หลายวันผ่านไป“ขอบคุณนะคะ และดาวก็ต้องขอโทษพี่ด้วย ที่คิดว่าพี่เป็นคนแบบนั้น”“ดาวผิดเองที่คิดมากไปทั้ง ๆ ที่พี่ก็ดีกับดาวทุกอย่าง”“……” พี่เปอร์เอาแต่เงียบไม่พูดอะไร นั่นสินะเขาก็นิ่งแบบนี้อยู่แล้วฉันเองที่คิดมากคิดบ้า ๆ ไปคนเดียวตอนนี้เราอยู่ที่โรงพยาบาลเพราะพี่บาสแนะนำให้ฉันมาตรวจสุขภาพจิต กลัวว่าจะเป็นเหมือนพี่เดือน วันนั้นที่ผับพี่เปอร์ไม่พูดอะไรเขานิ่งมาก นิ่งจนทุกคนกลัว แต่อยู่ ๆ พี่เปอร์ก็พูดออกมาว่าจะไม่เอาเรื่องพี่เดือนเพื่อเป็นการขอโทษที่ทำไม่ดีกับฉันถึงเขาจะไม่พูดแต่ฉันน่าจะรู้ว่าที่จริงพี่เปอร์ห่วงฉันมากแค่ไหนแต่ตัวฉันเองกลับชอบเอาตัวเองไปเปรียบกับพี่ซอนบี ชอบดูถูกตัวเองทั้ง ๆ ที่พี่บาสกับพี่อชิ ก็บอกว่าที่พี่เปอร์ทำกับฉันเขาไม่เคยทำกับพี่ซอนบี ไม่ว่าจะพาไปกอง ไปเที่ยวกับเพื่อน เพราะรู้ว่าพี่ซอนบีไม่ชอบแต่พี่เปอร์เขากลับไม่ใช่แบบนั้น จากที่พี่สองคนเล่า เท่าที่ฟังมันทำให้ได้รู้จักตัวตนพี่เขามากขึ้น มุมขี้อ้อนอยากให้แฟนตามไปด้วยทุกที่“ไปทำอะไรผิดมา ถึงต้องมาขอโทษฉัน” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม“ขอโทษที่ดาวดูถูกน้ำใจพี่ วันนั้นดาวคิดว่าพี่คงไม่ยอมยกโทษให้พี่เดือนเพราะพี
“ตอบสิ เงียบทำไมเมื่อกี้ยังพูดไม่หยุดอยู่เลย” จากหน้านิ่งตอนนี้พี่เปอร์ดูผ่อนคลายและเล่นมากขึ้น“ก็ฟะ...แฟนแหละ จะให้ดาวแนะนำว่าไง พี่อย่ามองดาวแบบนั้นได้ไหมดาวเขินเป็นนะ”“เขิน? เธอเป็นคนเล่นก่อนนะ”ตึก ตัก ตึก ตักหัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ เมื่อใบหน้าหล่อคมโน้มลงมาใกล้“แต่คนเป็นแฟนกันเขาไม่แทรกตัวเข้ากลางหว่างขากันนะ มีแต่ผัวเมียที่ทำแบบนั้นได้ จริงไหม!” เสียงพูดแผ่วเบาพร้อมกลีบปากนุ่มที่แตะแก้มสัมผัสมันชวนสยิวมาก แล้วอะไรคือกระตุกยิ้มมุมปาก แถมยังมายักคิ้วใส่อีกเพียะ“พี่เปอร์ คนบ้าแกล้งดาวอีกแล้วนะ” ฝ่ามือเล็กฟาดเข้าที่แผงอกแกร่ง เขาชอบเอาเรื่องแบบนี้มาพูดก็รู้อยู่ว่าเขิน แล้วพี่เปอร์แกล้งหน้านิ่งมากเขาไม่มีหลุดยิ้มเลย“หึ….” แต่มันก็คุ้มนะที่ได้เห็นพี่เปอร์ยิ้มแบบนี้“พี่ยิ้มให้ดาวแล้ว รู้ไหมเวลาพี่ยิ้มพี่หล่อมาก!” พูดจริงนะคือทำหน้าดุก็หล่อเข้ม แต่ชอบเวลาเขายิ้มมันดูน่ารักเหมือนลูกแมวเลย“เตียงบ้านเธอแข็งแรงไหม” แต่ต้องหุบยิ้มหน้าร้อนผ่าวเมื่อเขาพูดแบบนั้น“พี่เปอร์ พอเลยไม่พูดแล้ว ดาวจะกลับคนเดียวพี่มีงานทำงานไปเลย” เขินจนไม่รู้จะเขินยังไงแล้วตอนนี้“มีแต่ไม่ทำ ให้คนอื
20.00 น.กาญจนบุรี“ดาวไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นลูก ไหนบอกวันหยุดถึงจะกลับ มา ๆ ขึ้นบ้านก่อนแล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง ขึ้นมา ๆ พ่อทำของโปรดให้”“มาซะค่ำมืด มันอันตราย พ่อเป็นห่วงนะรู้ไหม ตะวัน!”“ตะวันเอ้ย! หาน้ำให้พี่ดาวหน่อยลูกนอนหรือยัง”ทันทีที่เห็นลูกสาวยืนอยู่หน้าบ้านคนเป็นพ่อ ก็รีบเดินเข้าไปจูงมือเข้าบ้าน สายตาที่มองลูกสาวนั้นมันเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย“พะ...พ่อไม่ต้องหรอกหนูกินมาแล้วแค่คิดถึงพ่อเลยแวะมาหา” ร่างบางพูดเสียงสั่น ดวงตากลมโตสั่นระริกด้วยความน้อยใจ ทั้ง ๆ ที่มาหาพ่อบ่อยแต่พ่อกลับไม่เอะใจว่าลูกสาวอีกคนยังมีชีวิตอยู่ กลับเอาแต่เรียกชื่อนับดาว“เป็นอะไรไป มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” พ่อถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นน้ำตาเม็ดใสไหลอาบสองแก้ม“เดือนอยากกอดพ่อ อยากให้พ่อเรียก พ่อถามเดือนเหมือนที่พ่อถามน้องบ้าง” เดือนอ้ายได้แต่มองหน้าพ่อแล้วคิดในใจ เธออยากจะบอกพ่อ เรื่องที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ แต่สิ่งที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้มันยากที่จะให้ผู้เป็นพ่อรู้ได้“เดือนไม่อยากเป็นแบบนี้”พรึบ!เดือนอ้ายได้แต่เงียบโผเข้ากอดพ่อแน่น ความรู้สึกหลากหลายในใจ ทั้งรักทั้งเกลียด เกลียดที่มีแต่คนรักนับดาว แต่
“เกรงใจก็หัดเอาใจบ่อย ๆ ค่าตัวเธอทั้งนั้นไม่ได้ให้ฟรี!” น้ำเสียงเรียบนิ่งจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง เฮ้อ ไม่เคยเปลี่ยนจริง ๆ“ทุกวันนี้พี่ก็ได้ไปหมดแล้วจะเอาอะไรจากดาวอีกล่ะคะ” มันน่าหมั่นไส้ที่สุดไม่รู้จะเก๊ก อะไรกันนักหนา“กินเข้าไปแล้วรีบ ๆ ขับดาวอยากถึงบ้านไวไว” ฉันยัดขนมเข้าปากพร้อมส่งยิ้มหวานให้ พี่เปอร์มองตาขวางแล้วตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปตามทางที่บอก“เลี้ยวซ้ายก็ถึงแล้วค่ะ” ไม่นานเราสองคนก็มาถึงปากทางเข้าบ้าน แต่ต้องขับเข้าไปในทางแคบ ๆ อีกนิดหน่อยก็ถึงบ้านแล้ว“ทำไมบ้านเงียบจัง” นี่ก็เพิ่งจะ 7 โมงกว่า ๆ พ่อกับตะวันไปไหนนะ“ของเอา เก็บไว้ไหน” พี่เปอร์ถามน้ำเสียงหงุดหงิดพร้อมหิ้วของลงมาจากท้ายรถ“เอาไปไว้บนบ้านก่อนก็ได้ค่ะ” ฉันถือของช่วยเขาแล้วพาพี่เปอร์ขึ้นบ้าน“ขอบคุณมากนะคะ พี่จะกลับเลยไหมดาวจะได้ไปส่ง”“กลับ?”“ใช่ค่ะ!”“……” พี่เปอร์ไม่พูดอะไรเอาแต่จ้องหน้าตาเขม็ง ฉันพูดอะไรผิดหรือเปล่า ก็แค่ให้มาส่งอีกอย่างบ้านฉันก็หลังเล็กนิดเดียว เครื่องอำนวยความสะดวกก็ไม่มี“บอกตอนไหนว่าจะกลับ” เขาพูดเรียบ ๆ แล้วเดินไปนั่งที่แคร่ไม้ไผ่ที่พ่อทำไว้ให้ตะวันนั่งเล่น“พี่จะค้างคืนเหรอ” ฉันถามด้วยคว
Sniper…“ดึกแล้วทำไมยังไม่เข้านอนคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นขณะที่ผมกำลังสูบบุหรี่ อยู่ที่ระเบียงบ้าน“…….” ผมเงียบหันไปมองหน้าเจ้าของเสียงหวานแว็บหนึ่งแล้วสูบบุหรี่ต่อ ยอมรับว่าไม่โอเคเท่าไรที่ตื่นมาเจอผู้หญิงคนนั้นกอดพ่อ กอดน้องร้องไห้ ขอโทษสำหรับทุกเรื่องที่ผ่านมา“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า”พรึบ!!ท่อนแขนเล็กสวมกอดจากด้านหลังแน่น“โกรธดาวเหรอ”“…...” ผมยังคงเงียบและสูบบุหรี่ต่อ ไม่ได้สนใจอะไรเธอที่ยังคงกอดเอวอยู่แบบนั้นทุกคำพูดที่เดือนอ้ายเอ่ยขอโทษที่ทำกับนับดาว มันยังตรึงอยู่ในหัว“พี่ขอโทษ เพราะพี่อิจฉาดาว อิจฉาที่ใคร ๆ ก็รักดาว แต่ไม่มีใครรักและคิดถึงพี่เลย”“ที่พี่ทำอะไร บ้า ๆ แบบนั้นลงไปมันเป็นเพราะพี่ป่วย พี่ขอโทษดาว ขอโทษพ่อพี่ผิดไปแล้วจริง ๆ”ตอนนั้นผมตื่นแล้วและนอนฟังที่เธอพูด พร้อมน้ำตาที่มันไหลออกมาเป็นทาง แน่นอนนับดาวเธอต้องให้อภัยอยู่แล้วเพราะยังไงก็เป็นพี่น้องกัน และผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าเดือนอ้ายกลับตัวกลับใจคิดดีต่อน้องสาวส่วนพ่อเธอแน่นอนต้องดีใจอยู่แล้วที่ได้เจอหน้าลูก ลูกที่คิดว่าตายไปแล้ว ทุกการกระทำของเดือนอ้ายอยู่ในสายตาผม คำพูดที่เธอเอ่ยการกระทำทุกอย่างมันเชื่ออะไรไม่ไ
“พูดอะไรดาว…อุ๊บ” ผมไม่รอให้เธอเถียงประกบปากจูบดูดเม้มกลีบปากนุ่มอย่างนิ่มนวล“ดึกแล้วทำไมไม่นอน” ไม่ชอบเลยไม่ชอบสายตาที่เธอมองตอนนี้เลย มองแบบนี้ทีไรมันอดใจไม่ได้สักครั้ง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ทำไมผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าถึงได้มีอิทธิพลต่อความรู้สึกมากถึงขนาดนี้“เมื่อกี้ดาวเห็นพี่อยู่กับพี่เดือน” เธอพูดเสียงแผ่วเบา“แล้วไง?” ผมเปิดประตูรถดึงร่างบางมานั่งบนตัก“คุยอะไรกันบอกดาวได้ไหม” ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสับสน“ทำไมกลัวฉันจำผิดแล้วไปกระแทกตรงหว่างขาพี่สาวเธอหรือไง” เธอเม้มปากแน่นทำหน้าครุ่นคิด“ก็ดาวเห็นพี่เดือนกอดพี่ด้วย” ใบหน้าหวานแอบอิงพิงอกแกร่ง“เห็นแล้วทำไมไม่ไปแสดงตัว” ผมลูบหัวเธอเพื่อปลอบโยน“ก็ดาว ดาวอยากรู้ว่าพี่จะจำดาวได้ไหม” เธอมองหน้าผมแล้วยิ้ม“แล้วจำได้ไหมล่ะ” อ้อนแบบนี้จัด แม่ง ในรถเลยดีไหม“แล้วทำไมถึงจำได้ล่ะ เหมือนกันออก” สองมือยกขึ้นมาบีบแก้ม ทีแบบนี้ละยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“ทีตอนแรกพี่ไม่เห็นจำได้ ทั้ง ๆ ที่ดาวก็บอกแล้วว่าไม่ใช่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” ผู้หญิงนี่เหมือนกันก็ตรงที่อารมณ์เปลี่ยนไวนี่แหละ เมื่อกี้ยังยิ้มตอนนี้กลับมาทำหน้าบึ้งใส่“ขอโทษ ก็ตอนนั้นมันไม่มีสติ
04.30 น.“หลับสบายเลยนะ” ตอนนี้ตี 4 กว่า ๆ นับดาวยังคงนอนหลับอย่างสบาย ท่อนแขนเรียวพาดกอดเอวไว้แน่น ใบหน้าหวานแนบชิดติดแผงอกแกร่ง“ลักหลับซะดีไหม ขี้เซาแบบนี้” ผมหอมที่หน้าผากคนตัวเล็กพร้อมขยับตัวลงจากเตียงอย่างเบาที่สุดกลัวเธอจะตื่น“กลับกรุงเทพฯ เธอโดนแน่ตัวแสบ” และไม่ลืมที่จะห่มผ้าให้ก่อนจะเดินออกจากห้อง“เหี้ย!”“ทำไมตื่นเช้าแบบนี้วะ” แต่ต้องตกใจเมื่อเปิดประตูออกมาเห็นพ่อนับดาวเดินออกจากห้องมาพอดี“ตื่นแต่เช้านะเรา เป็นไงหลับสบายดีไหม” คุณลุงเดินเข้ามาหาผมที่พยายามทำตัวให้เป็นปกติ ทำเหมือนเพิ่งตื่นดีนะที่นอนหมอนมุ่งไม่ได้กางมันยังอยู่ที่เดิมเลยตีเนียนทำเป็นเก็บที่นอนเข้าที่ ดีนะที่ออกจากห้องนับดาวก่อนไม่งั้นซวยตายเลย“ลูกสาวบ้านนี้นี่ยังไงทำไมตื่นสายกันแบบนี้นะ” คุณลุงพูดยิ้ม ๆ แล้วส่ายหัวมองดูประตูห้องนับดาว“แล้วคุณลุงจะไปไหนแต่เช้าครับ นี่ยังไม่สว่างเลย” สองเท้าก้าวเดินเข้าไปใกล้“คนแก่ก็แบบนี้ตามสบายนะ พ่อเข้าไปทำสวนก่อนวันนี้ต้องหักข้าวโพดไปส่งตลาดแต่เช้าด้วย” คุณลุงพูดอย่างอารมณ์ดี“งั้นผมไปช่วยดีกว่า” ไหน ๆ ก็มาบ้านเขาทั้งทีก็ต้องทำตัวให้มีประโยชน์“ไหวเหรอลูก ท่าทางเราไม่เ
“งานไร่งานสวนมันเหนื่อย งานใช้แรงงานแบบนี้พ่อทำเองได้ หนูเป็นผู้หญิงเป็นลูกพ่อจะมาทำงานลำบาก ๆ แบบนี้ได้ไง”“ไม่เอาดาวจะทำเหมือนเดิมไม่เห็นจะหนักเลย พ่อยังทำได้ทำไมดาวจะทำไม่ได้ ไว้ดาวเรียนจบมีงานดี ๆ ทำพ่อกับน้องก็จะไม่ต้องลำบากแบบนี้แล้ว”ยิ่งได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเธอ นับดาวยิ่งน่ารัก แต่ก็มีความดื้อและความเอาแต่ใจตัวเองเถียงเก่งเป็นที่หนึ่ง“ไปนั่งค่ะ ดาวทำเอง” นับดาว พาพ่อไปนั่งพักใต้ร่มมะขาม ก่อนจะมองมาที่ผมอย่างเอาเรื่อง หึ…คงงอนที่ผมไม่ยอมปลุก“มองอะไรคะ” เธอย่นจมูกใส่เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้“ใครมองรีบทำจะได้รีบเสร็จ หิวข้าว!” ผมเค้นเสียงดุ พร้อมยกเข่งข้าวโพดใส่ไหล่เล็ก“ฮื่อ พี่เปอร์ มันหนักนะพี่จะบ้าหรือไง” เสียงหวานร้องโวยวายพร้อมจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง“พ่อ!! พี่เปอร์แกล้งดาว” เธอทำหน้าบึ้งยืนมือกอดอก ไม่ต่างอะไรกับเด็กสามขวบที่เวลาโดนแกล้งแล้ววิ่งไปฟ้องพ่อ“หึ…ก็เราบอกจะแทนพ่อ แล้วพี่เขาแกล้งตรงไหน” คุณลุงได้แต่นั่งหัวเราะลูกสาวอย่างอารมณ์ดีขวับ!!!“พ่ออะ ดาวเป็นลูกพ่อนะ พ่อต้องเข้าข้างดาวสิไม่ใช่พี่เปอร์!” พอได้ยินแบบนั้นนับดาวยิ่งงอนใหญ่ หน้าที่งอแต่เธอกลับทำให้ผมยิ้ม
ตอนเช้า“ตื่นสายนะเรา”“เพราะใครล่ะ ดาวถึงตื่นสายแบบนี้ แล้วลูกล่ะคะไปไหนแล้ว”“ตื่นมาก็ถามหาแต่ลูกสนใจผัวบ้างไหม?” คิ้วหนาขมวดเข้าหากันมองคนตัวเล็กที่ยังคงนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม“ก็ผัวอยู่ตรงนี้ ดาวไม่เห็นลูกก็ต้องถามหาลูกสิ พี่จะมางอแงทำไมกัน” นับดาวได้แต่ถอนหายใจพร้อมดันตัวลุกขึ้นนั่ง“หึ ต่อปากต่อคำเก่งนักนะ แบบนี้มันน่าเอา” สายตาเจ้าเล่ห์มองต่ำไปที่เป้ากางเกงตัวเอง“ลามก พี่หยุดลามกแล้วตอบดาวมาก่อนลูกไปไหน” นับดาวพูดจริงจัง“อยู่กับหม่าม้า เธอตื่นสายฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เลยพาลงไปเล่นข้างล่าง” มือหนาลูบที่หัวเมียแล้วเอาแต่ยิ้มกริ่ม“ยิ้มอะไรคะ พี่ดูแปลก ๆ นะดาวว่า” นับดาวพยายามจับผิดคนตรงหน้าที่เอาแต่ยิ้ม“ไปอาบน้ำพ่อกับตะวันรอนานแล้วนะ” เมื่อได้ยินพ่อของลูกพูดแบบนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าเขาจะพาไปที่ไหนสักแห่ง“พี่จะพาดาวไปไหนเหรอ”“ไปอาบน้ำไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง ให้เวลา 20 นาทีเดี๋ยวไปเล่นกับลูกรอ” เขายักคิ้วกวน ๆ พร้อมจุ๊บปากบาง แล้วเดินออกจากห้องทันที นับดาวได้แต่ทำหน้าสงสัยก่อนจะหอบผ้าห่มเดินเข้าห้องน้ำ30 นาทีผ่านไป“ช้า” ทันทีที่เห็นเมียเดินมาคุณพ่อคนหล่อก็บ่นเสียงดุ“…….” แต่เม
“แดดดี้อยากจะขอบคุณเบบี๋ที่ทำให้ผู้ชายเลว ๆ คนนี้กลับตัวกลับใจ เป็นคนดี ขอบคุณที่เบบี๋ยอมไว้ใจฝากชีวิตไว้กับแด๊ด ขอบคุณที่มอบสิ่งมีค่าที่สุดให้แด๊ด” กันต์มองไปที่ลูกสาวทั้งสองคน พร้อมส่งยิ้มให้เมียรักที่มองหน้าเขาน้ำตาคลอด้วยความซึ้งใจ“แดดดี้ขอมอบเพลงนี้แทนความรู้สึกที่แด๊ดมีต่อเบบี๋” กันต์เดินเข้าไปนั่งลงคุกเข่าร้องเพลงต่อหน้าเมียสุดที่รัก พร้อมลูกสาวจอมแสบ อย่างญี่ปุ่นที่วิ่งเข้าไปกอดหอมพ่อเพื่อให้กำลังใจ‘ที่ผ่านมานานเท่าไรกาลเวลาไม่อาจลืมหัวใจเปลี่ยนไปจากเธอคงเป็นไปไม่ได้เมื่อใจผูกพันมีแต่เธอแม้จะนอนและฝัน ฉันมีแต่เธอเท่านั้นไม่อาจแบ่งใจเผื่อไว้ให้ใครใจเมื่อเจอเธอแล้ว เหมือนคนที่เจอจุดหมายเมื่อมีเธอไม่ต้องการใครเมื่อวานก็รัก วันนี้รักเธอพรุ่งนี้ก็รักเธอ เพราะใจที่มีเธอไม่มีอีกแล้ว ใครจะมาเข้าใจฉันได้ดีอย่างเธอตอบแทนเธอรักเดียวใจเดียว’“เบบี๋รักแดดดี้ ขอบคุณนะคะที่แดดดี้ทำทุกอย่างเพื่อเบบี๋กับลูก ๆ” เบบี๋พูดเสียงสะอื้น มันตื้นตันใจจนห้ามน้ำตาไม่ได้ ก่อนสี่คนพ่อแม่ลูกจะกอดหอม แสดงความรักอย่างไม่อายสายตาทุกสายตาที่มองแล้วได้แต่ยิ้มตาม“……” มีแต่สไนเปอร์นั่งทำหน้าขรึมไม่
1 ชั่วโมงผ่านไป“แม่จ๋า พี่ตะวัน คุณตาขา” ร่างอ้วนกลมวิ่งเข้าไปกอดแม่ที่ประคองคุณตาเดินเข้าบ้าน“ไปดูลูกก่อน บ่นถึงเธอทั้งวัน” สไนเปอร์เดินเข้าไปประคองพ่อตาทันที“คิดถึงจังเลย วันนี้ภูพิงค์ของแม่จ๋าดื้อไหม” นับดาวยิ้มรับพร้อมเดินเข้าไปอุ้มลูกสาวตัวน้อยในชุดเจ้าหญิงสีชมพูน่ารัก“ไม่ค่ะ หนูเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซนเยย” แล้วทำไมต้องอ้อนขนาดนี้ด้วย แค่นี้แม่ก็หลงลูกไม่ไหวแล้ว“พี่ตะวันกอดหนูหน่อย” พร้อมอ้าแขนป้อม ๆ ยื่นไปหาพี่ชายอีกคน“คุณตาด้วยกอดหนูหน่อยคิดถึงคุณตาที่สุดในโลกเลย” พี่ชายกับคุณตาได้แต่มองหลานสาวตัวน้อยแล้วยิ้ม ก่อนจะกอดหอมกันพักใหญ่แล้วขึ้นไปพักบนห้องที่กันต์เตรียมไว้ให้“ยิ้มอะไรคะ แล้วภูผาล่ะ ตั้งแต่มาดาวยังไม่เห็นลูกเลย” นับดาวชะเง้อคอมองหาลูกชาย“อยู่กับพี่กันต์ โดนญี่ปุ่นลวนลามทั้งวัน” สไนเปอร์พูดอย่างเหนื่อยใจ พร้อมทำหน้าบูดบึ้งเพราะหวงลูกชาย“แม่จ๋าหนูหิวหม่ำแม่” ระหว่างที่พ่อกับแม่พูดถึงพี่ชายเด็กน้อยตัวอ้วนกลับงอแงเอาเสียดื้อ ๆ“อะไรกันคะ” นับดาวจับมือเล็กที่ล้วงเข้าไปในเสื้อพร้อมจ้องใบหน้าจิ้มลิ้มที่งัวเงีย“พี่เปอร์ลูกนอนกลางวันไหม”“……” สไนเปอร์ได้แต่ส่ายหัว เพร
หลายวันผ่านไป“พี่กันต์พี่บอกลูกสาวพี่ให้หยุดวอแวลูกชายผมสักทีได้ไหมวะ” สไนเปอร์ที่เอาลูกขี่หลัง หลังเตรียมจัดงานปาร์ตี้เล็ก ๆ เซอร์ไพรส์เมียที่ออกไปรับพ่อกับน้องชาย บ่นพี่ชายที่ไล่วิ่งตามจับลูกสาวตัวแสบที่เอาแต่แกล้งคนนั้นกวนคนนี้ โดยเฉพาะภูผาลูกชายสุดที่รักพ่อเปอร์ ที่ตอนนี้กอดคอพ่อแน่นส่วนลูกสาวตัวอ้วน ๆ เล่นอยู่กับป้า ๆ หัวเราะคิกคักตามประสาผู้หญิง“เออ กูรู้แล้วไอ้เปอร์ กูก็ตามอยู่เนี่ย!”“ญี่ปุ่นแด๊ดไหว้ละ ลูกไปอยู่กับหม่ามี้ แด๊ดไม่ไหวแล้วนะ” กันต์มือเท้าเอวจ้องหน้าลูกสาว ที่ทำหน้านิ่งไม่ได้สนใจฟังที่พ่อพูดเลย“ภูผา เราไปวิ่งเล่นกันดีกว่าญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเลย พี่พาร์ทก็ไม่เล่นด้วยเอาแต่รักฟองเบียร์ น้องตอร์ชก็ไม่เล่นด้วยหยิกญี่ปุ่นตลอดเลย” เด็กน้อยทำหน้าน่าสงสาร“พอร์ช ลูกพอร์ช ไม่ใช่ตอร์ช คำอื่นแด๊ดก็เห็นหนูพูดชัดแล้วทำไมเรียกพอร์ชแบบนั้น” กันต์พูดอย่างเหนื่อยใจ“ตอร์ช ตอร์ช ญี่ปุ่นจะเรียกตอร์ช!!!!!”“เฮ้อ กูจะบ้าตายใครก็ได้เอาปืนมายิงกูที!!!” แต่ก็ทำได้แค่บ่น ท่องไว้กันต์ท่องไว้ ลูกกู ลูกกู ก็คือลูกกู แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวจะตายให้ได้ จะทำยังไงลูกสาวตัวน้อยจะเหมือนลูกคนอื่น
“กูยอมลูกมึงไอ้เปอร์ กูว่าญี่ปุ่นอ้อนแล้วลูกมึงสุดจริง” กันต์ได้แต่ยิ้มอย่างดีใจที่เห็นน้องชายมีวันนี้ มีความสุขเหมือนคนอื่นได้สักที“เข้าไปกราบหม่าม้าสิ ไม่ต้องกลัว” มือหนาลูบลงที่หัวแม่ของลูกอย่างห่วงใย พร้อมเดินจูงมือเมียเข้าไปกราบแม่“หม่าม้าขอโทษ อย่าไปไหนอีกนะ คงจะลำบากมากสินะผู้หญิงตัวคนเดียวเลี้ยงลูกเพียงลำพัง” เสียงพูดที่อ่อนโยนเต็มไปด้วยความรักความห่วงใย หลังจากที่คิดอะไรได้หลายอย่างและไม่ควรมองคนแค่ภายนอก มือบางลูบลงที่หัวนับดาวที่ได้แต่นั่งยิ้มด้วยความดีใจ ที่ในที่สุดเธอจะได้อยู่กับคนที่รัก“เปอร์ขอบคุณหม่าม้าที่ยอมรับในตัวนับดาว” สไนเปอร์โผเข้ากอดแม่ โดยมีพี่ทั้งสองคนนั่งมองแล้วยิ้ม“พอ ๆ ๆ ๆ จะดึงเศร้าทำไม” กันต์พูดแทรกขึ้น“ภูพิงค์มาหาลุงสิคะ ไหนดูสิไม่เจอกันนานมาให้ลุงกอดหน่อย มาค่ะคนสวยภูผาด้วย คืนนี้นอนบ้านลุงนะรู้ไหม” พร้อมผายมือเรียกหลานรักให้เข้าไปหา“ดีเลยค่ะ ญี่ปุ่นจะได้มีเพื่อน พี่พาร์ทด้วยนอนกับญี่ปุ่นนะคะ ญี่ปุ่นอยากมีเพื่อนเล่น” ไม่พูดเปล่าญี่ปุ่นเดินเข้าไปหาภูผาที่เอาแต่นั่งกอดอก มองหน้าญี่ปุ่นอย่างเบื่อหน่าย“ทำไมทำหน้าแบบนั้นลูก” สไนเปอร์จ้องหน้าลูกอย่างส
ตอนเช้า“แม่จ๋า” เด็กหญิงตัวน้อยงัวเงียตื่น คลานเข้าไปกอดแม่ที่ยังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโต“ว่าไงคะ” ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มให้ลูกน้อยตะแคงข้างกอดตัวอ้วนกลมแนบอก“พ่อจ๋าหนูล่ะ พ่อจ๋าไปไหน” เด็กน้อยงอแงเรียกหาพ่อทั้ง ๆ ที่ยังไม่ลืมตา“พ่อจ๋าอยู่นี่ครับมาหาพ่อมา ภูผาด้วยมาให้พ่อนอนกอดหน่อย” สไนเปอร์ยิ้มรับพร้อมอ้าแขนรับลูก“หนูจะนอนตรงนี้” เด็กหญิงตัวอ้วน ลุกขึ้นไปนอนบนตัวพ่อ“ภูพิงค์น้องตัวหนักเดี๋ยวพ่อก็หายใจไม่ออกเหมือนพี่หรอก”“พ่อจ๋า พี่ภูผาว่าหนูอ้วน” เมื่อได้ยินพี่ชายพูดแบบนั้นใบหน้าจิ้มลิ้มก็บูดบึ้งทันที“พี่ไม่ได้ว่าสักหน่อย” เมื่อเห็นน้องงอนพี่ชายก็ได้แต่ถอนหายใจ เห็นแบบนี้คนเป็นพ่อกับแม่ก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้“ชิ หนูงอนแย้ว พี่ภูผาต้องง้อหนูเยย”“พ่อจ๋า วันนี้พ่อจ๋าพาไปหาคุณตาหน่อยนะคะ” แต่ไม่ทันไรกลับเปลี่ยนเรื่องพูดเสียงเจื้อยแจ้วเรื่องอื่นลืมว่าตัวเองกำลังงอนพี่ชายเอาเสียดื้อ ๆ“ครับพ่อจ๋าพาไปแน่นอน แต่ขอพ่อจ๋านอนกอดภูพิงค์กับภูผาให้หายคิดถึงก่อน” ท่อนแขนแกร่งโอบกอดร่างเล็กของลูกทั้งสองคนไว้แนบอก ทำเอานับดาวได้แต่นั่งมองมันตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูกบ้านกันต์หลังจากที่พาลูกและ
“คิดถึงร่างกายดาว งั้นก็แสดงว่าพี่ไม่เคยคิดถึงดาว?” นับดาวเอ่ยถามออกไปอย่างน้อยใจ“หึ นึกว่าจะไม่ท้วง งอนแบบนี้ต้องง้อไหม” แต่สไนเปอร์กลับยิ้มอย่างพอใจที่เห็นเมียงอน“ก่อนจะคิดถึงร่างกายร่างนี้” นิ้วเรียวเชยปลายคางให้คนใต้ร่างเชิดหน้าขึ้นมองหน้าสบตาเขา“มันก็ต้องคิดถึงเจ้าของร่างกายคนขี้งอน แม่ของลูกฉันก่อน จริงไหม” ไม่พูดเปล่าเขายื่นหน้าหล่อคมเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ปลายจมูกโด่งคลอเคลียพวงแก้มอย่างหลงใหล“ไม่ต้องมาปากหวานกับดาวหรอก เอาไว้ใช้กับสาว ๆ ของพี่เถอะ”“สาว ๆ ที่ไหนอย่ามาหาเรื่องตั้งแต่ฉันกลับไปฉันก็ไม่เคยมีใคร ฉันรักเธอคนเดียวนะนับดาว” จากที่ว่าจะงอนพอได้ยินเขาพูดแบบนั้นหัวใจดวงน้อยมันก็พองโตเต้นแรงแทบไม่เป็นจังหวะ“แล้วพี่ทำแบบนี้ พี่จะไม่ถามดาวเหรอว่าดาวมีคนอื่นไหม” ที่ถามก็แค่อยากจะรู้ว่าเขาจะเชื่อใจเธอมากแค่ไหน“ไม่จำเป็นเพราะฉันรู้จักเธอดี ว่าเธอรักฉันมากแค่ไหน” แต่พอได้ยินจากที่กำลังซึ้งใจกลับรู้สึกหมั่นไส้คนตัวโตขึ้นมาทันที“หลงตัวเองดาว มะ...อืม” เขาไม่รอให้เธอได้เอ่ยคำใดออกมาประทับจูบดูดเม้มกลีบปากบางอย่างหนักหน่วง สัมผัสมันเต็มไปด้วยรักและคิดถึง“ฉันรักเธอรัก
“…” เด็กน้อยพยักหน้า สวมกอดพ่ออีกครั้งทุกครั้งเวลาที่แม่พาไปเที่ยว ก็ได้แต่แอบน้อยใจเวลาเห็นเพื่อนคนอื่นมีพ่อไปด้วย ถึงจะเป็นเด็กแต่ก็มีความรู้สึกและสัมผัสได้ เวลาแม่ดูรูปแล้วร้องไห้กอดลูกน้อยทั้งสอง พออยู่ ๆ วันนี้ได้มาเจอตัวจริงเด็กน้อยก็ทำตัวไม่ถูกไม่กล้าที่จะแสดงความรักอย่างที่น้องสาวทำ ด้วยนิสัยที่เคร่งขรึม เอาแต่ใจถอดแบบจากพ่อมาทุกอย่าง“ไม่ต้องอายพ่อเข้าใจ ไอ้เสือเราเป็นผู้ชายแมน ๆ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น” เมื่อปรับความเข้าใจกันได้สองพ่อลูกก็เล่นหัวเราะลั่นห้องทำเอานับดาวที่เดินออกจากห้องน้ำกับลูกสาวตัวอ้วนเห็นพ่อลูกนอนคุยเล่นกันก็ยิ้มไม่หุบ“ไปอาบน้ำกันได้แล้วค่ะ”“ว่าแต่พี่จะนอนที่นี่จริงเหรอ ดาวว่า” นับดาวมองไปรอบ ๆ ห้องที่เล็กยังกับรูหนู“ไอ้เสือเราไปอาบน้ำกัน”“ครับ” แล้วสองพ่อลูกก็เดินเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจ“คนบ้า เอาแต่ใจตัวเองไม่เลิก” ถึงปากจะบ่นแต่กลับมีรอยยิ้มบนใบหน้า“แม่จ๋าหนูอยากใส่ชุดหมีนอน แล้วอยากกินหม่ำแม่ด้วย นะคะภูพิงค์หิวหม่ำอยากจับนุ่มนิ่มจะได้ไม่ฝันร้าย” เด็กน้อยพูดอย่างออดอ้อน ทำตาใสแป๋วอย่างน่าสงสาร“หยิกก้นเลยดีไหมไปใส่เสื้อผ้า พรุ่งนี้แม่จ๋าพาไปหาคุ
20.00 น.“ขอบคุณนะคะสำหรับวันนี้และขอบคุณที่มาส่ง” นับดาวยิ้มให้สไนเปอร์ที่ยืนทำหน้านิ่งเมื่อได้ยินเธอเอ่ยอย่างนั้น“มาส่ง” เขายื่นใบหน้าหล่อ ๆ เข้าไปใกล้เธอ“ก็พี่กำลังจะกลับแล้วนิ”หลังจากที่ทานข้าวเสร็จก็พาลูกไปเดินเที่ยวซื้อของและมาส่งลูกเมียที่ห้องพัก เพราะอยากจะเห็นกับตาว่าเธอลำบากมากแค่ไหนและต้องพูดไม่ออกเมื่อห้องที่เธอกับลูกอยู่มันเล็กกว่าห้องเก็บของบ้านเขาเสียอีก แต่เขากลับภูมิใจและรักเธอมากขึ้นถึงจะลำบากขนาดไหนแต่เธอกลับเลี้ยงลูกให้สบายไม่ได้อดอยากของเล่นน้อยใหญ่เต็มห้อง“อ๊าก!! พี่ภูผา น้องเดินได้ด้วย” สองสายตาที่จดจ้องมองตากันต้องหันขวับไปทางต้นเสียงเล็กที่กรีดร้องออกมาอย่างตื่นเต้นดีใจเมื่อเด็กน้อยภูพิงค์ได้ตุ๊กตาซานริโอ My Melody ตัวสีชมพูน่ารักที่อ้อนพ่อจนต้องซื้อให้ ไหนจะของเล่นชิ้นอื่นที่เขาไม่เอาลงจากรถ ส่วนคนพี่กลับไม่เอาอะไรสักอย่างเอาแต่เดินจูงมือแม่“ภูพิงค์เบา ๆ มันดึกแล้วนะ” ภูผาเอามือเล็ก ๆ ปิดปากน้องสาว ทันทีที่พี่ชายทำแบบนั้นภูพิงค์ก็เงียบแล้วนั่งเล่นหัวเราะคิกคักกับพี่สองคน โดยมีสายตาสองคู่ที่มองลูกน้อยทั้งสองแล้วอดที่จะยิ้มตามไม่ได้“พี่เปอร์ จะทำอะไร”“