเขา ก่อนที่เธอจะอ้าปากรับท่อนเนื้อนี้เข้าไปในโพรงปากที่ชื้นแฉะและอบอุ่น ราวกับเชิญชวนให้หลงใหล เธอกัดเบา ๆ จากนั้นก็ดูดดื่มมันอย่างเร่าร้อนจนเสียงน้ำลายหยาดเยิ้มสะท้อนอยู่ภายในใจของทั้งสามหนุ่ม‘การอมควยที่ผ่านหีมามันได้รสชาติอีกแบบเลย...แต่ก็ไม่แย่เพราะหีที่ควยแท่งนี้เข้าไปก็หีเราเอง...’ เมื่อถอนริมฝีปากออกมา น้ำลายหยดย้อยเป็นเส้นสาย เธอปรายสายตาไปที่ไรอันพร้อมเอ่ยด้วยเสียงที่แหบพร่า “ก็ได้...กูยอมรับชอบพวกมึง...ชอบในแบบที่ไม่ใช่แค่เพื่อน....” แม้สติจะเลอะเลือน แต่เธอก็พยายามตอบให้รู้ความ “...และกูอยากได้พวกมึงมาเป็นผัวกูพร้อมกันทุกคนเลย...หึหึ...โลภมากใช่ไหมล่ะ...?”น้ำเสียงของเธอหนักแน่นและเจือไปด้วยความเย้ายวน มิลินกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ “พอดีว่าคนเดียวมันไม่พอ...ที่
หญิงสาวที่ได้รับการกระทบกระทั่งโดยของเหลวเหล่านี้ที่ประเดประดังเข้ามาหาตัว ทั้งภายในและภายนอก พวกมันมีสัมผัสร้อนและเหนียวหนืด แปดเปื้อนไปทั่วร่าง และซาบซ่านทั้งท้องน้อย ลุกลามไปทั้งตัว มอบความรู้สึกอึดอัด เหนอะหนะ และขยะแขยง แต่ในมุมหนึ่งมันก็ลื่นไหล และทำให้เธอตื่นเต้นเร้าใจไม่น้อยที่ได้กลายเป็นที่ระบายความใคร่ให้กับเหล่าหนุ่ม ๆ เพื่อนชายสุดที่รักของเธอมิลินสั่นกระตุกอย่างรุนแรงอยู่พักใหญ่ราวกับคนเป็นโรคลมชัก เนื่องจากความเสียวซ่านที่ท่วมท้นมันทำให้ร่างกายของเธอไม่อาจจะแบกรับได้ไหว แต่ในขณะเดียวกันความสุขก็ก่อตัวขึ้นมาจากก้นบึ้งของจิตใจ และแพร่กระจายไปทั่วในทุกอณูรูขุมขน เมื่อทุกอย่างสงบลง ปลายเท้าที่เกร็งแน่นและสั่นระริกก็หยุดการเคลื่อนไหวร่างอรชรของมิลินนอนอ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของไรอัน หน้าอกกระเพื่อมแรง หอบหายใจอย่างหนัก เหงื่อชุ่มไปทั้งร่าง ดวงตาเธอพร่ามัวไปหมด ทั้งด้วยน้ำตาและความมึนเมาหลังถึงจุดสุดยอด แต่เธอก็ยังคงเปี่ยมไปด้วยประกายแห่งความสุข—ทว่าความรู้สึกเหล่านี้ยังไม่จบลงแค่นี้“อย่าพึ่งทนไม่ไหวสิ...” ไรอันกล่าวเย้ยหยัน น้ำเสียงของเขาเจือความขบขันและความกระหายที่ยังไม่ถู
เสียงนั้นดังออกมาจากในลำคอของมิลิน เป็นเสียงที่ฟังดูน่าหวาดเสียวซึ่งมาพร้อมกับน้ำลายจำนวนมากที่กระเฉอะออกจากริมฝีปากของเธออ๊อก! อ๊อก! อ๊อก!ของเหลวสีใสเหนียวหนืดยืดเยิ้ม มันหยาดย้อยลงจากปลายคางจรดหน้าอกอวบอิ่มของเธอ ไล่เลื้อยลงไปเรื่อย ๆ ผ่านหน้าท้องแบนราบและหน้าขาขาวเนียน ก่อนที่จะไปรวมกันอยู่ตรงใต้หว่างขาของเธอ มันดูยั่วยวนชวนใคร่อย่างน่าเหนือเชื่อ แม้มุมหนึ่งมันจะดูเหนอะหนะไปบ้างก็ตามอเล็กซ์ที่ได้รับการรูดถูท่อนเนื้อด้วยมือเล็ก ๆ จากมิลินครวญครางเสียงทุ้มต่ำ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงท้าทาย “อา~มือเองก็อย่างพริ้ว…ชักต่อไปเรื่อย ๆ อย่างนั้น...ไหนแรงขึ้นอีกสิ...” เขาไม่เพียงสั่ง แต่ยังจับมือเธอและสอนเธอด้วยว่าควรเพิ่มความเร็วมากแค่ไหน ใส่น้ำหนักมากขึ้นอย่างไร เพื่อให้ความเร่าร้อนนี้เป็นไปตามที่ใจเขาปรารถนาอเล็กซ์ที่เฝ้ามองมิลินใช้ปากให้เซนอย่างเมามัน เมื่อพบกับโอกาสที่เฝ้ารอเขาก็แสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และพึงพอใจ โดยไม่รอช้า...ทันทีที่มิลินขย้อนท่อนเนื้อของเซนออกจากปากของเธอพร้อมด้วยน้ำลายที่ตามติดมาเป็นพรวน หนุ่มลูกครึ่งคนนี้ก็ทำการกุมศีรษะเธอไว้มั่นด้วยสองมือ จากนั้นก็กระชากหัวเล็ก ๆ ข
มิลินกัดริมฝีปากแน่น พยายามตั้งสติและรวบรวมความกล้า เธอขยับตัวแรงขึ้นตามคำท้าทายนั้น แต่ยิ่งทำก็ยิ่งรู้สึกถึงความจุกเสียดที่ทวีความเข้มข้น“แบบนี้เหรอ? อึ๊ก...อร๊า~!” เสียงครางกระเส่าของเธอสะท้อนอยู่ในห้องแคบ ๆ ดวงตาของเธอเริ่มพร่ามัวจากน้ำตาที่คลอเบ้า ความอิ่มเอมและความทรมานผสมผสานกันจนเธอไม่อาจหยุดยั้งตัวเองได้‘ถึงมันจะทรมาน...แต่มันก็โคตรจะรู้สึกดีเลย...นี่เราพึ่งจะขย่มเองนะ...แต่ชักจะติดใจควยเขาแล้วสิ...ทั้งใหญ่ทั้งยาว..แถมเจ้าตัวยังเป็นหนุ่มแว่นสุดหล่ออีกต่างหาก...อา...รู้สึกภูมิใจจริง ๆ ที่ได้มีอะไรครั้งแรกกับคนอย่างไอ้อั้น...’มิลินคิดในใจพลางกัดริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงครางที่พร้อมจะเล็ดรอดออกมาตลอดเวลา ความร้อนวูบวาบในท้องน้อยเหมือนคลื่นไฟฟ้าที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาค่อย ๆ เอ่อออกมาช้า ๆ ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวด แต่เป็นเพราะความรู้สึกบางอย่างที่รุนแรงเกินจะทานทน ความสุขสมที่ไม่อาจบรรยายได้มันเหมือนเกลียวคลื่นที่ซัดกระหน่ำเธอจนแทบหายใจไม่ออก เสียงกระซิบแผ่วเบาของไรอันดังขึ้นใกล้ใบหู พร้อมกับลมหายใจอุ่นร้อนที่แตะสัมผัสผิวเนียนของเธอ “ใช่...อา...พอได้กุมบังเ